เรียนรู้ถึงทุกข์ โทษ ภัยที่เกิดจากธาตุน้ำทั้ง 12 กอง

0
87

หมวด : กรรมฐาน – จตุธาตุววัฏฐาน 4
เรื่อง : เรียนรู้ถึงทุกข์ โทษ ภัยที่เกิดจากธาตุน้ำทั้ง 12 กอง
บทความ : 18 ก.ย. 2566
โดย : หลวงปู่พุทธะอิสระ
วัดอ้อน้อย(ธรรมอิสระ) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
รับชมย้อนหลังได้ที่ : https://youtu.be/lkqzBmREUB8
รับชมครบทุกตอนได้ที่ :
Website: https://issaradhamchannel.com/tag/จตุธาตุววัฏฐาน-4
YouTube: https://www.youtube.com/playlist?list=PL6Ru9Ju-iZKqkvGgNYgy2GKPPyzzXBoGG

——————————————–

เรียนรู้ถึงทุกข์ โทษ ภัยที่เกิดจากธาตุน้ำทั้ง 12 กอง
๑๘ กันยายน ๒๕๖๖

ก่อนที่เราท่านทั้งหลายจะเรียนรู้เรื่องของธาตุไฟ เรามาทำความรู้จักทุกข์ โรค ภัย ของธาตุน้ำทั้ง ๑๒ กอง กันดูก่อนว่า น้ำแต่ละกองมีทุกข์ โทษ โรค ภัย อะไรบ้าง

น้ำดี ที่พิการ ผิดปกติ จะทำให้เกิดอาการสะบัดร้อน สะบัดหนาว นอนสะดุ้งผวา บางขณะก็เกิดอาการเลื่อนลอย ละเมอ ฝันร้าย หรือปวดหัว มึน ตึง อยู่ตลอดเวลา บางทีก็มีอาการไข้ขึ้น ตัวร้อน ที่เกิดจากอาการถุงน้ำดีอักเสบ หรือไม่ก็รู้สึกหนาวสะท้านจนถึงกระดูก จับไข้ตัวสั่น และมีอาการตัวเหลือง ตาขาวเหลืองที่หมอเรียกว่า โรคดีซ่าน นั้นเอง

น้ำเสลด หากติดเชื้อในช่องปาก และลำคอ หรือหลอดอาหาร อาจส่งผลให้เสลดเขียวขุ่นข้น หรือออกสีเหลืองขุ่น มีกลิ่นเหม็น และมีอาการเสลดติดคอ ตามมาด้วยอาการเจ็บคอ คอแห้ง หากมีอาการอักเสบมากๆ อาจทำให้เป็นหืด หอบได้ เพราะเสลดหลุดลงไปอุดหลอดลม และปอด ทำให้ร้อนอกร้อนใจอย่างรุนแรง จนเส้นเลือดฝอยในลำคอแตกได้

น้ำหนอง เมื่อร่างกายอวัยวะส่วนใดเกิดแผลฟกช้ำ หรือติดเชื้อ อักเสบจะเกิดหนองมีสีขุ่นข้น หากเกิดในลำคอ หรือช่องปาก ก็จะทำให้เกิดอาการเจ็บปากเมื่อกินอาหาร มีกลิ่นเหม็นและไอ หากเป็นแผลอักเสบหนองก็จะกัดกินเนื้อเยื่อหรือผิวหนังในแต่ละชั้น ทำให้เกิดอาการเจ็บปาก ทรมานยิ่งนัก

น้ำเลือด เมื่อเลือดพิการ เลือดข้น เลือดติดเชื้อ หรือเลือดจาง เลือดเป็นพิษ จักมีอาการอ่อนเพลีย สะบัดร้อน สะบัดหนาว มีอาการคันยุบยิบอยู่ภายในเส้นเลือด เป็นผดผื่นคันตามผิวหนัง มีตุ่มน้ำใสๆ เกิดขึ้นตามร่มผ้า หรือผิวหนังที่บาง และทำให้เกิดฝ้า หรือปานด่างดำได้

น้ำเหลือง เมื่อพิการผิดปกติ จักทำให้วิงเวียนคลื่นไส้ อาเจียน บ้านหมุน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ แม้ไม่นอนก็จะรู้สึกกระสับกระส่าย หน้าอกหน้าใจแห้ง

มันข้น เมื่อผิดปกติจะเกิดเม็ดผด ขึ้นตามผิวหนัง ตามผิวหนังจะหยาบ หากอาการหนักจะเกิดเป็นตุ่มเล็กใหญ่ กระจายไปทั่วร่างกายที่เรียกว่า โรคเท้าแสนปม หรือบางที บางคนก็จะรู้สึกปวดแสบ ปวดร้อนตามผิวหนัง มีน้ำเหลืองไหลออกมาตามรูขุมขน

น้ำตา เมื่อพิการผิดปกติ จักทำให้ดวงตาฝ้าฟาง ตาเจ็บ ตาบวม ตาแห้ง แก้วตาเกิดบาดแผล ขุ่นมัว บางคนถึงกับแก้วตาทะลุ บางคนอาจมีขี้ตาเกรอะกรัง สีขุ่นข้น

มันเหลว หากเกิดอาการผิดปกติพิการ จะทำให้ตาขาวเหลือง ขับถ่ายออกมาเป็นมูก มีกลิ่นคาว คล้ายคนเป็นบิด

น้ำลาย ที่ผิดปกติพิการ จะทำให้ช่องปากเกิดเชื้อรา เป็นฝ้าขาวทั้งลิ้นและกระพุ้งแก้ม ระคายคอ เจ็บคอ เป็นเม็ดตุ่มใสอยู่ในลำคอ เมื่ออาหารกลืนข้าวกลืนน้ำไม่ลง

น้ำมูก หากผิดปกติ จะทำให้ช่องโพรงไซนัสอักเสบ มีหนอง หายใจมีกลิ่นคาว เกิดอาการปวดเจ็บในโพรงไซนัส ปวดหัว ปวดกระบอกตา และทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ เป็นหลัก ไอ จาม น้ำหู น้ำตาไหล อยู่ตลอด บางคนอาจกลายเป็นมะเร็งในโพรงไซนัสได้

น้ำไขข้อ หากมีอาการผิดปกติ หรือ พร่องมีน้อย เสื่อม อาจเป็นเหตุให้ข้อกระดูกถูกบดอัด เมื่อเคลื่อนไหวจะเกิดอาการเสียดแทง เจ็บปวดตามข้อ ในเวลาเคลื่อนไหว

น้ำปัสสาวะ หากพิการจะทำให้น้ำปัสสาวะมีกลิ่นฉุน สีขุ่นข้น หรือมีสีขุ่นขาว มีหนอง หรือเลือด หรือหินปูนปะปนมากับน้ำปัสสาวะ หรือปัสสาวะกะปริดกะปรอย เจ็บปวดในเวลาปัสสาวะ และทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

ทุกข์ โทษ โรค ภัย ความเจ็บปวด ทรมานที่เกิดกับธาตุน้ำทั้ง ๑๒ กองดังกล่าวมานี้ ล้วนมีที่มาจากสาเหตุของการมีธาตุน้ำอยู่ในร่างกายทั้งสิ้น
หากไม่มีธาตุน้ำก็ไม่มีทุกข์ โทษ โรค ภัย แล้วความเจ็บปวด ป่วยไข้ ทรมาน มันจะมาจากไหน คิดซิ คิด ผู้เจริญปัญญาต้องคิดให้ได้ เห็นให้ได้ รู้ให้จริง ถึงสิ่งที่ปรากฏแก่ร่างกายนี้

ต้องมองให้เห็นถึงทุกข์ โทษ โรค ภัย ของแต่ละธาตุที่มีอยู่ในกายนี้ให้ได้เสียก่อน จึงจะเข้าถึงคำว่า มันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีอยู่จริง

แม้น้ำจักมีคุณแก่ธาตุดิน แต่น้ำก็นำพาเอาทุกข์ โทษ โรค ภัย มาสู่กายนี้ด้วยเช่นกัน ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีอยู่จริง จึงเกาะ กัด กิน ซึมสิงอยู่ในกายนี้ตลอดเวลา โดยที่ใครๆ ก็มิอาจปฏิเสธได้

จบธาตุน้ำแล้วนะจ๊ะ วันหน้าค่อยนำธาตุลมมาเล่าสู่กันฟังใหม่

พุทธะอิสระ

——————————————–

ลิ้งค์จาก : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid02CCNCJKxjwfq5gomLEYpUYKiD6PrGoaGsGxRC69Jo2pXdtf12HwoLoTSxVauTZCqLl