ทรรศนะพระพยอมกรณีมาตรา 112
****************************************
ผู้สัมภาษณ์ : หลวงพ่อครับมีกฎหมายที่พูดถึงกันเยอะ รวมถึงในอนาคตเรื่องของการหาเสียง คือกฎหมายเรื่อง ๑๑๒ ซึ่งกฎหมายนี้ถูกพูดถึงในหลายกรณี อยากให้หลวงพ่อพูดถึงเรื่องนี้หน่อยครับ
**************************************
พระพยอม : เท่าที่ฟังปัญหาว่า คนรักสถาบันขึ้นสมองเกินเหตุก็จะไม่ฟังฝ่ายนี้เลยว่าเสนออะไรมา คำว่าปฏิรูปสถาบันมันไม่ใช่ยกเลิกหรือล้มล้าง มันเพียงแต่ว่า ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มีมากเกินไป อะไรแบบนี้ ทำนองนี้
หรือว่า ได้อภิสิทธิ์เหมือนกับไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา เหมือนเทวดา
คุณไปดูพระราชวังแวร์ซายที่ฝรั่งเศลมั้ย คุณดูที่อยู่ของมนุษย์หรือเทวดา
**************************************
ผู้สัมภาษณ์ : จริงๆ มีพระราชวังใหญ่กว่า พระราชวังแวร์ซาย อีกนะครับ
**************************************
พระพยอม : ทีนี้ถ้าสมบัติ ทรัพยากรนี่ คนที่เป็นพระราชาทั้งหลายในโลกนี้ ตะล่อมมาไว้หมด ไพร่ฟ้าประชาชนเป็นอย่างไร เขาก็เพียงแต่ว่า ทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ หรือว่าเงินประจำตำแหน่ง
ว่าง่ายๆ ผู้ใหญ่บ้าน กำนันเงินเดือนเท่านี้ ผู้ว่าเงินเดือนเท่านั้น รัฐมนตรีเงินเดือนเท่าโน้น นายกเงินเดือนเท่านี้ แต่พระราชา มหากษัตริย์บางแห่งบางประเทศ อย่างที่เขาพูดกันหนักกว่าประเทศเราหลายเท่า จนกระทั้งประชาชนทนไม่ได้ก็ลุกขึ้นมา
อย่างลาวงี้ ตอนแรกอ่ะนะ
มีคนพูดคำว่า ตอนนั้นน่ะ ร.๙ ของเราเสวยเสด็จ เสวยบรรทม จะมีการเปรียบเทียบกัน
แต่ถ้าเราเจอพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงทศพิธราชธรรม ไม่มีทาง
อันดับแรก ให้เก่งแกะ เก่งช่วย เก่งช่วยๆ ให้ๆ เนี่ย ประชาชนต้องรัก ประชาชนรักพระราชา เพราะแจกๆ ช่วยๆ ให้ๆ เพราะทานัง
สองศีลรัง พระราชาทรงศีลทรงธรรม
สามปะริจจาคัง คุณเคยได้ยินมั้ย รัชกาลที่ 3 หรือ 4 ท่านเคยให้ลูก พระราชโอรสบริจาคให้อำมาตย์ แล้วพวกนั้นก็ถวายคืนหมด คือฝึกฝนการสละปะริจจาคัง คือบริจาคแบบไม่อั้น
ทีนี้ถ้าไปเจอพระราชาที่ อย่าว่าพระราชาเลย แค่ประธานาธิบดีขี้โกง เขายังต้องจัดการเลยใช่มั้ย
สมัยนั้นจำได้ ประธานาธิบดีมาร์กอส ภรรยามาร์กอสนี่มีเท่าไหร่รองเท้ากี่พันคู่
**************************************
ผู้สัมภาษณ์ : เยอะเลยครับ มีเป็นห้อง
**************************************
พระพยอม : คือการที่พระราชาหมกมุ่นในเรื่องปรนเปรอ บำเรอ เสียจนประชาชนทำไม่ได้ ที่เกิดสมัยก่อน ไม่ใช่สมัยนี้ จับพระราชาสังหารเลย แล้วก็มีการขึ้นครองกันแทน แต่ว่าไอ้คนขึ้นครองก็กิเลสมามากอีก ขึ้นมาใหม่ก็เอาอีก สืบทอดอำนาจแบบนี้อีก
คราวนี้อาตมาคิดว่า เขาคงแทนลดทอนสิทธิ ประโยชน์ อำนาจ ลงสักนิดเหมือนว่า เก็บภาษีพระราชาได้ไหม
เออ..ได้เยอะนี่ ประชาชนยังต้องเสียบำรุงประเทศชาติ
อันนี้แนวคิดแบบนี้มันคิดได้ แต่ต้องดูยุคดูสมัย รัชกาลบางรัชกาลทำไม่ได้หรอก ไอ้พวกนี้ถ้าทำก็หัวชนภูเขาเล่น
ถึงจะหาเสียงกับคนรุ่นใหม่ก็ตาม แต่คนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่าถามว่า แรงปะทะเนี่ย ใครมากกว่ากัน
รุ่นเก่าที่ไม่เอาพระราชาก็ดีนะ แต่คนรุ่นใหม่ชื่นชอบพระราชาก็มี เพราะงั้นบางทีมันต้องดูให้ดี แต่จะเสนอนโยบายขึ้นมาจะโดนใจกลุ่มตัวเองแต่อีกกลุ่มหนึ่งไม่เอาด้วย
แล้วก็บางพรรคประกาศเลยนะจะพิทักษ์รักษา แล้วก็ประกาศเลยนะจะไม่ร่วมกับไอ้พรรคที่ไม่เอา อย่าไปพูดว่าไม่เอาสถาบัน พรรคที่จะปรับปรุงสถาบันก็ได้
แต่ว่าปรับปรุงเนี่ย อย่าให้มันล้ำเส้นเกินไปในยุคสมัย แต่ว่า ค่อยแตะ ค่อยเป็น ค่อยไปเนี่ย เราก็ต้องยอมรับว่า พระราชาในโลกนี้ สถาบันพระมหากษัตริย์ เหลืออยู่เท่าไหร่ ไปแล้วเท่าไหร่
แต่ของเราเนี่ยเข้มแข็งเนี่ยเพราะเรามีหลักทศพิธราชธรรม พระราชาไม่เกรี้ยวโกรธ ทรงเมตตา ต่างๆ นาๆ จะมีลักษณะอย่างนี้ ถ้าไม่มีเลยสักข้อหนึ่ง ไม่ต้องห่วงไม่ต้องมีนโยบายพรรคสักข้อหนึ่งนะไปเอง โดยธรรมชาติ
อย่างอะไรนะบังกลาเทศหรืออะไร
**************************************
ผู้สัมภาษณ์ : เนปาล ครับ
**************************************
พระพยอม : เนปาลอย่างนี้ นั้นติดยา ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ อย่างนั้นอยู่ได้ยังไง ไม่มีทศพิธราชธรรม
ทศพิธราชธรรมจะห่อหุ้มสถาบันกษัตริย์ เพราะงั้นเราจึงมีพระมหาปิยะ มหาราช ประชาชน ปิยะแปลว่า รัก ที่รัก
นี่พูดตามเหตุผล ไม่ได้เอาใจใคร ไม่ได้ต่อต้านใคร ใครจะออกนโยบายมาหาเสียงก็แล้วแต่
**************************************
ผู้สัมภาษณ์ : หลวงพ่อมองเรื่องการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง มันเป็นไปตาม
**************************************
พระพยอม : มันเป็นไปตามยุค ตามสมัย มันเป็นธรรมะสัจจะ ยุคนี้สมัยนี้ มันเป็นไปแบบนี้
**************************************
ผู้สัมภาษณ์ : ผมจะถามสั้นๆ อย่างการใช้กฎหมาย ถ้ามีกฎหมายนี้อยู่ อย่างเช่นกฎหมายนี้บอกว่าเป็นมาตรา ๑๑๒ แล้วการใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรมเนี่ย มัน
**************************************
พระพยอม : เขาไม่เรียกกฎหมาย เขาเรียกกฎตะพึดตะพือ เรียกว่ากฎหัว
**************************************
ผู้สัมภาษณ์ : อ๋อ ถ้าใช้กฎไม่เป็นธรรมนี่คือการกฎหัว
**************************************
พระพยอม : คือ กฎหัวเกินไป
**************************************
ผู้สัมภาษณ์ : ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอะไรก็ตาม
**************************************
พระพยอม : ใช่ มันต้องให้เขาชี้แจง ให้โอกาสเขาบ้าง
**************************************
ผู้สัมภาษณ์ : ขอบคุณครับผมเปลี่ยนเรื่องก่อนดีกว่า ปลอดภัยไว้ก่อน
**************************************
ขอบคุณที่มา : https://www.tiktok.com/@phaitong99/video/7233726307077590278
——————————————–
อ่านคำวิพากษ์วิจารณ์ของหลวงพี่พยอมแล้ว วิจารณ์กันเอาเอง
๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๖
แต่ถ้าถามพุทธะอิสระก็คงต้องบอกได้แค่ เหนื่อยใจกับคนไม่มีสามัญสำนึก
แผ่นดินนี้หากไม่มีพระมหากษัตริย์เป็นผู้อุปถัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
หลวงพี่พยอมแกคงไม่มีโอกาสมาอาศัยผ้าเหลืองหาอยู่หากิน ก่อสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่อยู่ในหลายจังหวัดได้ในทุกวันนี้ดอก
คิดแค่นี้สำหรับคนมีจิตสำนึกว่า ยังพึ่งร่มโพธิสมภาร ของพระองค์ท่านอยู่ก็คงไม่กล้าที่จะออกมาแสดงท่าทีด้วยค่า หรือเซาะ กัดกร่อน บ่อนทำลาย ความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ แบบที่หลวงพี่พยอมแกกำลังทำอยู่ดอก
อยากจะบอกหลวงพี่พยอมว่า ถ้ามันอึดอัดนัก ที่จะอยู่ภายใต้ร่มเงาของกฎหมาย ๑๑๒ ก็ให้นำพัดเจ้าคุณไปทูลถวายคืนพระองค์ท่านไปเถิด
จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย
ฝากคำสุภาษิตเอาไว้ให้สังคมคิดว่า
หลงตัว ลืมตาย
หลงกาย ลืมแก่
หลงเมีย ลืมแม่
หลงกิเลสตัณหา ลืมความกตัญญูกตเวทิตา (อันนี้พุทธะอิสระเขียนเอง)
พุทธะอิสระ
——————————————–