วันนี้ต้องเดินทางไปศาลอาญารัชดาแต่เช้า
เพราะศาลท่านนัดสืบคำฟ้องในคดีที่พุทธะอิสระฟ้องเจ้าคุณประสารและพวก ที่บังอาจสมคบกันลงอุกเขปนียกรรมเถื่อน (คือการตัดสิทธิ์การร่วมสมาคมด้วย) แก่พุทธะอิสระ
ทั้งที่ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎนิคหกรรมแล้ว คนพวกนี้เขาไม่มีสิทธิ์
แต่จักมีสิทธิ์ลงอุกเขปนียกรรมและนิคหกรรมต่อพุทธะอิสระได้หรือไม่
ก็คงต้องรอฟังคำพิพากษาของศาลท่าน
เหตุที่ต้องฟ้องก็เพราะต้องการจะสอนให้เจ้าคุณประสานและพวกได้สำนึกว่า อย่าบังอาจใช้พระธรรมวินัยมาสนองตัณหาตนเองโดยกลั่นแกล้ง รังแกผู้ที่ตนไม่ชอบด้วยคิดว่าตนมีพวกมาก อยากทำอะไรกับใครก็ได้ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง
อีกทั้งต้องการให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐานแก่สังฆมณฑลในกาลข้างหน้า ต่อวิธีปฏิบัติตามหลักอุกเขปนียกรรมและกฎนิคหกรรม
วันข้างหน้าภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย จักได้ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติสืบไป
วันนี้มีจำเลยมาศาลแค่ ๓ คน คือ นายเมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ จำเลยที่ ๒ พระอธิการฉัตรชัย อธิจิตโต และ พระปลัดนรุตม์ชัย อภินันโท จำเลยที่ ๓ และ ๔
บรรยากาศในศาลวันนี้ ศาลท่านปรารภว่า คดีนี้น่าจะพูดคุยกันได้ จึงเรียกโจทก์ และจำเลยมาคุย
ศาลจึงขอให้โจทก์คือพุทธะอิสระ ได้แสดงความคิดเห็น
พุทธะอิสระจึงได้แจ้งต่อศาลโดยสรุปว่า
เหตุที่ฟ้องนี้ ฟ้องในกรณีจำเลยร่วมกันลง อุกเขปนียกรรมที่ไม่ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย ซึ่งมีหลักฐานปรากฏ ดังที่ได้ยื่นให้แก่ศาลไปแล้ว
หากศาลมีคำวินิจฉัยตัดสินมาอย่างไร
อนุสงฆ์รุ่นหลังๆ จักได้นำไปใช้เป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติแก่คณะสงฆ์สืบไป
ส่วนในกรณีที่ศาลต้องการให้พุทธะอิสระได้พูดคุยกับจำเลยที่ ๓ ที่ ๔ คือ พระอธิการฉัตรชัย อธิจิตโต และ พระปลัดนรุตม์ชัย อภินันโท
พุทธะอิสระจึงได้สอบถามกับจำเลยทั้งสองว่า ท่านทราบและยอมรับหรือไม่ว่า การประกาศลงอุกเขปนียกรรมของพวกท่านมันขัดต่อหลักพระธรรมวินัย
จำเลยทั้งสองยอมรับผิดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่แจ่มชัดในพระธรรมวินัย จึงกระทำการไปด้วยความประมาท จึงขอขมาโทษ
พุทธะอิสระเห็นถึงความจริงใจ ต่อการยอมรับผิด อีกทั้งจำเลยทั้งสองก็ได้มีความตั้งใจดีน่าจะทำคุณแก่พระพุทธศาสนาได้สืบไป
แม้จักหลงผิดออกมาปกป้องคนผิดไปบ้างก็ถือว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ พุทธะอิสระจึงได้ให้อภัย อโหสิกรรม อดโทษให้ ถอนฟ้องให้จำเลยทั้งสอง
ส่วนจำเลยที่ ๑ – ๒ คือ พระเมธีธรรมาจารย์ หรือ เจ้าคุณประสาร และ นายเมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ ศาลได้ขอให้มีการเจรจาอีกครั้งเพราะจำเลยที่ ๑ มิได้มาศาล จึงนัดในวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๐ น.
หวังว่าการให้อภัยครั้งนี้คงจะเป็นคุณแก่พระธรรมวินัย
ส่วนพวกที่ร่วมกันกระทำอุกเขปนียกรรมเถื่อน คงจะมีการดำเนินการในทางคดีสืบไป
พุทธะอิสระ
ขอขอบคุณภาพจาก สำนักข่าวเนชั่น