สามเณรสุมนะ (ตอนที่ 3)

0
38

สามเณรสุมนะ (ตอนที่ ๓)
๖ ตุลาคม ๒๕๖๖

ความเดิมตอนที่แล้ว ดำเนินมาถึงช่วงที่สามเณรสุมนะ สามารถแสดงฤทธิ์ข่มพญานาคปันนกะ จนสามารถนำน้ำจากสระอโนดาตมาถวาย

พระอนุรุทธะเถระได้รับน้ำจากสระอโนดาต มารักษาโรคลมกำเริบที่เสียดแทงในช่องท้องของพระเถระ

กาลต่อมาสามเณรมาถึงที่พักของพระมหาเถระแล้วนำไปถวายพระอุปัชฌายะ พร้อมกล่าวว่า พระอาจารย์รับน้ำจากสระอโนดาตนี้ไปประกอบยารักษาโรคลมกำเริบด้วยเถิด ขอรับ

ขณะนั้น พญาปันนกะนาคราช จึงชำแรกแผ่นดินมาปรากฎเฉพาะหน้าของพระมหาเถระพร้อมกล่าวว่า “ท่านอนุรุทธะผู้เจริญ สามเณรน้อยผู้นี้ถือเอาน้ำซึ่งข้าพเจ้ายังไม่ได้ให้มา ขอท่านจงอย่าดื่มน้ำนั้นเลย”

พระอนุรุทธะเถระจึงได้ถามสามเณรว่า เป็นจริงอย่างที่นาคตนนี้กล่าวหรือไม่ ?

สามเณรจึงตอบแก่พระอุปัชฌายะของตนว่า ขอนิมนต์ท่านดื่มเถิด ขอรับ, น้ำดื่มอันพระยานาคนี้ให้แล้ว กระผมจึงนำมา.

พระเถระทราบว่า “ขึ้นชื่อว่าการกล่าวคำเท็จของสามเณรผู้เป็นขีณาสพ ย่อมไม่มี” จึงดื่มน้ำแล้ว. อาพาธของท่านสงบลงในขณะนั้นเอง.

พญาปันนกะนาคราชจึงกล่าวกะพระเถระอีกว่า “ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าเป็นผู้อันสามเณรยังให้หมู่เทพทั้งหมดมาประชุมกันให้ได้ละอายแล้ว ข้าพเจ้าจักควักหทัยของเณรน้อย หรือจับที่เท้าของเธอแล้วขว้างไปที่ฝั่งแม่น้ำข้างโน้นดีหละ”

พระเถระกล่าวว่า “ดูก่อนมหาราช สามเณรมีอานุภาพมาก ท่านจักไม่สามารถสู้รบกับสามเณรได้ ท่านจงขออภัยต่อสามเณรนั้น แล้วกลับไปเสียเถิด.

พญานาคนั้นแท้จริงแล้วย่อมรู้อานุภาพของสามเณรเป็นอย่างดี แต่ที่ติดตามมา ก็เพราะความละอาย เรียกว่า มาเพื่อไม่ให้เสียหน้าต่อบริวารที่จะพากันซุบซิบนินทาครหาตนว่า กลัวแม้กระทั่งเณรตัวน้อยๆ

ลำดับนั้น พญานาคปันนกะ เมื่อได้ฟังคำของพระอนุรุทธะมหาเถระ จึงทำตามคำของพระเถระ แล้วกล่าวว่า “นับแต่กาลนี้ เมื่อความต้องการด้วยน้ำในสระอโนดาตมีอยู่ พระผู้เป็นเจ้าไม่ต้องไปตักน้ำด้วยตนเอง เพียงแค่ส่งข่าวไปแจ้งแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจักนำน้ำนั้นมาถวายเอง” ดังนี้แล้วหลีกไป

เมื่อพระอนุรุทธะเถระหายจากอาพาธแล้ว จึงชวนสามเณรสุมนะไปเข้าเฝ้าองค์พระผู้มีพระภาคเจ้า ณ ปราสาทของมิคารมารดา

พระศาสดาทรงทราบความมาแห่งพระเถระแล้ว ประทับนั่งทอดพระเนตรการมาแห่งพระเถระ บนปราสาทของมิคารมารดา. แม้พวกภิกษุอื่นๆ ก็เห็นพระเถระซึ่งกำลังมา ลุกขึ้นต้อนรับ รับบาตรและจีวร

ครั้งเมื่อพระมหาเถระอนุรุทธะได้ทูลเล่าเรื่องทั้งหลายที่สามเณรจูฬสุมนะได้บรรลุพระอรหันต์ พร้อมปฏิสัมภิทาญาณแล้วไปปราบพญาปันนกะนาคราชที่สระอโนดาต เพื่อนำน้ำมาประกอบยา ให้ท่านรักษาโรคลมกำเริบ

องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อทรงสดับแล้วทรงวางเฉย มิได้ทรงตรัสอันใด

กาลต่อมา พวกภิกษุใหม่บางพวกคะนองปากตามประสาภิกษุผู้ยังเป็นปุถุชน ไม่รู้ว่าสามเณรเป็นพระอรหันต์ เห็นสามเณรสุมนะน่ารัก ก็มาลูบหัวบ้าง จับหูบ้าง กล่าวว่า “ว่าไงน้องเณร ไม่กระสันอยากสึกบ้างรึ บวชมานานไม่อยากสึกบ้างรึไง ไม่อยากดูดนมแม่รึ อดนมหรือยัง” หยอกล้อต่างๆ นานา

พระศาสดาทอดพระเนตรเห็นกิริยาของภิกษุเหล่านั้นแล้ว ทรงดำริว่า “กรรมของภิกษุเหล่านี้ช่างหยาบช้าจริงหน่อ ภิกษุเหล่านี้จับต้อง ล้อเล่นต่อสามเณรผู้เปรียบประดุจจับต้องล้อเล่นกับอสรพิษ ภิกษุปุถุชนเหล่านี้หาได้รู้ถึงอานุภาพของสามเณรไม่ เช่นนั้นวันนี้ เราจักทำคุณของสุมนสามเณรให้ปรากฏ เป็นที่ประจักษ์ต่อหมู่พระภิกษุทั้งหลาย”

แล้วทรง ตรัสเรียกพระอานนท์เถระมาว่า “อานนท์ เราเป็นผู้มีความประสงค์เพื่อจะล้างเท้าทั้งสองด้วยน้ำในสระอโนดาต เธอจงให้หม้อแก่พวกสามเณรแล้วให้ไปนำน้ำที่สระอโนดาตนั้นมาเถิด.” พระอานนท์เถระจึงได้สั่งให้สามเณรประมาณ ๕๐๐ ในวิหารประชุมกันเพื่อจะรับคำสั่ง

บรรดาสามเณรเหล่านั้น สุมนสามเณรเป็นผู้บวชใหม่กว่าสามเณรทั้งหมด

พระอานนท์เถระกล่าวกะสามเณรทั้งหมดว่า “สามเณร พระศาสดามีประสงค์จะล้างพระบาทด้วยน้ำจากสระอโนดาต ที่นำมาใส่ไว้ในตุ่มให้เต็มทั้งหมด ๘๐ ตุ่ม อันนางวิสาขาอุบาสิกานำมาถวายไว้, เธอจงถือหม้อน้ำนั้นไปนำน้ำมาให้เต็มทุกตุ่มเถิด.”

สามเณรนั้นจึงพากันมองหน้ากันไปมา แล้วพากันส่ายหน้าพร้อมกับกล่าวว่า “กระผมไม่สามารถที่จะไปถึงสระอโนดาตได้ดอกขอรับ.”

มีคำถามว่า “ก็บรรดาสามเณรเหล่านี้ สามเณรผู้เป็นขีณาสพไม่มีหรือ?”

แก้ว่า “มีอยู่. แต่สามเณรเหล่านั้นไม่ปรารถนา ด้วยคิดเห็นว่า “พวงดอกไม้นี้ พระศาสดามิได้ทรงผูกไว้เพื่อพวกตน พระองค์ทรงผูกไว้เพื่อสุมนสามเณรองค์เดียว. แต่พวกสามเณรผู้เป็นปุถุชนปฏิเสธ ก็เพราะความที่ตนเป็นผู้ไม่มีความสามารถนั่นเอง.”

เมื่อเณรทุกรูปต่างพากันปฏิเสธกันหมด จะเหลืออยู่ก็แค่สุมนสามเณรเข้าเท่านั้น พระอานนท์เถระกล่าวว่า “สามเณร พระศาสดามีพระประสงค์จะทรงล้างพระบาททั้งสองด้วยน้ำในสระอโนดาต เธอจะสามารถไปนำน้ำนั้นมาได้หรือไม่”

สุมนสามเณรนั้นจึงเรียนว่า “เมื่อพระศาสดาทรงมีพระประสงค์ให้นำน้ำนั้นมา กระผมก็จักนำมาทูลถวาย”

ดังนี้แล้ว ถวายบังคมพระศาสดาพร้อมทั้งกราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ทรงมีพระประสงค์ให้ข้าพระองค์นำน้ำมาจากสระอโนดาตหรือ พระพุทธเจ้าข้า ?”

พระศาสดาตรัสว่า “เช่นนั้น สุมนะ.”

สามเณรสุมนะจึงทูลลาแล้วเอามือจับหม้อใส่น้ำใหญ่ใบหนึ่ง ซึ่งจุน้ำได้ถึง ๖๐ หม้อ ใหญ่กว่าบรรดาหม้อใบอื่นๆ อันเลี่ยมดาดแล้วด้วยทองแท่ง ที่นางวิสาขามหาอุบาสิกาทูลสร้างถวายไว้ แล้วสามเณรนั้นจึงเหาะขึ้นสู่เวหาส บ่ายหน้าตรงไปยังหิมวันต์ประเทศ จนลุถึงสระอโนดาตของพญานาคปันนกะ

พวกนาคราชครั้งได้เห็นสามเณรซึ่งกำลังเหาะมาแต่ไกลเทียว จึงพากันปรากฎกายออกมาต้อนรับ เมื่อนาคเหล่านั้นเห็นสามเณรแบกหม้อมาด้วยจึงกล่าวขึ้นว่า “พระคุณเจ้าข้า เมื่อผู้รับใช้เช่นข้าพเจ้ามีอยู่ เพราะอะไร พระคุณเจ้าจึงต้องลำบากแบกหม้อตักน้ำมาเสียเอง เมื่อความต้องการน้ำมีอยู่ เหตุไฉน พระผู้เป็นเจ้าจึงไม่ส่งเพียงข่าวสาสน์มาแจ้งแก่พวกข้าพเจ้า”

จบไว้แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ โปรดติดตามดูตอนต่อไป

พุทธะอิสระ

——————————————–

ลิ้งค์จาก : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid02LfpdMycyky1ZRRk7eQmBZ8E9JvFzPus3XLtFmTYQa13ERenwxLmRLGYWDaLQ24Lpl