พระภัททากัจจานาเถรี (พระนางยโสธรา,พระนางพิมพา) ตอนที่ ๑๒
๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗
ความเดิมตอนที่แล้วจบลงตรงที่ ปฐวินทรนาคราช ได้ทูลกับท้าวสักกะถึงความปรารถนาในอนาคตกาลว่า อยากเป็นโอรสของพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง พร้อมกล่าวชักชวนท้าวสักกะให้พึงกระทำความปรารถนาเช่นนี้
ท้าวสักกะรับคำของพญานาคนั้นแล้ว ต่อมาวันหนึ่งเห็นภิกษุผู้มีอานุภาพมากรูปหนึ่ง จึงนึกว่า กุลบุตรนี้ออกบวชจากสกุลไหนหนอดังนี้แล้ว ทราบด้วยทิพยจักษุว่ากุลบุตรผู้นี้เป็น บุตรของสกุลผู้สามารถสมานรัฐที่แตกแยกกันแล้วให้รวมเป็นหนึ่งได้ เข้าได้กระทำการอดอาหารถึง ๑๔ วันเพื่อให้มารดาบิดาอนุญาตให้บรรพชา
ต่อมาบิดามารดาจึงอนุญาตให้บวช
ครั้นได้บวชแล้ว ก็มุ่งมั่นปฏิบัติบำเพ็ญจนได้บรรลุคุณวิเศษสูงสุดของมนุษย์ผู้พึงจะบรรลุได้
ท้าวสักกะเทวราชทราบแล้วจึงกระทำมหาสักการะต่อพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอันมีนามว่า ปทุมุตตระ อยู่ตลอด ๗ วัน แล้วตั้งความปรารถนาว่า พระเจ้าข้า ด้วยผลแห่งกัลยาณกรรมนั้น ข้าพระองค์พึงเป็นยอดของเหล่าภิกษุ ผู้บวชด้วยศรัทธาในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต เหมือนอย่างกุลบุตรผู้นี้ในศาสนาของพระองค์เถิด พระศาสดา ทรงเห็นความปรารถนาหาอันตรายมิได้ จึงพยากรณ์ว่า มหาบพิตร พระองค์จักเป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้บวชด้วยศรัทธาในศาสนาของ พระพุทธเจ้าพระนามว่า โคตมะ ในอนาคตแล้วเสด็จกลับไป ฝ่าย ท้าวสักกะก็เสด็จกลับไปยังเทพบุรีของพระองค์ตามเดิม
ฝ่ายปฐวินทรนาคราช เมื่อหมดบุญในฐานะพญานาคราชแล้ว ท่านก็ได้มา เกิดในโลกมนุษย์ ซึ่งก็ยังอยู่ในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ นั่นแหละ ด้วยสมัยนั้นชนทั้งปวงมีอายุยืนยาวถึงหนึ่งแสนปี พญานาคราชนั้นเมื่อตายลง (ซึ่งก็คือพระราหุลในบัดนี้) ก็มาบังเกิดในสกุลคฤหบดีผู้มหาศาล
ครั้นเมื่อเจริญวัยแล้ว อยู่มาวันหนึ่งได้ไปยังพระวิหารที่พระพุทธปทุมุตตระประทับอยู่ และฟังธรรมอยู่แถวท้ายหมู่พุทธบริษัทในวิหารนั้น ได้เห็นภิกษุรูปหนึ่งที่พระศาสดาทรงสถาปนาไว้ในตำแหน่งเป็นยอดของภิกษุผู้ใคร่ต่อการศึกษา ท่านจึงปรารถนาที่จะได้เป็นอย่างภิกษุนี้ในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลเช่นนั้นบ้าง
ดังนั้นท่านจึงนิมนต์พระพระปทุมุตตระพุทธเจ้า ให้เสด็จมาทรงรับบิณฑบาตรยังเรือนของตนพร้อมหมู่ภิกษุอีก ๑,๐๐๐ รูป แล้วทำการจัดสร้างพระอารามถวาย อันประกอบด้วยปราสาทสูง ๗ ชั้น พร้อมทั้งขัดพื้นปราสาทให้เงางามส่องแสงใสสว่างดุจรัตนะ ถวายพระบรมศาสดา พระพุทธองค์ พร้อมด้วยพระขีณาสพ ๑,๐๐๐ รูป เสด็จเข้าไปในปราสาทนั้น ในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ได้ทรงตรัสพระคาถาว่า ผู้ใดปูลาดพื้นพระคันธกุฎีให้โชติช่วงดังกระจกเงาอันขัดดีแล้ว เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว
ประสาททองอันงดงาม คือ ประสาทแก้วไพฑูรย์จักบังเกิดแก่ผู้นั้น ผู้นั้นจักเป็นจอมเทวดา เสวยเทวรัชสมบัติอยู่ ๖๔ ครั้ง ในกัปที่ ๒๑ จักได้เป็นกษัตริย์พระนามว่าวิมล จักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิทรงครอบครองแผ่นดินมีสมุทรสาคร ๔ เป็นขอบเขต มีพระนครชื่อเรณุวดีสร้างด้วยแผ่นอิฐ โดยสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาว ๓๐๐ โยชน์ มีปราสาทชื่อสุทัสนะ อันวิสสุกรรมเทพบุตรนิรมิตให้ ปราสาทนั้นประกอบด้วยเรือนยอดอันประเสริฐ ประดับด้วยแก้ว ๗ ประการ เหมือนจักเป็นสุทัสนนครของเหล่าเทวดา มีรัศมีแห่งนครนั้น เปล่งปลั่งดังพระอาทิตย์เมื่อยามเช้า นครนั้นจักรุ่งเรืองเจิดจ้าด้วยรัศมีโดยรอบ ๘ โยชน์อยู่เป็นนิจ
ในแสนกัปภายหน้า พระศาสดาทรงพระนามว่าโคดมโดยพระโคตร ซึ่งมีสมภพในวงศ์พระเจ้าโอกกากราช จักเสด็จอุบัติในโลก กุลบุตรผู้นี้อันกุศลมูลส่งผลแล้ว จักเคลื่อนจากภพดุสิต แล้วมาเป็นพระราชโอรสของพระผู้มีพระภาคพระนามว่าโคดม ถ้าผู้นั้นจะพึงอยู่ครองเรือน ก็จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ แต่ข้อที่เขาจะยินดีในการครองเรือนนั้น จะไม่เป็นเช่นนั้น เขาจักออกบวชเป็นบรรพชิต เป็นผู้มีวัตรอันงาม จักได้เป็นพระอรหันต์มีนามชื่อว่าราหุล
และเมื่อหมดอายุขัยจากภพนี้ไปแล้ว ก็จะท่องเที่ยวไปในภูมิเทวดาและภูมิมนุษย์ทั้งหลาย วนเวียนอยู่เช่นนั้นตลอดแสนกัป
ในสมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสป กุลบุตรผู้นี้จักก็ได้มาเกิดเป็น พระเชฎฐโอรสของพระเจ้ากิกิ พระญาติทั้งหลายขนานนามพระองค์ว่า ปฐวินทรกุมาร พระองค์มีภคินี ๗ พระองค์ พระภคินีเหล่านั้นสร้างพระอารามถวายพระทศพลถึง ๗ แห่ง พระปฐวินทรกุมารทรงได้ตำแหน่ง อุปราช พระองค์ตรัสกะภคินีเหล่านั้นว่า ขอจงประทานบริเวณในบรรดาที่พระนาง ได้สร้างไว้นั้น ให้หม่อมฉันแห่งหนึ่ง
พระภคินีเหล่านั้น ทูลว่า พระพี่เจ้า พระองค์ดำรงอยู่ในฐานะเป็นอุปราช พระองค์ควรจะเป็นผู้ประทานแก่หม่อมฉันต่างหาก (แทนที่จะตรัสขอ) ดังนั้น ขอพระองค์จงโปรดให้สร้างบริเวณอื่นถวายเถิด พระราชกุมารนั้นได้สดับคำของพระภคินีเหล่านั้นแล้ว จึงให้สร้างวิหารถึง ๕๐๐ แห่ง
อารามทั้ง ๕๐๐ แห่งนั้น พระอุปราชผู้นั้นก็จักตระเวนบำเพ็ญกุศลตลอดชีพ เมื่อละจากอัตภาพนั้นไป บังเกิดในเทวโลก
จบเอาไว้แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ ตอนหน้าเราท่านทั้งหลายค่อยมาตามดูอำนาจของพลังบุญ พลังจิต จนกลับกลายเป็นพลังอนันต์ ที่ได้ส่งผลให้เป็น พระราหุล สืบต่อไป
พุทธะอิสระ
——————————————–
อ่านย้อนหลัง : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid0hucv2MLkNiW8bW7u86WMuQZicR8yg8pHZosnsTH4PZXnc2bv815JDFRWy9LAxkudl