๒ ตุลาคม ๒๕๖๗
ส่วนหนึ่งของคลิปโสดาต้นที่ตอบคำถามในหัวข้อ (พระโสดาบัน “ผิดศีล?” มีอะไรกันชั่วข้ามคืน มีโอกาสผิดพลาดได้อยู่)
คือ โดยปกติโสดาบันจะไม่ทำอย่างนั้น โดยปกตินะ
แต่ก็จะมีพระโสดาบันแบบอินทรีย์อ่อน อินทรีย์ปานกลาง และอินทรีย์แก่กล้า ถ้าโสดาบันทำอย่างนั้นได้ ถ้าจะนับก็นับว่าเป็นอินทรีย์อ่อนที่ทำอย่างนั้น
****************
คิดต่างข้อที่ ๑
ที่ปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๓ ข้อที่ ๒๕๘-๒๖๓
พระโสดาบัน มีอยู่ด้วยกันแค่สองประเภทเท่านั้นนะโสดาต้นนั้นได้แก่
โสดาปัตติมรรค ได้แก่ ผู้เข้าถึงหนทางปฏิบัติเพื่อบรรลุโสดาปัตติผล คือความเป็นพระโสดาบันอันสมบูรณ์ จนปรากฎญาณ ได้แก่ ความรู้เป็นเหตุให้ละสังโยชน์ได้ ๓ คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส
โสดาปัตติผล ได้แก่ ผู้ที่เข้าถึงผลของการมุ่งปฏิบัติจนลุถึงกระแสสู่นิพพาน อันเป็นผลที่ได้รับจากการละสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส
– สักกายทิฏฐิ คือ ความเห็นเป็นเหตุให้ถือตัวตน เช่นเห็นว่ากายนี้ใจนี้เป็นตัวตนของเรา
– วิจิกิจฉา คือ ความลังเลสงสัย เช่นสงสัยในข้อปฏิบัติ ของตนที่ปฏิบัติตามวิถีแห่งอริยมรรคว่าถูกต้องหรือไม่ สงสัยในคุณของพระพุทธ สงสัยในคุณของพระธรรม สงสัยในคุณของพระสงฆ์ (แล้วที่โสดาต้นสงสัยว่า พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ ยังมีความโกรธอยู่นั้น มันเป็นโสดาของศาสนาไหน) หรือในอริยสัจ ๔ ว่ามีจริงหรือไม่
– สีลัพพตปรามาส คือ ความเชื่อถือยึดมั่นว่าความวิเศษศักดิ์สิทธิ์มีได้ด้วยศีลและพรตที่ตนมี จนกลายเป็นความลุ่มหลงตัวเอง (เอ…เหมือนใครหว้า)
****************
อีกทั้งคุณลักษณะของพระโสดาบันต้องมี ๔ ประการ คือ
๑. มีความศรัทธาเชื่อมั่นในพระพุทธเจ้า
(แล้วไอ้คนที่บอกที่สอนว่า พระพุทธเจ้ายังมีความโกรธอยู่เนี่ย มันเป็นโสดาประเภทไหน)
๒. มีความศรัทธาเชื่อมันในพระธรรมเจ้า
๓. มีความศรัทธาเชื่อมั่นในพระสังฆเจ้า
(แล้วไอ้คนที่บอกว่า พระอรหันต์ยังมีความโกรธอยู่เนี่ย มันเรียนมาจากคัมภีร์เล่มไหน อย่าว่าแต่ศรัทธาเลย แม้แต่ปัญญารู้ชัดตามความเป็นจริง มันก็ไม่มี)
๔. มีศีล ๕ เป็นข้อปฏิบัติประจำชีวิตจิตใจของตัวเองโดยไม่มีการมัวหมองด่างพร้อยเลยทุกขณะจิต
****************
คุณธรรม คุณสมบัติดังกล่าวมานี้ มีอยู่ใน พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ – หน้าที่ ๒๗๒
โอคธสูตร (องค์คุณของพระโสดาบัน)
ความเป็นพระโสดาบัน เมื่อถึงความเป็นพระโสดาบันแล้ว ย่อมมีศีล ๕ ไม่ขาดเลย เรียกได้ว่า เป็นผู้ที่สมบูรณ์ในศีล ๕ เรียกว่า อริยกันตศีล คือ ศีลที่พระอริยเจ้าชอบใจ ซึ่งต้องประกอบไปด้วย สติความรู้สึกตัว ทั้งพร้อมอินทรีย์สังวร ความสำรวมตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ หิริโอตัปปะ ความละอายชั่วกลัวบาป เหล่านี้คือ ศีลของพระโสดาปัตติผล
ซึ่งจะไม่รักษาศีล เช่นปุถุชนทั่วๆ เพราะฉะนั้น แม้จะรักษาศีลโดยนัยละเอียดเห็นปานนี้ ท่านก็ยังไม่ชื่อว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ได้จริงๆ เพราะขณะใดที่มีเจตสิกในฝ่ายอกุศลจิต เกิดขึ้น ขณะนั้นจิตก็เศร้าหมอง ศีลก็เศร้าหมองไปด้วย แต่เป็นแค่มโนทุจริตหาได้ลงไม้ลงมือละเมิดศีล ด้วยกาย และวาจาไม่ เช่น จะไม่ละเมิดในทุจริต ๓ อย่าง คือ
เว้นขาดจากกายทุจริต หมายถึง ความประพฤติชั่วทางกายมี ๓ ประการ ได้แก่ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ และการประพฤติผิดในกาม
เว้นขาดจากวจีทุจริต หมายถึง ความประพฤติชั่วทางวาจา มี ๔ ประการ ได้แก่ การพูดเท็จ การพูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อและพูดส่อเสียด
เว้นขาดจากมโนทุจริต หมายถึง ความประพฤติชั่วทางใจมี ๓ ประการ คือ ความโลภ ความคิดพยาบาท ความเห็นผิดจากคลองธรรมแต่จะไม่ละเมิดศีล ๕ เด็ดขาด และพระโสดาบันหากจำเป็นจะต้องเลือก ระหว่างการรักษาศีล ๕ กับการรักษาชีวิต พระโสดาบันก็ยอมสละชีวิตเพื่อรักษาศีล
************************
แล้วไอ้ที่โสดาต้น พ่นวลีละเมิดออกมาว่า พระโสดาบันอาจทำการละเมิดศีล ผิดพลาดได้นะ ไปอ่านมาจากคัมภีร์เล่มใด
โสดาต้นเคยได้ยินคำว่า จุลศีล มัชฌิมศีล และมหาศีลไหม
ขอถามว่า พระโสดาปัตติผล ตั้งมั่นอยู่ในศีลบทใด รอฟังคำตอบอยู่นะจ๊ะ
วันนี้ขอคิดต่างแค่วลีที่ว่า พระโสดาบัน ๓ แบบของโสดาต้นแค่นี้ก่อนก็แล้วกันนะจ๊ะ วันหน้าจะขอคิดต่างจากคำละเมิดของโสดาต้นในวลีต่อไป
พุทธะอิสระ
——————————————–