ทักขิณาวิภังคสูตร (พระสูตรว่าด้วยการจำแนกทักษิณาทาน)(ตอนที่ 1)

0
22

ทักขิณาวิภังคสูตร (พระสูตรว่าด้วยการจำแนกทักษิณาทาน)(ตอนที่ ๑)
๙ กันยายน ๒๕๖๗

สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่พระวิหารนิโครธาราม เขตพระนครกบิลพัสดุ์ ในสักกชนบท

สมัยนั้นแล พระนางมหาปชาบดีโคตมีทรงถือผ้าห่มคู่หนึ่ง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคยังที่ประทับ แล้วถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พอประทับนั่งเรียบร้อยแล้ว

ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ผ้าใหม่คู่นี้ หม่อมฉัน กรอด้าย ทอเอง ตั้งใจอุทิศพระผู้มีพระภาค ขอพระผู้มีพระภาคทรงอาศัยความอนุเคราะห์แก่หม่อมฉัน โปรดรับผ้าใหม่ทั้งคู่ของหม่อมฉันด้วยเถิด ฯ

เมื่อพระนางกราบทูลแล้วอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคได้ทรงตรัสว่า ดูกร โคตรมี พระนางจงถวายผ้านั้นแก่สงฆ์เถิด เมื่อถวายสงฆ์แล้วจักเป็นอันพระนางได้บูชาทั้งเราตถาคตและหมู่สงฆ์

พระนางมหาปชาบดีโคตมี ได้ฟังดังนี้จึงกราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ผ้าใหม่คู่นี้ หม่อมฉันกรอด้าย ทอเอง ตั้งใจอุทิศพระผู้มีพระภาค ขอพระผู้มีพระภาคทรงอาศัยความอนุเคราะห์แก่หม่อมฉัน โปรดรับผ้าใหม่ทั้งคู่นี้ของหม่อมฉันเถิด แม้ในครั้งที่ ๒ และครั้งที่ ๓ แต่องค์พระผู้มีพระภาคก็ยังทรงตรัสกะพระนาง แม้ครั้งที่ ๒ และครั้งที่ ๓ ดังนี้ว่า

ดูกรโคตมีขอพระนางจงถวายผ้านั้นแก่หมู่สงฆ์เถิด เมื่อถวายสงฆ์แล้ว จักเป็นอันพระนางได้บูชาทั้งเราตถาคตและหมู่สงฆ์ ฯ

พระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้ ท่านพระอานนท์ได้นั่งถวายงานพัดอยู่เบื้องหลังจึงได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาค โปรดรับผ้าใหม่ทั้งคู่ ของพระนางมหาปชาบดีโคตรมีเถิด พระนางมหาปชาบดีโคตมี มีอุปการะแก่พระองค์มาก เป็นพระมาตุจฉาผู้ทรงบำรุงเลี้ยง (เป็นแม่นม) ประทานพระขีรรสแด่พระผู้มีพระภาคเมื่อพระชนนีสวรรคตแล้ว พระนางได้โปรดให้พระองค์ซึ่งเป็นพระกุมารในขณะนั้นได้ดื่มเต้าพระถัน

แม้พระผู้มีพระภาคก็ทรงมีอุปการะมากแก่พระนางมหาปชาบดีโคตมี

พระนางทรงอาศัยพระผู้มีพระภาค จึงทรงถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะได้ (ถึงพระรัตนไตร)

ทรงอาศัยพระผู้มีพระภาค จึงทรงงดเว้นจากปาณาติบาต จากอทินนาทาน จากกาเมสุมิจฉาจาร จากมุสาวาท จากฐานะเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเพราะดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยได้
ทรงอาศัยพระผู้มีพระภาค จึงทรงประกอบด้วยความเลื่อมใสอย่างไม่หวั่นไหว ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทรงประกอบด้วยศีลที่พระอริยะมุ่งหมายได้

ทรงอาศัยพระผู้มีพระภาค จึงเป็นผู้หมดความสงสัยในทุกข์ ในทุกขสมุทัย ในทุกขนิโรธ ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาได้ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้พระผู้มีพระภาคก็ทรงมีพระอุปการะมากแก่พระนางมหาปชาบดีโคตมีดังนี้

พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า ถูกแล้วๆ อานนท์ จริงอยู่บุคคลอาศัยบุคคลใดแล้ว เป็นผู้ถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะได้ เราไม่กล่าวการที่บุคคลนี้ตอบแทนต่อบุคคลนี้ด้วยดี เพียงกราบไหว้ ลุกรับ ทำอัญชลี ทำสามีจิกรรม ด้วยให้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร

บุคคลใดอาศัยบุคคลใดแล้ว งดเว้นจากปาณาติบาต จากอทินนาทาน จากกาเมสุมิจฉาจาร จากมุสาวาท จากฐานะเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเพราะดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยได้ เราไม่กล่าวการที่บุคคลนี้ตอบแทนต่อบุคคลนั้นด้วยดี เพียงกราบไหว้ ลุกรับ ทำอัญชลี ทำสามีจิกรรม ด้วยให้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร

บุคคลอาศัยบุคคลใดแล้ว เป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใส อย่างไม่หวั่นไหวในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ประกอบด้วยศีลที่พระอริยะมุ่งหมายได้เราไม่กล่าวการที่บุคคลนี้ตอบแทนบุคคลนี้ด้วยดี เพียงกราบไหว้ลุกรับ ทำอัญชลี ทำสามีจิกรรม ด้วยเพิ่มให้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร

บุคคลอาศัยบุคคลใดแล้ว เป็นผู้หมดความสงสัยในทุกข์ ในทุกขสมุทัย ในทุกขนิโรธ ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาได้ เราไม่กล่าวการที่บุคคลนี้ตอบแทนบุคคลนี้ด้วยดี เพียงกราบไหว้ ลุกรับ ทำอัญชลี ทำสามีจิกรรม ด้วยเพิ่มให้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ฯ
จบเอาไว้แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ

จะไปแต่งต้นไม้

เจริญธรรม

พุทธะอิสระ

——————————————–

ลิ้งค์จาก : https://www.facebook.com/photo/?fbid=896346702357600&set=a.107732901218988