สืบเนื่องเรื่องเกิดจากคลับเฮาส์
๒๐ กันยายน ๒๕๖๖
มีผู้ถามว่า เห็นท่านให้สัมภาษณ์นักข่าว TOP NEW ถึงกรณีผู้มีอิทธิพลอย่างกำนันนก ท่านไม่กลัวหรือ ?
ตอบ :
กลัวก็ไม่พูด ที่พูดก็เพราะไม่กลัว
อยากขยายความต่อว่า ก็เพราะประชาชนเกรงกลัว ยอมก้มหัวให้กับอันตราย และอำนาจอิทธิพลเถื่อนถ่อยเช่นนี้แหละ มันจึงเกิดกรณีลูกน้องกำนันนกยิงหัวตำรวจระดับนายพัน ต่อหน้าต่อตาด้วยกันถึง ๒๐ นาย
โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายก็เพราะตำรวจบางคน บางกลุ่มเกรงกลัวต่ออำนาจเงินของกำนันนก จึงปล่อยให้คนของกำนัน ยิงเพื่อนตำรวจด้วยกันต่อหน้า โดยไม่ทำการจับกุม
ก็เพราะตำรวจเกรงกลัวต่ออิทธิพลและอำนาจเงินของกำนันนก จึงได้แต่งตั้งให้เป็น กต.ตร. ประจำสำนักงานตำรวจประจำจังหวัดนครปฐม
ก็เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดเกรงกลัวอำนาจบารมีของตำรวจ ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้เซ็นแต่งตั้งกำนันนกให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิของ กต.ตร. ทั้งที่มีอายุไม่เกิน ๓๐ ปี
ก็เพราะคณะกรรมการ กต.ตร. คนอื่นๆ ของจังหวัดนครปฐมเกรงกลัวอิทธิพลและอำนาจเงินของกำนันนก และครอบครัว จึงไม่มีใครกล้าคัดค้านต่อการแต่งตั้ง กต.ตร. ในครั้งนั้น
ก็เพราะนายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด เกรงกลัวอำนาจอิทธิพลของกำนันนก และนักการเมืองระดับชาติที่หนุนกำนันนกอยู่ จึงไม่กล้าตรวจสอบพฤติกรรม มีอิทธิพลใช้ลูกน้องไปสกัดขัดขวางผู้เข้าร่วมประมูลงานหลวง
ก็เพราะหน่วยงานปกครองท้องถิ่นของในจังหวัด และนอกจังหวัดใกล้เคียงนครปฐม เกรงกลัวอิทธิพลและเห็นแก่เงินของกำนันนก จึงยอมให้กำนันนกชนะการประมูลเหมางานซ่อมและสร้างงานในท้องถิ่นต่างๆ ได้ตลอด ๑๒ ปีงบประมาณ (ตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ – ๒๕๖๖ ได้งานประมูลไป ๑,๕๔๔ โครงการ วงเงินงบประมาณจากทุกสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง อยู่ที่ ๖,๙๖๔,๘๑๕,๒๔๙ บาท) ทั้งที่ผลงานหลายโครงการมีปัญหา ก็ยังสามารถผ่านได้
ก็เพราะตำรวจเกรงกลัวอิทธิพลและอำนาจเงินของกำนันนก จึงต้องเอื้อประโยชน์ให้แก่กำนันนก และลูกน้องในเวลาที่ทำผิดกฎหมาย
และก็เพราะประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ ยังจมปลักอยู่ในความกลัว เกรงใจ คิดอยู่ว่าไม่ใช่เรื่อง ธุระไม่ใช่ ไม่ใช่หน้าที่เรา
จึงทำเมินเฉย เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ปล่อยให้เจ้าหน้าที่รัฐและผู้มีอิทธิพลรวมหัวกันทำร้ายประชาชน ทำลายทรัพยากร ทุจริตคอร์รัปชั่นกันมาอย่างยาวนานในทุกๆ รัฐบาล
โดยที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง
จะมีก็แต่คนสุจริตเท่านั้นที่ขี้กลัว ขี้เกรงใจ และสยบยอมให้แก่กฎหมายบ้านเมือง ที่เจ้าหน้าที่รัฐบังคับใช้อย่างไม่เที่ยงธรรม กว่าจะรู้ตัวว่าไม่ผิด ก็ติดคุกติดตะราง หรือไม่ก็ล้มหายตายจากกันไปเสียมากมายแล้ว
เมื่อไหร่ประชาชนคนไทยจะรู้สำนึกในหน้าที่ของตนที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญกันเสียทีว่า
มาตรา ๕๐ บุคคลมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(๒) ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ และสาธารณสมบัติของแผ่นดิน รวมทั้งให้ความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
(๓) ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
(๔) เข้ารับการศึกษาอบรมในการศึกษาภาคบังคับ
(๕) รับราชการทหารตามที่กฎหมายบัญญัติ
(๖) เคารพและไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และไม่กระทำการใดที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกหรือเกลียดชังในสังคม
(๗) ไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือลงประชามติอย่างอิสระโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นสำคัญ
(๘) ร่วมมือและสนับสนุนการอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งมรดกทางวัฒนธรรม
(๙) เสียภาษีอากรตามที่กฎหมายบัญญัติ
(๑๐) ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ
ลองถามตัวเองดูซิว่า หน้าที่ทั้ง ๑๐ อย่างนี้ได้ทำกันครบแล้วหรือยัง
พุทธะอิสระ
——————————————–