ดูเหมือนคุณจะเข้าใจถูก แต่ก็ยังไม่ถูก
๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๗
************************
สราญจิต ทองใบบัว : สรุปอยู่ที่จิตที่ใจนะคะคิดดีก็น่าจะดีเพราะไม่มีอกุศลในใจไม่มีอกุศลเพราะไม่รู้คำแปลบางทีถ้ารู้เยอะรู้มากแล้วรังจะสร้างแต่ประเด็นปัญหา รู้แบบเราๆก็พอกระมัง
************************
พระธรรมวินัยนี้ มีข้อแตกต่างจากศาสนาและลัทธิความเชื่ออื่นๆ ตรงที่สอนให้มีปัญญา
หากคิดง่ายๆ แบบคุณว่า ขอเพียงทำให้จิตนี้เป็นกุศล ตั้งมั่นอยู่ในกุศล ก็ถือว่าเป็นวิธีคิดที่ไม่ผิด
ซึ่งคุณควรจะไปบอกโสดาต้นแบบที่คุณคิดว่า อะไรก็ได้จาน หากทำให้ใจตั้งมั่นอยู่ในกุศล ก็ถือว่าใช้ได้ทั้งนั้น
แต่คุณคงจะผิดหวัง เพราะจานแกชอบโชว์ปัญญา โชว์ฉลาด โชว์รู้ ทั้งที่โง่ แต่อวดฉลาด ไม่รู้จริง แต่โชว์ว่ากูรู้ ถึงขนาดอวดรู้ว่า พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ยังมีเบญจขันธ์อยู่ ก็ยังมีความโกรธอยู่ เป็นต้น
และยังมีอีกหลากหลายประเด็นที่จานเข้าโชว์ว่ารู้ดีกว่าองค์พระศาสดา
ล่าสุดที่ฉันได้รับคลิปของจาน ก็ออกมาโชว์ว่า การสวดมนต์บทยันทุน ถือว่าเป็นมิจฉาทิฐิ เป็นสิ่งที่ก่อเวรด้วยบทสวดที่แปลแล้ว มีคำว่า ขอสิ่งอัปมงคลเหล่านั้นจงเสื่อมสูญพินาศไปด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เถิด
ขณะที่จานเองก็สอนสาวกตนว่า ให้สวด ให้สาธยายมนต์รัตนปริตร อาฏานาฏิยปริตร ขันธปริตร และเนื้อหาคำแปลของอาฏานาฏิยปริตร ที่ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ ท่าน แต่งขึ้นถวายพระพุทธเจ้า เพื่อให้ทรงมีพุทธานุญาต ให้หมู่ภิกษุสงฆ์สาวกได้สวด ได้สาธยายเพื่อป้องกันมิให้พวกอมนุษย์ทั้งหลายมารังควานในขณะเจริญสมณธรรม ก็มีเนื้อหาบางบทว่า
สักกัต๎วา พุทธะระตะนัง
โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง
หิตัง เทวะมะนุสสานัง
พุทธะเตเชนะ โสตถินา
นัสสันตุปัททะวา สัพเพ
ทุกขา วูปะสะเมนตุ เม*
เพราะกระทำความเคารพ ซึ่งพุทธรัตนะ อันเป็นดังโอสถอันประเสริฐสุด ผู้เกื้อกูลแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ด้วยเดชแห่งพระพุทธเจ้า ขออุปัทวะทั้งหลายทั้งปวง จงพินาศไป ขอทุกข์ทั้งหลายของท่าน จงสงบไป โดยสวัสดี
คำแปลแบบนี้จานไม่พูด ไม่บอก ไม่สอนว่าเป็นมิจฉาทิฐิ เพราะอะไรล่ะหรือ เพราะจานเป็นคนสนับสนุนให้สาวกของตนสวดไง
ซึ่งทั้งที่แท้จริงแล้วมนต์พระปริตรในแต่บทล้วนมีที่มาตั้งแต่สมัยครั้งพุทธกาล แต่จานก็ชอบอวดรู้ออกมาผายลม วิพากษ์วิจารณ์ บิดเบือนแบบผิดๆ ด้วยการใช้อัตโนมัติของตนเป็นหลัก
ส่วนที่คุณโพสต์ว่า ถ้ารู้คำแปลแล้วมันจะสร้างปัญหา
ขอบอกว่า คนทั่วไปเขาไม่มีปัญหาต่อมนต์พระปริตรและคำแปลใดๆ ดอก
จะมีก็แต่คนอย่างโสดาต้นและสาวกของเขาเท่านั้นที่ทำตัวเป็นอึ่งอางอยู่แต่ในกะลา ไม่รู้ ไม่รับโลกที่กว้างใหญ่นี้ว่า เขาเรียนเขารู้ เขาปฏิบัติกันอย่างไรบ้าง
และพุทธะอิสระก็อยากบอกคุณว่า หากคนเป็นพุทธบริษัทที่แท้จริง แล้วกลัวที่จะรู้เยอะ รู้มาก เช่นนั้นก็ไม่น่าจะใช้ยี่ห้อว่า พุทธบริษัทแล้วล่ะ เพราะคำว่า พุทธบริษัท เขาแปลว่า บริษัทผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
หากพุทธบริษัทปฏิเสธที่จะรู้ความจริงเสียแล้ว แล้วใครจะเรียนรู้สัจธรรม ความจริงอันประเสริฐ เช่น อริยสัจทั้ง ๔ เล่า
ฉะนั้นหน้าที่ของพุทธบริษัทที่ดี คือ ต้องขวนขวายที่จะศึกษาเรียนรู้ในเรื่องจริง ในชีวิตจริงที่ถูกมายาการบังตาและภาพลวงบังใจ ปกปิดเอาไว้
หน้าที่ของพุทธบริษัทต้องแยกแยะให้ออกว่า สิ่งใดเป็นมายา สิ่งใดเป็นสัจจะ เช่นนี้จึงชื่อว่า เป็นพุทธบริษัทที่มีสติปัญญา
พุทธะอิสระ
——————————————–
——————————————–
It looks like you got it right, but you do not.
October 18, 2024
************************
Saranjit Thongbaibua : In conclusion, it depends on one’s mind and heart. Positive thinking is better because one will not have any ill thoughts. One has no wrong thought because one does not understand the meaning. Knowing a lot will only cause problems. Knowing a little like us is enough.
************************
Buddhist doctrine and discipline differs from other religions and doctrines in that it teaches followers to have wisdom.
Your simple thought of focusing on meritorious thoughts is not wrong.
You should tell “Soda Ton” that “Jahn, whichever will work if one’s mind is focused on meritorious thought.”
However, you may be disappointed because Jahn likes to show off his wisdom, intelligence, and knowledge like a smartass. For example, he boasted that the Buddha and the Arhats still had the five aggregates of physical and mental phenomena composing life, namely body, feeling, memory, mental formations, and consciousness, and still had anger.
On various occasions, Jahn showed that he knew more than the Buddha.
Recently, I received a video clip of Jahn saying that chanting the Yan-dunnimittaṁ Prayer (the Abhaya Paritta) is a mistaken notion and causes retribution because the prayer contains the saying, “By the Buddha’s power, by the Dharma’s power, and the Sangha’s power, may unlucky portents and ill omens be destroyed.”
Nevertheless, Jahn is teaching his followers to chant the Ratana Paritta, the Atanatiya Paritta, and the Khandha Paritta. The Four Great Guardian Deities composed the Atanatiya Paritta and gave it to the Buddha. The Buddha allowed the Sangha or Buddhist monks to recite the Atanatiya Paritta prayer to protect themselves from evil spirits during their Dharma practice. A part of the Atanatiya Paritta below also has a similar meaning to the Yan-dunnimittaṁ Prayer.
Sakkatva Buddha ratanam
Osadham uttamam varam
Hitam deva manussanam
Buddha tejena sotthina
Nassantu paddava sabbe
Dukkha vupasamentu te
Having revered the jewel of the Buddha, the superb medicine for the well-being of all humans and deities, may all obstacles vanish, unlucky portents and ill omens be destroyed, and may your sufferings be gone by the Buddha’s power.
Why didn’t Jahn say the meaning of Atanatiya Paritta’s stanza is also a mistaken notion? Why? Because Jahn has encouraged his followers to recite this prayer.
Each of the Paritta prayers originated in the Buddha’s era. As a smart ass, Jahn likes to criticize and distort the Dharma by mainly using his personal opinions.
You posted that knowing the meaning of prayers will cause problems.
General people do not have any problem with the Paritta prayers and their meaning.
Except people like Soda Ton and his disciples, who live in the bubble and know nothing about this vast world or how other people learn and practice Dharma.
Buddha Isara (I) want to tell you that as a Buddhist, anybody who fears knowing a lot should not be called a Buddhist because a Buddhist means an awakening person who perceives, wakes up from ignorance and is free from suffering.
If Buddhists deny knowing the truth, who will learn eternal truths like the Four Noble Truths?
If Buddhists deny knowing the truth, who will learn eternal truths like the Four Noble Truths?
Consequently, the duty of a good Buddhist is to persevere in learning the reality from real life, which illusions have hidden from one’s sight and mind. Buddhists must be able to differentiate between illusion and truth. As such, the Buddhist is deemed as wise.
Buddha Issara
——————————————–
Previous article : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid0ZjJFtG851hoHd2GJzbgiweDUxGZDGJBb8h2zBhz65UA7nfvSPnsoppwHLKkcvpLdl