ถึงเวลาที่จะกวาด กำจัดขยะแผ่นดินได้แล้ว
๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๗
ทนายอั๋นเขาส่งรายงานกรณีพฤติการณ์ของนักการเมืองขี้ฉ้อมาให้พิจารณา จึงนำมาให้ท่านทั้งหลายได้อ่านดูเป็นความรู้ จะได้ไม่มโนกันไปเอง โดยไม่รู้ความจริง
*************
สรุปสาระสำคัญของคำร้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญ
– ยื่นคำร้อง วันที่ 10 ตุลาคม 2567 เวลา 10.30 น. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ
– ผู้ยื่นคำร้อง นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน
– ตามกฎหมาย รัฐธรรมนูญ มาตรา 49
– ความประสงค์ คำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญโปรดวินิจฉัยวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ ๑ และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ ๒ เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
– ก่อนยื่นศาลได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 พ้นกำหนด 15 วันนับแต่วันที่ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด (ครบกำหนดวันที่ 9 ตุลาคม 2567) ไม่ปรากฏว่าอัยการสูงสุดได้ดำเนินการส่งคำร้องขอของผู้ร้องมายังศาลรัฐธรรมนูญตามที่ร้องขอ ผู้ร้องจึงใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสาม ยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอศาลรัฐธรรมนูญโปรดวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการกระทำใช้สิทธิและเสรีภาพอันอาจจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49
– เอกสาร คำร้อง 65 หน้า เอกสารหลักฐานประกอบ 443 แผ่น รวม 508 แผ่น
– พฤติการณ์แบ่งได้เป็น 6 กรณี ดังนี้
กรณีที่ 1. ผู้ถูกร้องที่ 1 ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไปอีก 1 ปี โดยพบว่าผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้พรรคผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นเครื่องมือควบคุมการบริหารรราชการแผ่นดินสั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ระหว่างต้องโทษจำคุกได้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อไม่ต้องรับโทษอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว เป็นการฝ่าฝืนไม่น้อมรับโทษจำคุกในเรือนจำตามพระบรมราชโองการ การกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 เป็นการกระทำที่ไม่บังควรอย่างยิ่งทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ส่งผลให้เกิดการเซาะกร่อน บ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์ในที่สุด
กรณีที่ 2. ผู้ถูกร้องที่ 1 มีพฤติกรรมฝักใฝ่คบหาร่วมคิดกับสมเด็จฯฮุน เซน ซึ่งเป็นผู้นำทางการเมืองประเทศกัมพูชา ซึ่งมีระบบการปกครองที่ฝ่ายการเมืองมีอำนาจเหนือสถาบันพระมหากษัตริย์ และผู้ถูกร้องที่ 1 มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และ เป็นผู้สั่งการ ผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นเครื่องมือควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินสั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์กับสมเด็จฯฮุน เซน ให้ประเทศกัมพูชาละเมิดอธิปไตยทางทะเลของไทย โดยให้มีการเจรจาพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าเป็นเขตพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (MOU 2544) เพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา
กรณีที่ 3. ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชนซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมือง (พรรคก้าวไกลเดิม) ที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และผู้ถูกร้องที่ 1 มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และ เป็นผู้สั่งการ ให้ผู้ถูกร้องที่ 2 เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อผู้ถูกร้องที่ 1 และพวก
กรณีที่ 4. ผู้ถูกร้องที่ 1 มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และ เป็นผู้สั่งการแทน ผู้ถูกร้องที่ 2 ในการเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการเสนอบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ที่บ้านพักส่วนตัวของผู้ถูกร้องที่ 1 (บ้านจันทร์ส่องหล้า)
กรณีที่ 5. ผู้ถูกร้องที่ 1 มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และ เป็นผู้สั่งการ ให้ผู้ถูกร้องที่ 2 มีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาลโดยผู้ถูกร้องที่ 2 ยินยอมกระทำการตามที่ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการ
กรณีที่ 6. ผู้ถูกร้องที่ 1 มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และ เป็นผู้สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ให้นำนโยบายของผู้ถูกร้องที่ 1 ที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 12 กันยายน 2567
– การฝ่าฝืน ทั้ง 6 กรณี เข้าลักษณะฝ่าฝืน 2 ลักษณะ เป็นการกระทำที่อาจนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด
ลักษณะที่ 1. ผู้ถูกร้องทั้งสองได้มีการกระทำอันเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์สูญเสียสถานะ ที่จะต้องอยู่เหนือการเมืองหรือดำรงความเป็นกลาง ทางการเมือง ย่อมเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเหตุให้ชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง
ลักษณะที่ 2. ผู้ถูกร้องทั้งสองมีการกระทำอันมีเจตนาเซาะกร่อน บ่อนทำลายระบบพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทาง การเมืองที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ชำรุดทรุดโทรมเสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง
– คำขอต่อศาล จึงขอศาลรัฐธรรมนูญโปรดพิจารณาวินิจฉัยสั่งการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง ดังนี้
1. ให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 เลิกกระทำการใช้พรรคผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นเครื่องมือกระทำการอันเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์
2. ให้ผู้ถูกร้องที่ 1 เลิกกระทำการเป็นเจ้าของ ผู้ครอบครองผู้ครอบงำ และเป็นผู้สั่งการการดำเนินงานของพรรคผู้ถูกร้อง ที่ 2
3. ให้ผู้ถูกร้องที่ 1 เลิกใช้พรรคผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นเครื่องมือควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน สั่งการรัฐบาลให้ดำเนินการตามความต้องการของผู้ถูกร้องที่ 1
4. ให้ผู้ถูกร้องที่ 1 เลิกกระทำการใช้พรรคผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการที่มิได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้
5. ให้พรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกยินยอมให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้เป็นเครื่องมือกระทำการอันเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์
6. ให้ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกยินยอมให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้เป็นเครื่องมือกระทำการเป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และเป็นผู้สั่งการ การดำเนินงานของพรรคผู้ถูกร้องที่ 2
7. ให้ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกยินยอมให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้พรรคผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นเครื่องมือควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินสั่งการรัฐบาลให้ดำเนินการตามความต้องการของผู้ถูกร้องที่ 1
8. ให้ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกยินยอมให้ ผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อให้ ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการที่มิได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้
**********************
อ่านแล้วอย่าตกใจ เดี๋ยวจะมีภาคต่อไป
พุทธะอิสระ
——————————————–
——————————————–
It is now time to clean up the country’s garbage.
October 14, 2024
The lawyer Aun sent me a report on corrupt politicians’ behaviors. Consequently, I would like to share it with you so that you will be informed and will not imagine without facts.
**********************
Summary of Petition to the Constitutional Court
• The petition was submitted to the Constitutional Court on October 10, 2024, at 10:30 A.M.
- • Mr. Theerayut Suwankesorn, as an individual person, submitted the complaint.
- According to Section 49 of the Constitution of the Kingdom of Thailand
- The objective of the petition is for the Constitutional Court to order Mr. Thaksin Shinawatra, the first accused, and the Pheu Thai Party, the second accused, to halt all activities deemed hostile to the constitutional monarchy, according to Section 49 of the Constitution of the Kingdom of Thailand.
- • Mr. Theerayut Suwankesorn, as an individual person, submitted the complaint.
- According to Section 49 of the Constitution of the Kingdom of Thailand
- The objective of the petition is for the Constitutional Court to order Mr. Thaksin Shinawatra, the first accused, and the Pheu Thai Party, the second accused, to halt all activities deemed hostile to the constitutional monarchy, according to Section 49 of the Constitution of the Kingdom of Thailand.
- • On September 24, 2024, the petitioner previously submitted the petition to the Chief Ombudsman. On October 9, 2024, it reached 15 days after the submission to the Chief Ombudsman, who has not yet submitted the petition to the Constitutional Court. According to the right empowered by the 3rd Provision of the Section 49 of the Constitution, Mr. Theerayut submitted the petition directly to the Constitutional Court to request the court to order the two accused to halt all activities deemed hostile to the constitutional monarchy, according to Section 49 of the Constitution of the Kingdom of Thailand.
- • The petition is a 65-page document, with 443 pages of supporting evidence, totaling 508 pages.
- • The behaviors of the accused can be summarized in six cases as follows.
Case 1: The first accused (Mr. Thaksin Shinawatra) received a royal pardon reducing his jail term to one year. It was found that the first accused exploited the second accused (the Pheu Thai Party) to control the administration of the country via the Ministry of Justice, the Department of Corrections, and the Police Hospital, for his benefit. During his imprisonment term, he stayed on the 14th floor of the Police Hospital so that he did not spend a single day in jail. His behaviors violated the imprisonment sentence according to the royal command and shall be deemed defamation to His Majesty the King, undermining monarchy’s dignity.
Case 2: The first accused (Mr. Thaksin Shinawatra) conspires with Samdech Hun Sen, the political leader of Cambodia, whose political regime dominates the monarchy. The first accused’s behavior shows his control over the second accused (the Pheu Thai Party) with its national administration power, enabling Cambodia to invade Thailand’s sovereignty that Cambodia claims to be an overlapping maritime area between Thailand and Cambodia (MOU 2544), to share natural gas and marine resources of Thailand to Cambodia.
Case 3: The first accused (Mr. Thaksin Shinawatra) ordered the second accused (the Pheu Thai Party) to collaborate with the People’s Party, founded by a political group (formerly the Move Forward Party), to amend the Constitution, although the Constitution Court’s verdict no. 3/2567 ruled that the Move Forward Party committed treason by attempting to overthrow the constitutional monarchy. Besides, the first accused’s behavior showed his domineering control over the second accused (the Pheu Thai Party) to amend the Constitution to his and his allies’ advantage.
Case 4: The first accused’s (Mr. Thaksin Shinawatra) behavior shows his control over the second accused (the Pheu Thai Party) to negotiate with leaders of coalition parties to join the government of Prime Minister Srettha Thavisin on a candidate to be the new prime minister at the residence of the first accused (Ban Chan Song La).
Case 5: The first accused (Mr. Thaksin Shinawatra)’s behavior shows his control over the second accused (the Pheu Thai Party) to expel the Palang Pracharath Party from the coalition government, and the second accused agreed to do so.
Case 6: The first accused (Mr. Thaksin Shinawatra)’s behavior shows his control over the second accused (the Pheu Thai Party) to adopt his visions announced on August 22, 2024, to become policies of the cabinet announced to the parliament on September 12, 2024.
- – The above six cases of violation fall under two characteristics of actions that may ultimately lead to the overthrow of the constitutional monarchy.
1st Characteristic: Both the first accused and the second accused’s actions undermined the grace of the monarchy, being above politics or politically neutral. Thus, their actions have ruined and weakened the royal institution.
2nd Characteristic: Both the first accused and the second accused intentionally undermined and weakened the political party system, vital for the constitutional monarchy.
This petition requests the Constitutional Court to rule according to the 2nd Provision of Section 49 of the Constitution as follows.
1. Mr. Thaksin Shinawatra, the first accused, halts all activities deemed hostile to the constitutional monarchy.
2. The first accused stops any action to dominate and command the operations of the second accused.
3. The first accused ceases exploiting the second accused as a tool to control the administration of the country according to the first accused’s wish.
4. The first accused stops exploiting the second accused as a tool to obtain power to administer the country by any methods not stated in the Constitution.
5. The second accused stops letting the first accused dominate and command its operations.
6. The second accused stops letting the first accused exploit as a tool to control the country’s administration and orders the government to act according to the first accused’s wishes.
7. The second accused stops letting the first accused exploit it as a tool to obtain the power to administer the country by any methods not stated in the Constitution.
**********************
Don’t panic after reading. There will be the next episodes.
Buddha Isara
——————————————–
Previous article : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid02TLR9oNJfoLVv6D3qyinWoHB3DDLudBsYj9tuZNF6vsP5Y3dNkUz4GAsdzCSKoARQl