‘พุทธะอิสระ’ ชวนบวงสรวงปกปัก ‘ราชวงศ์จักรี’ ชี้จัดการม็อบราษฎรง่าย-ตัดเสื้อแดงร่วม!

0
83

https://mgronline.com/specialscoop/detail/9630000117320

โดย: ผู้จัดการออนไลน์

พุทธะอิสระ จับมือ อานนท์ แสนน่าน เดินสายทั่วประเทศ ดึงมวลชนคนเสื้อแดงและอดีตพคท.ที่เคยเป็นปรปักษ์กับสถาบันฯ ให้เข้าถึงความจริง เชิญชวน 17 พ.ย.ร่วมพิธีบวงสรวงเทพยดาอารักษ์ที่ศาลหลักเมืองเพื่อปกปักอภิบาลรักษาแผ่นดินสยาม และราชวงศ์จักรีวอนคนเสื้อเหลืองคิดจะใช้ความรุนแรงให้นึกถึง ‘พ่อ’ มั่นใจ ‘ม็อบราษฎร’ จัดการง่าย! ตัดเส้นทางคนเสื้อแดงร่วมขบวน ยันหากเลือกตั้งช่วงนี้ ‘เพื่อไทย’ ชนะแน่แนะ 5 ธ.ค.ขอให้ ‘ลูกของพ่อ’ ร่วมแสดงความจงรักภักดีเทิดทูนสถาบันฯ ให้แน่นทุกพื้นที่

อดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ หรือ ‘สุวิทย์ ทองประเสริฐ’ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม บอกว่า ได้ประสานและร่วมมือกับนายอานนท์ แสนน่าน ผู้ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย เดินสายทั่วประเทศเพื่อให้คนเสื้อแดงเข้าใจสถาบันกษัตริย์อย่างถ่องแท้ โดยเริ่มที่ภาคอีสานเป็นแห่งแรก เนื่องเพราะภาคอีสานเป็นเมืองหลวงของหมู่บ้านเสื้อแดงที่มีขุมกำลังชัดเจน

“ที่นี่มี 2 กลุ่ม ทั้งคนเสื้อแดงและกลุ่ม ผกค.สายเก่า ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มค่อนข้างมีภาพลักษณ์เป็นปรปักษ์กับสถาบันกษัตริย์ เพราะมีการยุยงปลุกปั่น และหล่อหลอมของนักการเมือง รัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นักวิชาการบางคน ซึ่งคนพวกนี้ก็หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศกันแล้ว”

ขณะที่ม็อบเสื้อแดงล้มเจ้าเหล่านี้ ก็คือคนในหมู่บ้านเสื้อแดงที่เกิดขึ้นจากผลผลิตของกลุ่มนักการเมือง และนักวิชาการที่เป็นปรปักษ์ต่อสถาบันฯ ซึ่งสามารถรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นเป็นขุมกำลังที่แข็งแรงมาก มีองค์กรดูแลไม่มีการทอดทิ้งกัน และได้รับเงินอุดหนุนกันอย่างต่อเนื่องจึงเป็นเครื่องมือของนักการเมืองที่สามารถจะระดมพลได้ตลอดเวลา

ปัจจุบันจะยังคงรับเงินอุดหนุนจาก ‘นายใหญ่’ หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายรวมทั้งทีมพุทธะอิสระก็พยายามสืบหาข้อมูล

“คนเสื้อแดงได้บอกกับพุทธะอิสระว่า ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ก่อนหน้านี้คนเสื้อแดงส่วนใหญ่อยู่นอกเมือง ส่วนคนในเมืองจะเป็นเสื้อเหลือง รักสถาบัน เวลาที่พวกเสื้อแดงเข้าในเมืองไปกินก๋วยเตี๋ยวกินข้าว มักจะไม่ให้เข้าร้าน บางทีโดนตีหัวด้วย”

แต่หลังจาก คสช.ปฏิวัติ ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป มีการสลายขั้วอำนาจ ปลดป้ายหมู่บ้านเสื้อแดง เปลี่ยนเป็นหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนฯแกนนำเสื้อแดงและชุมชนก็เริ่มรู้สึกว่ารัฐบาล พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา พยายามเข้ามาดูแลพวกเขา ซึ่งกลุ่มเสื้อแดงรุ่นใหม่อย่าง นายอานนท์ แสนน่าน ก็เริ่มมองเห็นและเข้าใจสถานการณ์

“พวกเขามองเห็นว่า หากจะสู้กันต่อไปก็คงไม่ได้อะไร ก็เริ่มเข้ามาร่วมในหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชน ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่ถ้าจะถามว่าอุดมการณ์ที่เขามีอยู่ยังมีอยู่มั้ยตอบได้เลยว่ายังมีอยู่”

พุทธะอิสระ ย้ำว่า การมาครั้งนี้และจับมือกับนายอานนท์ มีเจตนาและเป้าหมายเพื่อสลายอุดมการณ์ที่เขามีอยู่เดิม ทำให้คนเสื้อแดงเชื่อว่ามีสิทธิต่างๆ เหมือนคนทั่วไป แม้วันนี้เขาจะเป็นหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชน แต่ความไว้วางใจกันระหว่างเสื้อเหลืองเสื้อแดง ก็ยังไม่เกิดขึ้น

“พวกนี้ยังมีความระแวงกันอยู่ ซึ่งการเคลื่อนพลของม็อบราษฎร หรือม็อบชู 3 นิ้ว ก็จะมีกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปร่วม ซึ่งปัญหาต่างๆ ก็มีให้เห็นหากปล่อยให้พวกนี้รวมตัวกันทำไม่ดีต่อสถาบันฯ ต่อประเทศ ก็จะเป็นการไปช่วยเพิ่มปริมาณม็อบให้มากขึ้นเพราะจำนวนคนเสื้อแดงทั้งประเทศมีมากมาย”

พุทธะอิสระ บอกอีกว่า การระดมคนของกลุ่มนี้ 40,000-50,000 คน จะใช้เวลาเพียงแป๊บเดียวก็ได้แล้ว เพราะคนกลุ่มนี้จะมีความเหนียวแน่น มีโครงข่ายที่แข็งแกร่ง มีการติดต่อสื่อสารกันตลอด แม้จะอยู่กันคนละจังหวัดก็ตาม


“จะทำอย่างไรให้คนเสื้อแดง และกลุ่ม พคท.เก่า มาอยู่รวมกับพวกเราและมีหลักคิดเดียวกันได้ คือเรื่องบ้านซึ่งหมายถึงชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งทุกฝ่ายต้องใส่ใจและเติมกำลังใจให้กันและกัน ถ้าเราสามารถพูดคุยกันได้ รู้ถึงพิษภัยที่จะเกิดขึ้นในแผ่นดินว่าจะเป็นอย่างไร จะทำให้พลังการปกป้องสถาบันกษัตริย์มั่นคงยิ่งขึ้น จึงต้องประสานนายอานนท์ และทุกฝ่ายมาร่วมประชุมกัน เดินสายพบพี่น้องเสื้อแดงกัน”

สิ่งที่พุทธะอิสระ ตอกย้ำกับคนเสื้อแดงทุกพื้นที่ หากสถาบันกษัตริย์ต้องมีอันเป็นไป เสาหลักจะหายไปทันทีหนึ่งหลัก บ้านที่อยู่ก็จะเซทันที ดังนั้น จึงต้องร่วมกันหาวิธีการทำอย่างไรที่จะช่วยกันรักษาเสาหลักของบ้านไว้ให้ได้!

“ตั้งใจจะลงพื้นที่อีสานให้ครบแต่เวลานี้ยังมีที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ต้องการให้ไป ก็ต้องวางแผนว่าจะไปช่วงไหนกันบ้าง ที่ภาคเหนือ หลังพิธีบวงสรวงที่กรุงเทพฯ จะขึ้นเหนือไปที่จังหวัดตากในวันที่ 18 พ.ย.ก่อน จากนั้นก็จะไปเชียงใหม่ เชียงราย ต่อไป”

พุทธะอิสระ บอกว่า ในวันที่ 17 พ.ย.นี้ เวลา 08.00 น. ถือเป็นวันและเวลาฤกษ์ดีที่สุดในการจะทำพิธีบวงสรวงเทพยดาอารักษ์ทั้ง 5 องค์ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าพ่อเจตคุปต์ เจ้าพ่อหอกลอง พระสยามเทวาธิราช ณ ศาลหลักเมืองตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ให้ปกปักอภิบาลรักษาแผ่นดินสยาม และราชวงศ์จักรี ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าร่วมพิธีได้เช่นกัน

สาเหตุที่คนเสื้อแดงไม่ชอบสถาบันกษัตริย์นั้นพุทธะอิสระ บอกว่า เป็นเพราะพวกเขาถูกหล่อหลอมจากนักการเมืองและนัก
วิชาการตั้งแต่ยุคนายทักษิณ ชินวัตร พวกเขามีหลักคิดว่าในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่คนไทยทั้งประเทศรัก เทิดทูน เชื่อมั่น และศรัทธามากเพราะพระองค์ท่านทำเพื่อคนทั้งประเทศมาตลอด

แต่คนเสื้อแดง กลับมองว่าในหลวงและสถาบันฯ เป็นบุคคลชั้นพิเศษ เป็นผู้ที่ไปขัดขวางหลักการความเสมอภาค มีการขยายไปถึงความไม่เสมอภาคในสังคม ชีวิตความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ตามด้วยการเมือง

อดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ หรือ ‘สุวิทย์ ทองประเสริฐ’
“มองว่าพระองค์ท่านขัดขวางหลักการของเสรีภาพด้วยพวกนี้ก็ขยายความว่าพระองค์ท่านทำร้ายประชาชน เอาเปรียบด้วยการใช้วิทยุแดงพูดตอกย้ำเช่นนี้ตลอด ที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรหลัง คสช. จนถึงมีรัฐบาลเลือกตั้งก็ยังปล่อยให้พวกนี้ดำน้ำอยู่ใต้ดิน เจริญเติบโต พอปีกกล้าขาแข็งก็ออกมาแสดงพลังจนทุกวันนี้”

พุทธะอิสระ บอกว่า ในยุคที่นายใหญ่มีอำนาจ ทั้งบนดิน ใต้ดิน มีการสร้างเครือข่ายไว้แน่นหนาพวกนี้จึงสู้ได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับที่แมลงวันทองวางไข่ที่ผลไม้ ก็จะก่อหวอดออกมาเป็นหนอนเป็นแมลงในลูกผลไม้นั่นเอง

ดังนั้น จึงต้องรีบตัดตอน และการที่นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเสื้อแดง ได้เฝ้าฯ รับเสด็จในหลวง  และพระราชินี ซึ่งพระองค์ท่านทรงยื่นพระหัตถ์มาตบไหล่ขวาและตรัสกับนายอานนท์ ว่า จะเป็นใครก็ช่าง แต่ขอให้รักชาติ เป็นคำตรัสที่นายอานนท์ และสมาชิกติดตา ตรึงใจ ซึ่งพวกเขาได้บอกกับพุทธะอิสระว่า พวกเขาปลื้มปีติ ดีใจมากๆ และนอนไม่หลับ คิดถึงสิ่งที่พระองค์ท่านตรัสและทรงจับที่ไหล่

เวลานี้ก็พยายามพูดคุยกับกลุ่มคนเหล่านี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า พวกเขาจะไม่ไปเป็นกองกำลังของฝ่ายนายทักษิณ ชินวัตร หรือฝ่ายล้มเจ้าอีกต่อไป ต้องพยายามทำให้ได้ทุกพื้นที่ทุกจังหวัด”

พุทธะอิสระ บอกว่า ปัจจุบันหากรัฐบาลบิ๊กตู่ยังไม่สามารถตอบโจทย์ หรือดึงมวลชนได้ คือไม่สามารถทำให้ประชาชนกินอิ่ม นอนหลับ หรืออยู่ร่มเย็นเป็นสุขได้ ประเด็นปัญหาเหล่านี้หากยังไม่ได้รับการเยียวยา หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ ก็ยืนยันได้ว่าพรรคเพื่อไทยชนะอีกแน่นอน

“จะถามว่าคนเสื้อแดงหรือคนที่หนุนเพื่อไทยมีจำนวนกี่ล้านคนนั้น บอกเป็นตัวเลขไม่ได้ แต่รู้ว่าเยอะจำนวนหลายล้าน พิสูจน์ได้ชัดๆ หากโจทย์ต่างๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไข เพื่อไทยก็ชนะเลือกตั้งอยู่แล้ว อานนท์ เขาก็มั่นใจว่าเพื่อไทยชนะแน่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของศรัทธาเก่าแต่เป็นเพราะเขาจับต้องในสิ่งที่เขาได้รับ จึงทำให้คนเหล่านี้มั่นใจ”

นายอานนท์ แสนน่าน อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดง
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่ พุทธะอิสระ ลงพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เสมือนเป็นการปลุกม็อบให้เกิดการปะทะในกลุ่มเสื้อเหลืองและม็อบราษฎรหรือไม่นั้น พุทธะอิสระ ได้ไขข้อข้องใจว่า ต้องทำความเข้าใจตรงกันก่อนว่า การที่พุทธะอิสระเดินสายครั้งนี้ เพราะความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ อย่างยิ่ง และอยากให้ประชาชนทั้งประเทศมีความเข้าใจที่ถูกต้องว่าสถาบันกษัตริย์ได้ทำเพื่อประชาชนมาตลอด สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และมีการมองสถาบันฯ อย่างไม่ถูกต้องนั้นเป็นเพราะถูกยุยงปลุกปั่นจากคนบางกลุ่มเท่านั้น

“อยากให้คนทุกกลุ่มจงรักและภักดี เทิดทูนสิ่งที่มีให้สูงส่งและดียิ่งขึ้น นั่นคือ ชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และการที่พุทธะอิสระเดินสายก็เพราะเชื่อว่ายังมีคนฟังและเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดและที่เป็นอยู่ เพราะฉันไม่อยากได้อะไร ไม่ต้องการอะไรไม่หวังผลอะไร ไม่มีผลประโยชน์ทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง มีแต่กำลังกาย กำลังใจ และปัจจัยที่ได้จากการผลิตไก่ย่างขาย ทั้งขายส่งและขายปลีก เพื่อใช้ในการเดินสายพูดคุย”

นอกจากนี้ พุทธะอิสระ ได้ประกาศเชิญชวนในทุกๆ พื้นที่ที่เดินสายขอให้ไปแสดงความจงรักภักดี แสดงพลัง เทิดทูนสถาบันฯ ต่อ ‘พ่อ’ ของแผ่นดินในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ ตั้งแต่สนามหลวง แน่นไปให้ทั่วถนนราชดำเนิน และขยายต่อไปให้มากที่สุด

“ใครไม่มีเสื้อสีเหลือง จะใส่เสื้อสีอะไรก็ได้ ขอให้มาแสดงความจงรักภักดีเทิดทูนสถาบันฯ กันด้วยใจ ให้เป็นล้านล้านคน

พุทธะอิสระ จับมือ อานนท์ ผุดโครงการ ชวนกินข้าว ฟังเรื่องเล่าพระเจ้าอยู่หัว เดินสายทั่วไทย

แต่สิ่งที่พุทธะอิสระเป็นห่วงและต้องการบอกกับทุกคนที่ใส่เสื้อเหลืองที่กำลังถูกมองว่าใช้ความรุนแรง ว่าพี่น้องทุกท่านที่ต้องการระบายความรู้สึกใดๆ ให้คิดถึงสีเสื้อเหลืองที่ตัวเองใส่ เป็นสีของราชวงศ์ เป็นสีของ ‘พ่อ’ ถ้าเอาสัญลักษณ์ของพ่อไปทำร้ายลูกของพ่อด้วยกัน เป็นสิ่งไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง

ที่สำคัญการจะใช้ม็อบชนม็อบเป็นเรื่องที่หมดสมัยกันไปแล้ว และม็อบราษฎรที่ชุมนุมอยู่นั้นก็ไม่ได้ทำให้รัฐบาลบิ๊กตู่สะดุ้งสะเทือนอะไร และบรรดาเจ้าหน้าที่ก็อย่าไปบ้าจี้ใช้กำลัง เพราะยุคสมัยนี้เพียงแค่ใช้กฎหมายดำเนินการต่อผู้ชุมนุมก็เหนื่อยล้า แกนนำ หรือผู้ชุมนุมโดนเข้าไปหลายคดี เดี๋ยวม็อบราษฎรก็จะฝ่อไปเอง

อีกทั้งการที่ม็อบราษฎรหวังว่าคนเสื้อแดงจะเข้ามาเติมจำนวนผู้ชุมนุมก็อาจจะเป็นเรื่องยากเพราะการเดินสายของพุทธะอิสระและนายอานนท์ แสนน่าน รวมทั้งแกนนำคนเสื้อเหลืองอื่นๆ ก็น่าจะตัดขุมกำลังได้เช่นกัน!