อาระตี วิระตี ปาปา การงดเว้นจากบาป

0
157
อธิบายคำว่า บาป หมายถึง การทำชั่ว ทำผิดปกติ ทางกาย ทางวาจา และทางจิตใจ
โดยเฉพาะทางจิตใจ เมื่อใดที่เผลอไผลพลั้งไป หรือตั้งใจก็ตาม หากทำชั่วไป พูดชั่วไป เมื่อใจนี้มารับรู้ทีหลังก็จักรู้สึกผิดบาป
หรือถ้ายังอย่างหนา รู้สึกได้ยาก บาปนั้นก็จะเป็นดุจดังสนิมชุ่มคอกัดกร่อนจิตใจทุกครั้งที่ระลึกได้
แม้เพียรพยายามทำเป็นลืมบาปนั้น
แต่สุดท้าย บาปนั้นมันก็ติดตามมากัดกร่อนจิตใจ ดุจดังสนิมร้าย เหมือนเงาตามตัว
รวมความแล้ว บาป คือ ผลที่เกิดจากการกระทำผิดทำชั่ว พูดผิดพูดชั่ว และคิดผิดคิดชั่ว ถือเป็นสมบัติเฉพาะตน ไม่มีใครหรือผู้ใดจะมาหักล้าง หรือแบ่งปันเอาไปได้
ทั้งยังสามารถติดตามตัวไปทุกที่ ทุกถิ่น ทุกเวลา ทุกภพ ทุกชาติ
และโทษของบาปยังจะสามารถส่งผลให้ทุรนทุราย กระวนกระวาย เผ็ดร้อน เศร้าหมอง
คนมีบาป ชีวิตจิตใจจะหาความสงบสุข ผ่อนคลายมิได้เลย ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน แม้แต่จะกิน จะขี้ หากเป็นผู้มีบาปติดตัวแล้ว จะหาความผ่อนคลาย โล่ง โปร่งเบาสบายไม่ได้เลย เช่นนี้ท่านถึงได้เปรียบผู้มีบาปเอาไว้หลายลักษณะ เช่น
ดุจดังลูกนกที่ตกอยู่ในท่ามกลางกองไฟและฝุ่นควัน
ดุจดังหัวฝีที่กำลังจะปริแตก สร้างความทุกข์ทรมานให้แก่ผู้เป็น
ดุจดังรากฟันที่ติดเชื้อจนเกิดหนอน
ดุจดังโคที่กลีบเท้าเน่า ไปไหนไม่ได้ แม้แต่จะหาอาหารและน้ำก็แสนจะยากลำบาก
ดุจดังมารดาที่เจ็บท้องแต่มิอาจคลอดลูกได้
ดุจดังแผลติดเชื้อ ช้ำเลือดช้ำหนอง เจ็บปวดทรมาน
ดุจดังสุนัขขี้เรื้อนที่มีแผลพุพอง น้ำเหลืองไหล แล้วต้องคอยวิ่งหนีแมลงหวี่ แมลงวันไล่ตอม
ดุจดังซากอสุภะแห้งๆ ที่มองหาความงามมิได้
เหล่านี้คือตัวอย่างคร่าวๆ ของผู้มีบาป
ส่วนจะอยู่ในลำดับที่เท่าไร ลักษณะที่ได้รับ มากน้อยปานใด ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนและปริมาณของบาป
หรือถ้าจะว่ากันให้ถูก ก็ต้องว่ามันขึ้นอยู่กับจำนวน หรือปริมาณของความชั่ว ความผิดพลาด ว่าเกิดขึ้นมากน้อย บ่อยๆ หรือ นานๆ ที
สรุปแล้ว บาป เป็นสมบัติเฉพาะตน ตนทำ ตนก็ได้ แล้วหากจะถามว่า บาปเกิดขึ้นทางใด
ตอบ บาปเกิดขึ้นทางตา
บาปเกิดขึ้นทางหู
บาปเกิดขึ้นทางจมูก
บาปเกิดขึ้นทางลิ้น
บาปเกิดขึ้นทางจิตใจ
และบาปเกิดจาก โง่แล้วปรุงแต่ง
หากจะถามว่า แล้วจะหยุดยั้งบาปที่เกิดจากทวารทั้ง ๕ ได้อย่างไร
ตอบ มีสติ มีปัญญา สำรวม สังวร ระวัง
ตาเห็นรูป รู้ทันรูปที่เห็นเป็นเพียงมายาการ
หูฟังเสียง ก็เป็นเพียงสักแต่ว่า เสียงให้เข้าใจถึงธรรมชาติแท้จริงของเสียง
จมูกดมกลิ่ม ก็ให้รู้สึกว่า กลิ่นแท้จริงไม่มี เป็นแต่เพียงเหตุปัจจัยปรุงแต่งขึ้น
ลิ้นรับรส ก็ให้รู้แจ้งว่า รสทั้งหลายมีอยู่แค่ปลายลิ้น กลางลิ้น พอถึงโคนลิ้น รสนั้นก็ไม่รับรู้แล้ว จะมารู้อีกทีก็เป็นโทษเสียแล้ว
กายถูกต้อง สัมผัส เป็นแต่เพียงเหตุปัจจัยมาประกอบกัน จึงทำให้สัมผัสนั้นดูดีหรือเลว
ใจรับรู้อารมณ์ หากใจนี้โง่เขลา ใจนี้ไม่มีสติปัญญา รู้ไม่ทันเหตุปัจจัยปรุงแต่ง เต็มไปด้วยอำนาจอวิชา ต้นทางแห่งบาปอกุศลทั้งปวงก็จักบังเกิดตามมา
ท่านจึงสอนให้รู้จักสำรวมระมัดระวัง รักษาใจ มิให้กระเพื่อมตามตาเห็น หูฟัง จมูกดม ลิ้นรับ กายสัมผัส และอารมณ์ที่เกิดกับใจ ต้องมีสติปัญญาคอยกำกับอยู่ทุกขณะ เป็นการปิดประตูมิให้บาปเกิดขึ้นได้
ดังคำที่ว่า
นัตถิ ปาปัง อะกุบพะโต
บาปย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ได้ทำ
นอกจากจะสำรวม สังวร ระวัง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แล้ว ยังต้องเว้นขาดจากอกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการได้แก่
๑. ฆ่าสัตว์ เช่น ฆ่าคน ยิงนกตกปลา รวมถึงทรมานสัตว์
๒. ลักทรัพย์ เช่น ลักขโมย ปล้น ฉ้อโกง หลอกลวง คอร์รัปชั่น
๓. ประพฤติผิดในกาม เช่น เป็นชู้ ฉุดคร่า อนาจาร
๔. พูดเท็จ เช่น พูดโกหก พูดเสริมความ ทำหลักฐานเท็จ
๕. พูดส่อเสียด เช่น พุดยุยงให้เขาแตกกัน ใส่ร้ายป้ายสี
๖. พูดคำหยาบ เช่น ด่า ประชด แช่งชักหักกระดูก ว่ากระทบ
๗. พูดเพ้อเจ้อ เช่น พูดพล่าม พูดเหลวไหล พูดโอ้อวด
๘. คิดโลภมาก เช่น อยากได้ในทางทุจริต เพ่งเล็งทรัพย์คนอื่น
๙. คิดพยาบาท เช่น คิดอาฆาต คิดแก้แค้น คิดปองร้าย
๑๐. มีความเห็นผิด เช่น เห็นว่าบุญบาปไม่มี เห็นว่าพ่อแม่ไม่มีพระคุณ เห็นว่าตายแล้วสูญ เห็นว่ากฎแห่งกรรมไม่มี
การที่จะสามารถเว้นขาดจากอกุศลกรรมบถ ๑๐ ได้นั้น ต้องมีคุณธรรมดังต่อไปนี้
สติความระลึกได้ สัมปชัญญะความรู้ตัว
อินทรียสังวร สำรวม สังวร ระวัง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
หิริโอตตัปปะ ความละอายชั่วกลัวบาป
เมื่อเราท่านทั้งหลายเว้นขาดจากบาปอกุศลทั้งปวงได้แล้ว จักทำให้บังเกิดอานิสงส์ส่งผลดี ๖ ประการ คือ
๑. ทำให้เป็นคนไม่มีเวร ไม่มีภัย
๒. ทำให้เกิดมหากุศลตามมา
๓. ทำให้โรคภัยไข้ไม่มี
๔. ทำให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท
๕. ทำให้เกิดศรัทธาในพระพุทธธรรมคำสอนมากยิ่งขึ้น
๖. ทำให้จิตใจผ่องใส พร้อมที่จะรองรับคุณธรรมขั้นสูงต่อไป
เอตัมมังคะละมุตตะมัง ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด
พุทธะอิสระ
๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๔
————————————————-
Refraining from sins
June 20, 2021
Sins mean bad or abnormal actions, speech, and thoughts.
Especially in one mind, whenever one careless made mistake with or without intention, whether via actions or speech, one will feel guilty later, after realizing it.
Or if one is thick-skinned and hardly feels guilty, such sins would become rust that erode one’s mind every time one recalls it.
Though one tries to forget about it, finally such sin will keep eroding one’s mind like destructive rust or following shadow.
In summary, sins are outcomes of wrong action, speech, and thought, and they are personal assets. No one may refute or share it.
Sins follow people everywhere, all the time, and in every life.
Harmful outcomes of sins result in agitation, anxiety, torture, and sorrow.
Life and mind of sinful people cannot find peace and rest. Whether they stand, walk, sit, sleep, eat, or defecate, they cannot find relaxation and comfort. As such, people compare sinful people as follows.
Like baby bird fallen upon fire and smoke
Like abscess that is going to break and causes pain
Like infected root canals till worms appear
Like cattle with rotten feet and cannot go anywhere. It is extremely difficult for them to find meal and water.
Like pregnant mother with labor pain who cannot give birth.
Like painful, bruised, and infected wounds
Like dogs infected by leprosy and blisters and lymph leaks that keep run away from fleas and flies
Like dry corpses which lack of any beauty
These are rough examples of sinful people.
How much bad outcomes they will receive depends on quantity and frequency of their sins.
It depends how often they committed sins, often or from time to time.
In conclusion, sins are one’s personal assets. If one commits sins, they will receive the negative outcomes of sins. As for the question which channels sin occur?
Answer : Sins appear from one’s eyes.
Sins appear from one’s ears.
Sins appear from one’s nose.
Sins appear from one’s tongue.
Sins appear in one’s mind.
Sins occur because one is foolish and falsely make things up.
Question how to prevent sins from five senses
Answer : one must have consciousness, wisdom, and caution
When eyes see an object, one must realize that the object is merely illusion.
When ears hear sounds, one will understand true nature of the sounds.
When nose smells scent, one should feel that scent does not exist, scent has been merely formed by factors.
When tongue tastes, one must know that such taste stays at the tip or in the middle. When taste comes to the base of the tongue, one will not feel the taste. When one realizes, it has become harmful.
When body touches, one knows that it is just factors that make that touch look good or bad.
When one’s mind is aware of emotion, if one’s mind is foolish and does not know factors, full of ignorance, then all kinds of sins will occur.
As such, one should be cautious of one’s mind not to be aroused by eyes, ears, nose, tongue, body, and mind.
One must have consciousness and wisdom at every moment to prevent any sin from happening.
Like the saying sins will not happen to those who have not done it.
Apart from cautiously beware of one’s eyes, ears, nose, tongue, body, and mind, one must refrain from ten immoral deeds as follows.
1. Killing such killing human beings, bird shooting, fishing, including torturing animals
2. Stealing such as robbing, cheating, deception, and corruption
3. Sexual misconduct such as adultery, raping, and obscenity
4. Telling lies including making up stories and fake evidences
5. Taunting including incitation and slander
6. Speaking bad words such as scolding, sarcasm, and cursing
7. Driveling such as rambling, talking nonsense, and boasting
8. Greedy mind such as wanting to gain assets in dishonest ways or wanting other people’s assets
9. Vindictive mind such as wanting to revenge and assault someone
10. Having wrong belief such as thinking that merits or sins do not exist, thinking that parents are not benevolent, thinking that there is no life after death, thinking that law of karma does not exist.
To completely refrain from ten immoral deeds, one must have following moral principles.
Consciousness and mindfulness
Restraint of the senses including eyes, ears, nose, tongue, body, and mind
Moral shame and moral fear
When one can completely refrain from all immoral deeds, one will obtain following six merits.
1. One will not have vengeance or harm.
2. Wise, meritorious deeds shall occur.
3. Free from disease
4. One is firmly cautious.
5. One obtains stronger faith in Buddhist teachings.
6. One has purified mind, ready for higher level of morality.
This is the most auspicious factor in one’s life.
Buddha Isara