บทความ
อัยยะ นี่หรือสติปัญญาคนเคยเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ
๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
คนที่เชียร์พรรคเพื่อไทยลองลืมตามาอ่านบทสัมภาษณ์ของทั้งสองคนนี้ แล้ววิจารณ์กันเอาเอง
วอนคสช.ไฟเขียว“ปู”บินหารือรัฐสภายุโรป | เดลินิวส์
เมื่อวันที่ 24 พ.ย. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการที่รัฐสภายุโรปส่งหนังสือเชิญน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย ว่า เป็นสิ่งที่ดีต่อประเทศไทย เพราะจะเป็นการยืนยันให้ประชาคมยุโรปเห็นว่าเรากำลังเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง กำลังอยู่ระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญ และที่สำคัญที่สุด รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยไม่ได้ห้ามการเดินทางออกนอกประเทศของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะถือว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เนื่องจากคดีความยังไม่ถึงที่สุด แสดงว่าประเทศไทยขณะนี้ยังพอจะมีหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรมเหลืออยู่บ้าง ถ้าหัวหน้าคสช.ใช้โอกาสนี้ประกาศให้ประชาคมยุโรปทราบว่าไทยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการยกร่างรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง จะอนุญาตให้นักศึกษาและประชาชนทำกิจกรรมด้านประชาธิปไตยได้ตามปกติ และจะไม่มีการควบคุมตัวผู้เห็นต่างทางการเมืองอีกต่อไป ก็เชื่อได้ว่าภาพลักษณ์ของประเทศจะดีขึ้นในสายตาของโลกประชาธิปไตย
“อยากจะฝากถึงหัวหน้าคสช.ว่าพวกที่พยายามกล่าวหาว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์จะฉกฉวยโอกาสหนีคดีนั้น ผมอยากเรียนว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนหยัดต่อสู้คดีมาตลอด ไปศาลทุกครั้ง ที่สำคัญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงไม่ไปพูดให้ร้ายประเทศชาติตัวเองให้คนอื่นฟังอย่างแน่นอน จึงหวังว่าหัวหน้าคสช.จะได้พิจารณา และขอให้หัวหน้าคสช.สบายใจได้ว่าถ้าเขาได้ฟังเรื่องราวต่างๆจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ รัฐสภายุโรปจะเข้าใจเรื่องราวต่างๆในไทยดีขึ้น และคสช.ก็ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไรในเมื่อนายกฯยืนยันในเวทีโลกตลอดว่าจะเดินตามโรดแม็พ จะมีรัฐธรรมนูญที่เป็นที่ยอมรับของสากล และจะมีการเลือกตั้งกลางปี 2560 ก็ควรอนุญาตให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางได้”นายสุรพงษ์ กล่าว.“
https://www.dailynews.co.th/politics/362879
กต.ยันจม.เชิญ”ปู”ไม่ได้เชิญในนามรัฐสภายุโรป | เดลินิวส์
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 พ.ย. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงกรณีที่สมาชิกรัฐสภายุโรปส่งจดหมายเชิญน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อไปหารือเรื่องสถานการณ์การเมืองในไทยว่า ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยียม และผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ได้ยืนยันว่า จดหมายดังกล่าวเป็นจดหมายเชิญจากสมาชิกรัฐสภายุโรปจำนวน 2 คนจริง แต่เป็นการเชิญในนามส่วนตัวจึงไม่ได้ลงรายละเอียดตำแหน่งในจดหมายเชิญ และยืนยันว่าไม่ใช่การเชิญในนามรัฐสภายุโรป หรือในนามกลุ่มการเมืองหรือคณะกรรมาธิการในรัฐสภาแต่อย่างใด
นายเสข กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ถือเป็นสิทธิของสมาชิกรัฐสภายุโรปที่สามารถเชิญบุคคลต่าง ๆ มาหารือได้ ซึ่งฝ่ายบริหารหรือประเทศสมาชิกไม่สามารถควบคุมการทำงานของสมาชิกรัฐสภายุโรปได้เนื่องจากเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างไรก็ตาม สนธิสัญญาลิสบอน ซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานของสหภาพยุโรปไม่ได้ให้อำนาจให้แก่รัฐสภายุโรปในการกำหนดนโยบายต่างประเทศของอียูแต่อย่างใด ซึ่งทางฝ่ายไทย ได้ให้ เอกอัครราชทูต ณกรุงบรัสเซลส์ เข้าให้ข้อมูลและชี้แจงถึงนโยบายของรัฐบาล และการดำเนินการตามแผนโรดแม็พแก่รัฐสภายุโรปมาอย่างต่อเนื่องด้วย.“
https://www.dailynews.co.th/politics/363104
แต่ถ้าจะให้ฉันวิจารณ์ ขอบอกว่า หากอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศและรองนายกรัฐมนตรีไม่รู้ระเบียบในการส่งหนังสือขององค์กรระหว่างประเทศ
ว่าต้องผ่านสถานทูตแล้วจึงส่งหนังสือนั้นมาที่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงจะส่งหนังสือเชื้อเชิญนั้นให้แก่ผู้ถูกเชิญ
เรื่องง่ายๆ อย่างนี้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ไม่รู้
หนำซ้ำออกมาลอยหน้าลอยตายันว่าเป็นหนังสือของรัฐสภาEU
หากเป็นรัฐมนตรีแล้วไม่ต้องใช้สมอง ฉันว่าเด็กวัดๆ ฉันยังเป็นได้ดีกว่า
ทำให้รู้สึกเสียดายเงินภาษีของคนทั้งแผ่นดินที่เคยจ่ายเป็นค่าจ้างให้แก่ผู้ทำหน้าที่รัฐมนตรีคนนี้จริงๆ
พุทธะอิสระ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์