สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล การกระทำส่อความเป็นชาติสกุล
๒๓ กันยายน ๒๕๖๕
กราบนมัสการท่านอาจารย์ชาตรีที่เคารพ
เห็นคลิปท่านออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผู้ที่เคยบวชอาศัยผ้าเหลือง เพื่อเรียนรู้ศึกษาจนยกระดับตนเอง จากเด็กบ้านนอกที่สุด แสนจะคับแคบอนาถา กลับกลายเป็นพระมหา ๒ เพศ
ก็พอเข้าใจในความคาดหวังที่สังคมไทยมีต่อคนระดับมหาเปรียญธรรม ๙ ประโยค และนักศึกษาในมหาวิทยาลัยสงฆ์ จนสำเร็จปริญญาโท ว่าจะบวชหรือสึก ก็คงจะเป็นต้นแบบที่ดีของผู้คนในสังคม
แต่สิ่งที่สังคมเห็น ท่านอาจารย์ดูจากบุคคลที่เคยบวชเข้ามาถึง ๑๘ ปี (นับแต่แต่บวชเณร) แต่กลับมีพฤติกรรมไม่ต่างอะไรกับคนที่มัวเมากับการหาอยู่หากินกับกามคุณอย่างลุ่มหลง ประมาท จึงทำให้สังคมและท่านอาจารย์ผิดหวัง
มาวันนี้เขาได้เปลี่ยนสถานะจากพระมหาเป็นหญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิง แสดงพฤติกรรม กิริยา วาจา รุกรานผู้มีศีลโดยไม่สำนึกถึงบาปบุญคุณโทษ
หากผู้มีศีลนั้นกระทำพฤติกรรม ละเมิดศีล ละเมิดพระวินัย ละเมิดอุดมการณ์ของพระบรมศาสดา เช่นนั้นก็สมควรถูกด่า ถูกประจาน
การที่ท่านพระอาจารย์ชาตรีออกมาเตือนหรืออีกฝ่ายจะเรียกออกมาด่าก็ตามที
โดยสามัญสำนึกของปราชญ์ ของบัณฑิต วิญญูชน จะต้องหันมามองตนเอง สำรวจดูว่า
เออ..เรามีอะไรที่บกพร่อง ผิดพลาดที่กระทำการไป พูดไป คิดไป ทำให้สื่อให้เห็นว่า เราเป็นคนพาล คนขาดศีลธรรม
แล้วปรับปรุงตนให้ถูกต้อง ตามทำนองคลองธรรมเหล่านี้คือ คุณลักษณะของบัณฑิต
แต่คนที่ท่านอาจารย์วิพากษ์ หาใช่ผู้ที่เป็นบัณฑิตไม่
ท่านอาจารย์ครับ ชีวิตของความเป็นนักบวชของท่านได้เดินมาในเส้นทางแห่งวิถีพุทธ ที่สง่างดงามดีแล้ว อย่าลดตนเองลงมาเกลือกกลั้วกับคนพาลเลย
สิ่งที่ท่านทำผู้คนทั้งประเทศรวมทั้งชาวรัสเซียเขารับรู้ เขาสัมผัสได้ นิมนต์ให้มุ่งมั่น เผยแผ่อุดมการณ์ของพระบรมศาสดาให้กว้างไกลไปทั่วโลก อย่ามาให้ราคากับคนพาลเลยท่าน
ดังภาษิตที่กล่าวไว้ว่า
คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล
คบคนชั่ว จักพาตัวอัปมงคล
จักพาตน เสียใจเพราะพาลพา
ท่านอาจารย์เป็นคนใต้ คงจะเคยได้ยินคำพังเพยที่คนใต้ คนเก่าเขาจะมักเปรียบเปรย พูดสอนลูกหลานเอาไว้ว่า
“อย่าเอาไม้สั้นไปรันขี้”
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปรากฏการณ์ของคนพาลที่มากไปด้วยอัตตา ตัวกูใหญ่จนใครๆ ไม่สามารถมาแตะต้อง ตักเตือนได้ บัณฑิตทั้งหลายจึงควรอยู่ให้ห่างไกล
พุทธะอิสระ
——————————————–