บทสัมภาษณ์ของนักข่าวสำนักหนึ่ง
๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๖
********************************************
นักข่าว : ท่านรู้สึก คิดเห็น อย่างไรที่คนรุ่นใหม่ให้ความนิยมในแนวคิดของพรรคก้าวไกล
********************************************
หลวงปู่ : เพราะว่าคนทุกคนมีสิทธิคิดได้ จะคิดถูก คิดผิด คิดบวก คิดลบ ก็คิดกันไปได้
แต่กระบวนการที่จะเอาความคิดของตัวเองไปครอบงำผู้คน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ๆ
อันนี้ฉันห่วงมาก มันควรจะต้องมีมาตรการ มีกระบวนการที่จะหาวิธีสกัด ขัดขวาง แต่ตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว เพราะมันแสดงผลแล้ว
ว่าจริงๆ แล้วนะก็ต้องโทษรัฐบาล คสช. ตอนที่คุณมีอำนาจ คุณไม่ได้ห่วงเรื่องพวกนี้ ไม่ได้ป้องกันเรื่องพวกนี้ แล้วคุณปล่อยให้กระบวนการเรื่องพวกนี้มันเจริญเติบโต จนกลายเป็นขยายไปทุกวงการ แล้วก็กลับมาทำร้ายทำลายตัวคุณ สังคมไทย และประเทศไทยในปัจจุบัน
ฉันก็พูดอยู่ประจำกับลูกหลาน กับแกนนำทั้งหลายว่า
ตอน คสช. มีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์คนพวกนี้ก็เกิดแล้ว เมื่อขบวนการบ่อนทำลายชาติเหล่านั้นเกิดมาคุณไม่เห็นพิษภัยของมัน ไม่รีบจัดการซะ ถึงวันนี้มันก็เป็นผลพวงจากการที่คุณปล่อยปละละเลย ละเว้น จนเป็นผลเสียหายต่อจารีต ประเพณี ขนบธรรมเนียม สังคม และความมั่นคง
อันนี้เราก็ต้องพูดกันตรงๆ ถูกก็ว่าไปตามถูก ผิดเราก็ต้องบอกว่าผิด
แล้วก็ความชัดเจนมันเกิดขึ้นหลังจากที่คุณปล่อยปละละเลยแล้วพวกเขาก็รวมกลุ่มกัน ที่ใช้นามกลุ่มว่า คณะราษฎร ที่ฝังตัวอยู่ในมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศ แล้วสร้างเงื่อนไขให้เกิดในสังคมในปัจจุบัน
ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกว่าฝ่ายความมั่นคง หรือฝ่ายกระบวนการข่าวของฝ่ายความมั่นคงเขามีหลักคิด วิธีคิด และนำเสนอเจ้านายยังไง
แต่ที่เห็นๆ ทั้งหมดมันเกิดจากในช่วง ๘ ปีที่ผ่านมา จะอ้างว่ายุค คสช. ยุครัฐบาลคุณประยุทธ์ หรือยุคอะไรก็แล้วแต่ แต่รวมๆ แล้วมันปฏิเสธความรับผิดชอบเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลย
อันที่ต้องพูดก็เพราะ ฉันไม่ได้อยากเหนื่อยอีกไง
เราเหนื่อยมานานพอสมควรแล้ว อายุก็เยอะแล้ว ขี้เกียจต้องไปลงถนนไปสู้กับคนที่ เขาเรียกว่า คิดจะจ้องบ่อนทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่ตลอดเวลา
ถามว่า ณ วันนี้ถ้ามันมีจริงๆ แล้วมันเป็นไปตามนั้นจริงๆ ที่ทุกคนหวาดสะดุ้ง ผวา กลัวกันว่ามันจะเข้ามาทำร้าย ทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และความเป็นปึกแผ่น ของรากเหง้าสังคมไทย
เราจำเป็นจะต้องลงมั้ย
ถ้ามันจำเป็นก็คงจะต้องลง ถ้ามันจำเป็นนะ
แต่ตอนนี้เราก็ยังต้องดูท่าทีของเขาอยู่ และฉันก็เชื่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลหลายคน หลายพรรคเขาก็ยังมีท่าทีไม่เห็นด้วยนะในหลายประเด็นที่เกี่ยวกับสถาบัน
เท่าที่เห็นๆ เท่าที่รู้ๆ พวกเขาก็ยังมีท่าทีไม่เห็นด้วย ซึ่งอาจจะไปไม่ถึงดวงดาวหรือเปล่า แล้วก็ยังมีเงื่อนไขอีกตั้งหลายเงื่อนไข ที่พรรคก้าวไกลยังอาจเจอตอ สะดุดขาตัวเองล้มก็ได้
****************************************
นักข่าว : แล้วพวกสลิ่มจะนำความขัดแย้งของคนในชาติหรือไม่
***************************************
หลวงปู่ : มันก็ขัดแย้งกันมาตลอดอยู่แล้วนี่ แต่มันจะขัดแย้งแบบไหน ขัดแย้งทางความคิดมันมีอยู่ตลอด อย่าว่าแต่คนในชาติเลย คนในครอบครัวก็ขัดแย้ง
ก็อย่างที่เป็นข่าวคราวอยู่ตอนนี้ เป็นกระแสอยู่ว่า พ่อแม่จะเลือกอีกพรรคหนึ่ง ลูกหลานถึงขนาดขู่พ่อแม่ว่า ถ้าไม่เลือกตามที่เขาเลือก คือ ไม่เลือกพรรคก้าวไกล เขาจะไม่ส่งเงินส่งทองให้ หรือ จะไม่ไปเยี่ยมบ้าน
ความขัดแย้งดังกล่าวนี้มันก็มีมาตลอด ความขัดแย้งมันมีมาตลอด ถ้าเราไม่โลกสวยจนเกินไปเราก็ต้องยอมรับ แล้วก็รับรู้ว่า
ไอ้ความปรองดองมันไม่มีอยู่จริงในโลกหรอก
แม้แต่ประเทศที่ประกาศว่า ประชาธิปไตย รักษาสิทธิมนุษยชน ว่ากันจริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้ปรองดองกัน มันก็ยังขัดแย้งกัน
ทุกวันนี้สหรัฐฯ ที่เป็นพ่อของประชาธิปไตยก็ยังมีความขัดแย้งกัน ดูสองกลุ่ม สองพรรคการเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ นั้นไง
ไม่รู้ว่าเพดานหนี้มันจะได้รับการปลดล็อคได้จริงๆหรือเปล่า ยังมีเงื่อนไขอยู่ว่าจะใช้หนี้ได้ไหมในปีนี้
เพราะฉะนั้นทุกหย่อมหญ้ามันเกิดความขัดแย้ง จากหลักคิดที่พวกยุโรป พวกสหรัฐฯ พวกพ่อของประชาธิปไตย พยายามจะสอดใส่เข้ามาในหัวของคนทั่วโลก ก็คือแทรกซึมให้แตกแยกแล้วก็เข้ามาปกครอง
เพราะว่าการแตกแยกมันปกครองง่าย แต่ถ้ารวมกันปกครองยาก ชี้ซ้ายชี้ขวามันไปไม่ได้ มันไม่ไป เพราะฉะนั้นพวกนี้ก็จะมีหลักคิดแบบนี้ แล้วก็มีแบบนี้ในหลายชาติ ก็มีตัวอย่างเยอะแยะให้เราเห็นไปทั่วโลก
แล้วตอนนี้เราก็จะเห็นภาพคน ๑๔ ล้านเสียง
ว่ากันจริงๆ แล้วเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศหรือเปล่าก็ไม่นะ แต่ก็เป็นจำนวนมากที่เราจะต้องรับรู้ รับฟัง แล้วก็สังเกตของคิดเห็นของเขา จะได้นำไปสู่การแก้ไขปรับปรุง
ถ้าแก้ไม่ได้ ปรับไม่ได้ เปลี่ยนไม่ได้ ในใจฉันเองนะยังคิดอยู่ว่า เอาล่ะถ้าเขาอยากให้เป็น เอาละให้เขาเป็นไป ให้มันสุดลิ่มทิ่มประตูไปเลย
เรายอมเจ็บ ยอมทน ยอมลำบากอีกสักพักใหญ่ๆ ดูว่าเขาจะพาบ้านเมืองไปสู่ทางตันขนาดไหน อยู่ในระดับใด
แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าประเทศนี้มันจะรอได้หรือเปล่า เพราะเมื่อใดที่มันเกิดความเสียหาย กว่าจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ เหมือนกับในยุค คสช. เขาทำ หรือว่ารัฐบาลคุณประยุทธ์เขาทำ กว่าจะมีเงินคงคลังมากมายมหาศาล ทุกวันนี้มีทองคำมากเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน
กว่าจะตั้งตัว เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและดำรงความมั่นคงของประเทศได้เนี่ยใช้เวลา ๘ ปี แล้ว ๘ ปีถามว่าจบหรือยัง ก็ยังไม่จบ เพราะงั้นวันนี้หากว่าพรรคก้าวไกลซึ่งมี คน ๑๔ ล้านเสียงจะเลือกก้าวไกลและพรรคพวกเข้ามาปู้ยี่ปู้ยำบ้านเมือง ให้มันแตกร้าว ให้มันล้มสลาย ให้มันกระจายเป็นเสี่ยงๆ
ฉันว่า ๒๐ ปีก็ใช้เวลาเยียวยายาก
************************************************
นักข่าว : ในส่วนตัวหลวงปู่คิดว่า คุณพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีมั้ยครับ หรือว่าจะต้องมีอุปสรรคประเด็นมาตรา ๑๑๒ หรือประเด็นอื่นเพิ่มเติมมั้ยครับ
***********************************************
หลวงปู่ : ดูท่าทีฉันขอวิเคราะห์ตามวิถีคิด วิถีปฏิบัติ แล้วก็ปฏิกิริยาท่าทางของเขาแล้ว
ดูท่าทีเขาเป็นคนฉลาดพูด แล้วก็พูดเก่ง แล้วก็ไม่แน่ใจว่าฉลาดทำหรือทำเก่งดังที่เขาพูดหรือเปล่า
แล้วฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่า ไอ้ ๑๔ ล้านเสียงเป็นคะแนนบริสุทธิ์ที่เกิดจากทุกคนมองเห็นประโยชน์
ฉันยังเชื่ออยู่ว่ามันเป็นการสะกดจิตหมู่
ฉันยังเชื่อว่ามันเป็นกระบวนการของการครอบงำจิตวิญญาณของคนทั้ง ๑๔ ล้านเสียงให้เชื่อตามสิ่งที่เขาเชื่อ ให้คิดตามสิ่งที่เขาคิด ให้พูดตามที่เขาพูด
นี่คือสิ่งที่ฉันจับพิรุธได้ และจับสัญญาณเส้นทางการเดินนโยบายของเขาได้
แล้วก็เชื่ออีกว่า คนพวกนี้ไม่ได้คิดเอง เขามีกระบวนการ องค์กรใหญ่ระดับโลกอยู่เบื้องหลังในการชี้นำความคิดและกระบวนการของพวกเขา จึงสามารถครอบงำคนจำนวนมากโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่วันๆ เอาแต่ก้มหน้าดูจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ อยู่ในมือ
เพราะงั้นมันดำเนินการ ด้วยกระบวนการของคนนอกประเทศ และเงินทุนของคนนอกประเทศ อันนั้นหละอันตรายต่อบ้านเมือง ต่อไปบ้านเมืองจะดำเนินไปยังไง จะอยู่ยังไง นี่ขนาดฉันติดตามการให้สัมภาษณ์นักข่าวต่างประเทศ
ยังไม่เป็นนายกรัฐมนตรีก็เริ่มชักศึกเข้าบ้านแล้ว เริ่มเข้าไปวุ่นวายกับพม่า ไปวุ่นวายกับรัสเซีย ทั้งที่ทั้งสองประเทศ ไทยได้ดุลการค้ามาทุกปี
พอเขาพูดอย่างนี้ ลูกหลานพี่น้อง ญาติฉัน ลูกศิษย์ฉันที่อยู่ตามชายแดนพม่าเขาเริ่มโวยออกมาแล้ว เขาว่ายังไงรู้มั้ย
คุณพิธาไม่ได้มีอาชีพพ่อค้า
คุณพิธาไม่เคยมาขายของตามชายแดน
วันนี้ถ้าเกิดคุณพูดแบบนี้แล้วรัฐบาลพม่าไม่พอใจปิดด่านชายแดนขึ้นมา สินค้าจะขายใคร คุณพิธาจะรับผิดชอบไหม
อย่าลืมว่าปีๆ หนึ่งเราได้ดุลการค้าจากพม่าไม่ต่ำกว่า ๖-๘ พันล้านเหรียญนะ ในช่วงระยะเวลา ๘ ปีที่ผ่านมาเราได้ดุลการค้ามาตลอด
แต่ ณ วันนี้เราจะไปแทรกแซงบ้านเมืองของเขา ถามว่าคุณพิธาจะหาเงินก้อนไหนมาเยียวยากับพ่อค้าแม่ค้า กับสินค้าที่ส่งออกไปพม่าไม่ได้
อย่าลืมว่าพม่าเขาก็มีตัวเลือกนะ เขาไม่จำเป็นจะต้องใช้ของไทยก็ได้ จีนของถูกเยอะแยะ แล้วก็เป็นของที่ซื้อได้จำนวนมากๆ เพราะงั้นถ้าเข้าไปวุ่นวายกับเพื่อนบ้านมากๆ เข้า
ขออภัย เสือกทุกเรื่อง เสือกทุกประเทศ
อย่างนี้บ้านเมืองเราจะอยู่ยังไง เราไม่ต้องการมิตร เราต้องการศัตรูหรือ แค่คำให้สัมภาษณ์กับนักข่าวต่างประเทศ ก็แสดงปฏิกิริยาก่อร่างสร้างศัตรู ชักศึกเข้าบ้านแล้ว
นั้นหละเป็นสิ่งที่น่าห่วง แล้วก็ยังไม่รวมถึงกระบวนที่จะข้ามโลกไปวุ่นวายกับรัสเซียเขา
ก่อนหน้านั้นยังไม่ได้เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ก็เข้าไปวุ่นวายกับเขา ให้สัมภาษณ์ในทางที่มันทำลายความสัมพันธ์
รัสเซียนี้เรามีความสัมพันธ์กันมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๕ แล้วเราก็ได้ดุลการค้ากับเขามาตลอด สินค้าต่างๆ ที่เขาขายให้ไม่ว่าจะเป็นสินแร่ พลังงาน เขาก็ขายให้ไทยในราคาที่ถูกกว่าประเทศอื่นๆ ด้วย
แต่ถามว่า วันนี้เราไม่เห็นคุณเขาหรือ เราจะไปยุ่ง วุ่นวายกับประเทศเขาหรือจะไปเชื่อบัญญัติ ๑๐ ประการของ สส. รัฐบาลอเมริกาที่ประกาศออกมา แล้วเราจะทำตามทั้ง ๑๐ ประการเลยหรือ
ฉันว่ามันล้ำเส้นเกินไป ในบทบาทของประเทศเล็กๆ ที่เราต้องพึ่งทั้งสองฝ่าย จีนเราก็ต้องพึ่ง อเมริกาเราก็ต้องพึ่ง ยุโรปเราก็ต้องพึ่ง ทำไมไม่วางตัวเป็นกลางเหมือนที่รัฐบาล ๘ ปีที่เขาทำมา
ค้าขายได้ทุกฝ่าย คุยได้ทุกเรื่อง แล้วก็ไม่ได้ทำตัวเป็นหอกข้างแคร่คอยทิ่มแทงเพื่อนบ้าน
แต่วันนี้ยังไม่ได้เป็นนายก ก็เริ่มเป็นหอกข้างแคร่คอยทิ่มแทงเพื่อนบ้าน แล้วก็สร้างศัตรูไปรอบตัว
******************************************
นักข่าว : สุดท้ายแล้วหลวงปู่มีอะไรจะฝากถึงคุณพิธา ว่าที่นายกรัฐมนตรี แล้วก็ ๑๔ ล้านเสียงที่ว่า
*****************************************
หลวงปู่ : ฉันเชื่อว่าเขาก็ไม่ฟังคนอื่นหรอก เขาก็จะฟังแต่ ๑๔ ล้านเสียงของเขา แล้วคนไม่ชอบกัน เขาก็ยิ่งไม่ฟังใหญ่ แล้วฉันเองก็เป็นคนแจ้งความมาตรา ๑๑๒ จับเจ้าของพรรคเขาด้วย ทั้งคุณช่อ คุณบุตร คุณธร โดนมาตรา ๑๑๒ แล้วก็ ๑๑๖
แล้วเขาก็พยายามเรียกร้องการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง เขาก็จะได้ประโยชน์เต็มๆ ถ้าเขานิรโทษกรรมสำเร็จนะ
แต่ถามว่าเราได้ผลประโยชน์ไหม
ฉันไม่ต้องการนะ ฉันก็ยังมีคดี แต่ฉันก็ไม่ต้องการใครมานิรโทษกรรมฉัน เราก็สู้กันในทางที่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย
แล้วสิ่งหนึ่งที่อยากจะติงไว้ สส. ของคุณ ของพรรคคุณพิธา ออกมาโฆษณาเผาศาลากลางไม่ผิด เป็นอหิงสา ก็คือไม่เบียดเบียน ถือว่าเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ แล้วก็ไม่ผิด ถ้าไม่มีคนตายเช่นนั้น
เมื่อใดที่คุณพิธาเป็นรัฐบาล จะมีคนตามไปเผาศาลากลาง จะมีคนไปเผาทำเนียบรัฐบาล เผารัฐสภาที่คุณพิธาทำงาน เพราะว่า สส. ของคุณออกมาพูดมาบอกว่า มันไม่ผิด
นี่มันเป็นวิธีคิดที่ ฉันไม่รู้ว่าประเทศประชาธิปไตยในโลกนี้มันเป็นแบบนี้หรือเปล่า ประเทศที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย สส. ของเขาประเทศเขาได้คิดแบบนี้ไหม
มันป่วย เขาเรียกว่า ป่วยจิต อย่างชนิดที่เรียกว่า ยากต่อการเยียวยา แล้วอย่างนี้จะให้ฉันไปคุยอะไรกับคุณพิธา จะให้ฉันไปฝากอะไรกับคุณพิธา
เพราะคนในกลุ่มของพวกเขาส่วนใหญ่ ก็จะประมาณนี้ มีหลักคิด วิธีคิดแบบนี้ แม้วันนี้ FC ของเขาถ้าใครไม่เห็นด้วย หรือ เห็นต่าง ก็จะรุมถล่มเขาจนดูเหมือนเขาไม่ใช่ผู้คน เหมือนอย่างที่คุณเล่าให้ฉันฟัง
แต่ถามว่าพุทธะอิสระกลัวไหม
ฉันเป็นคนไม่ได้วันๆ ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ฉันไม่ได้เป็นคนที่ฝากชีวิตไว้กับฟองน้ำลายที่กระดกบนปลายลิ้นของคนพวกนี้ ไม่มีคุณค่าที่จะทำให้ฉันสะดุ้ง ผวา
ฉันไม่สนใจหรอก ฉันยึดมั่นในอุดมการณ์ และหลักการว่าชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต้องมาก่อน แม้ชีวิตเราก็สละได้
เพราะงั้นพูดตรงๆ ชัดเจนว่า
ถ้าเมื่อใดเมื่อคุณไปแตะต้อง คำว่า ชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เกิดกระบวนการบ่อนทำลาย และทำร้ายให้สั่นคลอน เมื่อนั้นหละคุณจะได้เจอกับพุทธะอิสระ และพี่น้องลูกหลานชาวไทยที่เขามีจิตใจจงรักภักดี
ขอให้ดูตัวอย่างรัฐบาลคุณปูเอาไว้
เจริญธรรม
**********************************
พุทธะอิสระ
——————————————–