พระภัททกาปิลานีเถรี (ตอนที่ 8)

0
34

พระภัททกาปิลานีเถรี (ตอนที่ ๘)
๒๒ มีนาคม ๒๕๖๗

ความเดิมตอนที่แล้วจบลงตรงที่ พระราชาและพระเทวีได้เกิดธรรมสังเวชในการปรินิพพานของพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๕๐๐ องค์ จึงทรงผนวชอยู่ในพระราชอุทยาน

ขณะที่มหามุนีนันทราชและมหามุนาเทวี ได้ถือบวช พร้อมตั้งมั่นอยู่ในความเพียรทางจิตจนได้ฌานสมาบัติขั้นสูง

ครั้งเมื่อถึงกาลกิริยามหามุนีทั้งสองจึงได้ไปบังเกิดในพรหมชั้นสุทธาวาส จวบจนกาลเวลาล่วงเลยไป ๑ อสงไขย (ยาวเท่ากับ ๑ ตามด้วย ๐ จำนวน ๑๔๐ ตัว) ยุคสมัยพระบรมศาสดาสมณโคดมพุทธเจ้า องค์ปัจจุบัน ท้าวมหาพรหมทั้งสองจึงได้มาบังเกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล ต่างฝ่ายต่างมีทรัพย์สินควรกันคนละ ๘๐ โกฎิ

ท้าวมหาพรหมนันทราช ได้บังเกิดในท้องภรรยาหลวงของกบิลพราหมณ์ ซึ่งอยู่ในตระกูลกัสสปะโคตร ส่วนมหาพราหมณ์มุนาเทวีได้มาบังเกิดในตระกูลโกสิยพราหมณ์ มีนามว่า ภัททากาปิลานี

เมื่อทั้งสองถูกพ่อแม่บังคับให้แต่งงานโดยมิได้เต็มใจ จังได้สัญญากันไว้ว่า จะรักษาพรหมจรรย์จวบจนบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายสิ้นอายุขัยลง จึงได้พากันออกบวช ในพระศาสนาของพระสมณโคดมบรมศาสดา มีนามว่า พระมหากัสสปมุนี และ นางภัททกาปิลานีเถรี

และด้วยอำนาจแห่งมหากุศลกรรมที่ทั้งสองได้กระทำเอาไว้มาแล้วด้วยดีอย่างสม่ำเสมอแต่ในอดีต ประกอบด้วยแรงสัจจะอธิษฐาน พร้อมทั้งทำเหตุปัจจัยให้สมบูรณ์

ทั้งสององค์จึงได้รับการยกย่องจากองค์พระบรมศาสดาอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า

พระมหากัสสปะเป็นผู้เลิศในด้าน การถือธุดงค์ และครองจีวรเศร้าหมอง เลิศยิ่งกว่าภิกษุสงฆ์

มหาเถรีภัททกาปิลานีภิกษุณี ได้รับการยกย่องจากพระบรมศาสดาว่า เป็นผู้เลิศในด้านผู้มีบุพเพนิวาสานุสสติญาณ อันเลิศกว่าหมู่ภิกษุณีสงฆ์ทั้งปวง

ด้วยอำนาจแห่งมหากุศลกรรมที่กระทำอย่างต่อเนื่อง ยาวนานถึงพระพุทธเจ้าได้ปรินิพพานผ่านพ้นไปแล้วถึง ๓ พระองค์ คือ พระปทุมุตตระพุทธเจ้า , พระวิปัสสีพุทธเจ้า , พระกัสสปทศพลพุทธเจ้า

ครั้นกาลเวลาผ่านพ้นไปจนลุถึงพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระสมณโคดม ความมุ่งมั่น หมั่นเพียรพยายามของทั้งสององค์จึงประสบความสำเร็จในยุคของพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า สมณโคดมในปัจจุบัน

สมดังพุทธภาษิตที่ว่าด้วย

“วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ

บุคคลล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร”

“กาลาคตญฺจ น หาเปติ อตฺถํ

คนขยันย่อมไม่พรากจากประโยชน์ชั่วตามกาล”

“วายเมเถว ปุริโส ยาว อตฺถสฺส นิปฺปทา

เกิดเป็นคนควรพยายามจนลุถึงสิ่งที่มุ่งหวัง”

“โกสชฺชํ ภยโต ทิสฺวา วิริยามฺภญฺจ เขมโต
อารทฺธวิริยา โหถ เอสา พุทฺธานุสาสนี

ท่านทั้งหลายจงระลึกรู้อยู่เสมอว่าความเกียจคร้านถือเป็นภัยทั้งในปัจจุบันและอนาคต
และการปรารภความเพียรอยู่ว่าเป็นความปลอดภัยทั้งในปัจจุบันและอนาคต
นี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย”

“สพฺพทา สีลสมฺปนฺโน ปญฺญวา สุสมาหิโต
อารทฺธวิริโย ปหิตตฺโต โอฆํ ตรติ ทุตฺตรํ.

ผู้ถึงพร้อมด้วยศีล มีปัญญา มีใจตั้งมั่นคงที่ดีแล้ว
ปรารภความเพียร ตั้งมั่นไว้ในกาลทุกเมื่อ
ย่อมข้ามโอฆะที่สรรพสัตว์ผู้ไม่มีความเพียรข้ามได้ยาก”

เจริญธรรม

พุทธะอิสระ

——————————————–

ลิ้งค์จาก : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid0rphUqVTViM3a68WB6nMqaUmMYBYjKbFogW3MaH2wagicZoMy9i2Wy4btarvPEy9Ll