วันที่ ๒๔ – ๒๕ มกราคม ๒๕๖๑ นี้รับกิจนิมนต์จากค่ายธนะรัชต์ ศูนย์การทหารราบ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในภารกิจให้ไปเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีบวงสรวง พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในพระอิริยาบถทรงคาบดาบปีนค่ายพม่า ณ แผนกวิชาการจู่โจมและส่งทางอากาศ ศูนย์การทหารราบ ปราณบุรี
ซึ่งสมัยอยู่ที่ถ้ำไก่หล่น ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สร้างให้แก่กองพันจู่โจม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เตือนสติให้แก่ทหารทั้งหลาย ที่เข้าไปเรียนหลักสูตรจู่โจมทุกคน ให้ตระหนัก สำนึก ระลึกถึงคำว่า เสือคาบดาบนั้นหาได้เป็นนามไก่กาไม่แต่เป็นนิมิตนามที่อดีตองค์พระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงห้าวหาญ เสียสละรบพุ่งเพื่อปกป้อง ดำรงรักษาไว้ซึ่งแผ่นดินสยามจนได้ขนานพระนามในหมู่ของนักรบในยุคกรุงศรีอยุธยาว่า เทพแห่งสงคราม
แม้จักมีกำลังไพร่พลแค่ ๕ พัน แต่ก็ยังอาจหาญเข้าต่อกรกับกองกำลังของพม่าจำนวนที่มีกำลังไพร่พลมหาศาล ด้วยพระปรีชาญาณอันลุ่มลึก รอบคอบทรงจัดกำลังไพร่พลที่มีอยู่น้อยนิดแยกออกเป็นกองโจรย่อยๆ ลอบเข้าปล้นและเผาค่ายพม่า ในยามค่ำคืนจนสร้างความแตกตื่น ปั่นป่วนให้กับทัพพม่าทั่วทุกทิศ แล้วกองกำลังที่ดักซุ่มอยู่โดยรอบค่าย จึงเข้าโจมตีกระหน่ำซ้ำอีกทั้ง ๔ ทิศโดยพร้อมเพรียงกัน จนทำให้ทัพพม่าแตกพ่ายไปในที่สุด
พระอัจฉริยภาพในยุทธวิธี ที่มีอยู่ในพระองค์ผู้ทรงเป็นเทพแห่งสงครามเช่นนี้แหละจึงทำให้สามารถประกาศอิสรภาพ ไม่ตกเป็นประเทศราชของพม่าได้ในที่สุด
จึงเป็นที่มาของหลักสูตรเสือคาบดาบที่ทหาร ตำรวจต้องเข้าไปศึกษา เรียนรู้พร้อมทั้งซึมซับถึงวีรกรรมของบรรพบุรุษไทย
พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในพระอิริยาบถทรงคาบดาบปีนค่ายพม่านี้
พุทธะอิสระได้ทำการสร้างให้แก่ค่ายทหารปราณบุรีมา ๒๔ ปีแล้ว ปีนี้จึงดำริทำพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณของอดีตบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า และวีรบุรุษไทยในอดีตทุกคน
โดยมีพลโทกิติศักดิ์ โยเหลา อดีตผู้บังคับกองพันจู่โจม มาเป็นแม่งานในฐานะที่เป็นผู้ร่วมสร้างพระราชานุสาวรีย์นี้ด้วย
พิธีบวงสรวงเริ่มในเช้าวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๙ น.
วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๑ ต้องตระเตรียมสถานที่และอาหารที่ใช้จัดเลี้ยงกำลังพลจู่โจมประมาณ ๓ กองร้อยและประชาชนผู้ร่วมงานอีกประมาณ ๓-๔ ร้อยคน งานนี้จึงต้องแจ้งบรรดาพ่อครัว แม่ครัวและจิตอาสาของเต็นท์หมายเลข ๙ ไปประกอบอาหารคาวหวานเลี้ยงกัน
เลยไม่สามารถไปรับฟังการแจ้งคดีกบฏ ของอัยการที่นัดมาได้ในวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๑
จึงให้ทนายเอาหนังสือนิมนต์ของค่ายธนะรัชต์ไปแจ้งขอเลื่อนรับฟังคำสั่งคดีจากอัยการคดีพิเศษ แต่ก็ทราบมาว่า ลุงกำนันและแกนนำอีกหลายคนไปรับฟังคำสั่งคดีในวันที่ ๒๔ ด้วย
ซึ่งก็น่าเสียดายที่พุทธะอิสระ ต้องยืดเวลา เดินทางไปรับรางวัลความรักชาติ พร้อมพี่น้องพ้องเพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์
ด้วยภารกิจนิมนต์เป็นประธานฝ่ายสงฆ์พิธีบวงสรวงนี้ ท่านนายพลเขากำหนดเวลามาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว อีกทั้งเขาได้มีการประชุมวางแผน เตรียมการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหลายครั้งแล้ว
เราจึงมิอาจให้งานเขาเสียหาย
จึงได้ขอเลื่อนนัดอัยการพิเศษไปก่อน เอาไว้เมื่อใดที่อัยการนัดมาใหม่ เราค่อยไปรับรางวัลคดีกบฏ
หวังว่าพวกบรรดา กองเชียร์ที่อยากให้พุทธะอิสระติดคุกคงจะอดใจรอต่อไปได้นะจ๊ะ
พุทธะอิสระ