แสนเอยแสนสงสารยิ่งนัก
๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๖
คราวที่แล้วได้แสดงความสงสารต่อพลพรรคก้าวไกล โดยมีพินอคทิโอเป็นหัวหน้า
แล้วมาจบลงตรงที่บุตรออกมาบอกว่า หากไม่สามารถเป็นนายกได้ ก็ให้ยอมเป็นฝ่ายค้านรออีก ๔ ปีข้างหน้า เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งพรรคก้าวไกลจะได้แลนด์สไลด์กันถล่มทลาย
พุทธะอิสระจึงเขียนแสดงความสงสารไปว่า
บุตรแน่ใจหรือว่าจะมีโอกาสได้สมัครเลือกตั้ง เพราะพลพรรคก้าวไกลกำลังจะถูก กกต. และศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดีหุ้นสื่อ รวมทั้งคดีล้มล้างการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
แค่คดีหลังนี้แววๆ มาว่า ผู้ร้องจะมีการร้องต่อให้ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิ์ สส. พรรคก้าวไกลทุกคนในฐานความผิดที่เป็นตัวการร่วม
แม้แต่บุตร ทอน ฉ้อเองก็ยังไม่แน่ใจว่าอีก ๔ ปีข้างหน้าจะไปอยู่ที่ไหน จะอยู่ในคุก หรือหนีไปอยู่ต่างประเทศ เพราะมีคดีละเมิด ๑๑๒ และ ๑๑๖
มาถึงวันนี้คงต้องแสดงความสงสารกับทานอคคิโอ และพลพรรคก้าวไกล ที่มีไอเดียบรรเจิดไปยื่นหนังสือขอแก้ไขมาตรา ๒๗๒ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อปิดสวิตช์ สว. แบบชนิดกะว่าจับให้มั่น คั้นให้ตาย ผลักไสให้ออกไปจากตำแหน่ง สว. ให้ได้ภายในเร็ววัน
เพราะอยู่ไปก็รังแต่จะมาเป็นก้างขวางคอ
ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า กฎหมายใดๆ ไม่ว่าใครจะนำเสนอต้องผ่านทั้ง ๒ สภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา
แต่นักการเมืองพรรคเด็กน้อยกระทำการแบบเด็กน้อยไร้เดียงสา ที่ไม่ต้องมีเหตุ มีผล กูอยากทำอะไรกูก็จะทำ โดยไม่คำนึงถึงเหตุและผล ความถูกต้องชอบทำ
แม้แต่หลักปฏิบัติ ระเบียบ ข้อบังคับกฎหมาย คนพวกนี้ก็จะไม่แยแส หากกูต้องการอะไร กูก็จะเรียกร้องเอาโดยไม่คำนึงว่าอะไรถูก อะไรผิด
ทั้งที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ชัดว่า การจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องผ่านการคัดเลือกจากทั้งสองสภา และกฎหมายนี้ก็มีมาก่อนเลือกตั้ง
แต่พอพรรคตนเองชนะการเลือกตั้งเข้ามากลับไม่ได้รับเลือกจากวุฒิสภา
พรรคเด็กน้อยก็ใช้วิธีขับไล่สมาชิกวุฒิสภาให้ออกไปให้พ้นทางเสียเลย
นี่ยังไม่นับรวมถึงพวกติ่งส้มทั้งหลาย ที่ไปรุมถล่มทั้งตัว สว. และครอบครัวของ สว. จนลามปรามไปถึงธุรกิจของครอบครัวเขา ใช้กิริยาวาจา ถ่อย สถุน ด่า ว่า สาปแช่งเขาอีก
ได้ยินแววๆ มาว่าอานนท์ นำภา ประกาศระดมพลขบวนมอเตอร์ไซค์ออกมาขับป่วนเมือง ด้วยข้ออ้างว่า จะไปยื่นหนังสือใบลาออกให้แก่ สว.
นี่น่ะหรือกลุ่มคนที่จะเข้ามาบริหารบ้านเมือง และทำให้ประชาชนทั้ง ๗๑ ล้านคนมีความสุข
แค่เริ่มต้นก็ปล่อยให้ลิ่วล้อเที่ยวไปสร้างความทุกข์ยาก เดือดร้อนให้แก่คนที่เห็นต่างและแทนที่พวก ๑๔ ล้านเสียงจะสำเหนียกรับรู้ ออกมาห้ามปราม กลับเห็นดีเห็นงามไปกับการกระทำของพรรคเด็กน้อยและพวกนี้
เช่นนี้แหละควรที่จะแสดงความสงสาร สงสารประเทศ สงสารประชาชนที่เขาไม่รู้อีโหน่อีเหน่ จะต้องมาพลอยซวยไปกับการกระทำของพรรคเด็กน้อยและพวก
และสงสารความไร้เดียงสาของทานอคคิโอและพวก ที่ไม่สนใจอะไรกับหลักการ หลักธรรมใดใดว่า ธรรมใดเกิดมาแต่เหตุ หากจะดับธรรมนั้นก็ต้องดับที่เหตุ
เหตุความขัดข้องทั้งหลายกับทานอคคิโอล้วนเกิดจากการกระทำของตนเองทั้งนั้น
แต่คนพวกนี้กลับไม่ยอมรับรู้ ด้วยเพราะความไม่ยอมรับรู้นี่แหละ สังคมไทยจึงได้เห็นพฤติกรรมวิปริตวิปลาส ผิดๆ พลาดๆ ของพลพรรคเด็กทารกกวนเมืองมาตลอดเวลา
เฮ้อช่างน่าสงสาร สมเพชเวทนาเสียจริง
พุทธะอิสระ
——————————————–