ลูกไทยผู้มีหัวใจจงรักและภักดี จะต้องไม่ปล่อยให้พวกด็อกเตอร์ปลวกเหล่านี้ มากัดแทะเสาหลักของชาติได้ต่อไป
ต้องหาวิธีสกัด กำจัด คัด เขี่ย ออกไปให้พ้นจากแผ่นดินไทย เพราะขืนปล่อยไว้นั้นก็เท่ากับการปล่อยให้ตัวเชื้อโรคร้าย เข้ามาแทรกซึมบ่อนทำลายสมองลูกไทยให้กลายเป็นซอมบี้ อย่างที่เราทุกคนได้เห็น
หลังจากนำเอาความเท็จของด็อกเตอร์ปลวกที่ชื่อ ดร.ณัฐพล ใจจริง มาเปิดเผย ก็มีบรรดากองเชียร์ของพวกด็อกเตอร์ปลวกออกมาโพสต์กระแนะกระแหนว่า…
———————————————–
Tawan Khamjan : อะไรที่เห็นต่างจากสุวิทย์ = Fake news
Naruphon Sit : แบน ธรรมศาสตร์ กับ จุฬา เลยครับ แล้วไปเรียนกับ นาย สุวิด แทน
———————————————–
ต้องขอบคุณที่ให้ความสนใจเข้ามาโพสต์ตำหนิฉัน ถือเป็นแรงกระตุ้น ให้ขวนขวายหาหลักฐานมายืนยันกับบรรดาแฟนๆ ของด็อกเตอร์ปลวกทั้งหลายให้ได้ตาสว่าง
และขอบอกว่า เรื่องวิทยานิพนธ์ที่มีข้อมูลเท็จนี้ ไม่ใช่เรื่องการเห็นต่าง
แต่มันคือเรื่องสำนึกถูกผิด ว่ามีอยู่ในกะโหลกของคนที่เรียกตนเองว่า ครูอาจารย์ในมหาวิทยาลัยหรือไม่
และก็ไม่ใช่เรื่องของการที่ไม่ต้องเรียนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือจุฬาฯ แล้วต้องมาเรียนกับฉัน แต่เมื่อมันมีการนำเอาความเท็จมาเผยแพร่ผิดๆ เมื่อมันผิดแล้วจะถึงกับต้องปิดมหาวิทยาลัย หรือเปลี่ยนมาเรียนกับฉัน นี่มันตรรกะของคนพันธุ์ไหนกันจ๊ะ
หากพวกแฟนคลับด็อกเตอร์ปลวก ต้องการจะดูหลักฐานการยอมสารภาพความผิดพลาด ที่นายณัฐพล ใจจริง ยอมรับต่อบัณฑิตวิทยาลัย จนนำมาซึ่งมติของคณะกรรมการบริหารบัณฑิตวิทยาลัยในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๒ วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ห้ามนำวิทยานิพนธ์ดังกล่าวออกเผยแพร่โดยไม่มีกำหนด
หากอยากดูหลักฐานฉบับเต็ม ก็ไปขวนขวายหาอ่านบันทึกข้อความของบัณฑิตวิทยาลัยจุฬาฯ กันได้ อย่าเอาแต่ลุ่มหลงเชียร์กันจนไม่ลืมหูลืมตา
ในเวลาต่อมา นายด็อกเตอร์ปลวกคนนี้ ก็เล่นตุกติกหาวิธีเลี่ยงบาลี ยังมีการนำเอาวิทยานิพนธ์ที่มีประเด็นสร้างความเสียหายให้แก่สถาบัน ออกไปตีพิมพ์เผยแพร่โดยเปลี่ยนชื่อและปกหนังสือดังในรูปที่เขาโชว์
เห็นว่าขายดิบขายดีเสียด้วยนะ
และผู้ที่ตกเป็นเหยื่อข้อมูลเท็จของด็อกเตอร์ปลวกคนนี้ คือลูกไทยวัยละอ่อนทั้งสิ้น
หากไม่เชื่อก็ลองดูรูปสิ
แบบนี้เรียกว่า มีเจตนานำความเท็จออกเผยแพร่หรือเปล่าหล่ะ
พุทธะอิสระ
๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๓
————————————————–
Bad people get the upper hand because good people are usually indifferent.
December 30, 2020
Thai royalists must no longer let these “termite” doctoral scholars ruin the key pillar of our nation.
We must find ways to stop, get rid of, screen, and cast them away from the country. Otherwise, it means letting the horrible disease to penetrate and undermine the brains of Thai youth to become zombies as we have seen.
After exposing the false thesis of the “termite” scholar named Dr. Nattapoll Chaiching, his fans have posted some nagging messages such as…
———————————————–
Tawan Khamjan : Who think differently from Suwit. = Fake news
Naruphon Sit : Let’s ban Thammasat and Chula and then study with Suwit instead.
———————————————–
I need to thank them for their interest in criticizing me. This has motivated me to find evidence to show fans of this termite scholar so that they start to see the light.
The thesis with false information is not about different perspectives.
But it is about someone who calls himself a university lecturer and whether he has conscience in his skull.
And this is not about quitting the study at Thammasat or Chulalongkorn Universities and studying with me instead. When the false information has been widely spread, would it result in the closure of the universities and turning to study with me? What kind of man’s logic is this?
Fan clubs of “termite” scholar may want to see the evidence of Nattapoll Chaiching’s confession of his mistake to the Graduate School which led to the resolution of the graduate school’s board of directors at the 2/2562 meeting on February 14, 2019, that the thesis must not be published indefinitely.
If you want to see the evidence completely, you may search for a memorandum of the Graduate School of Chulalongkorn University. Please do not just blindly cheer him.
Afterwards, this “termite” scholar played tricks and tried to get around. He still could publish this thesis by changing its name and cover, as he has shown in the picture.
I have heard that it sold well.
And victims of fake information of this “termite” doctor are Thai youth.
If you don’t believe, take a look at the picture.
Is this called intention to spread false and misleading information?
Buddha Isara