ต้องขอขอบคุณ ขอบใจ ที่รัฐบาล คสช. สนช. สปท. ที่ช่วยทำความฝันของมวลมหาประชาชนให้กลายเป็นจริง
ขณะที่พวกเราออกไปเสี่ยงตายอยู่บนถนนเป็นเวลาร่วมครึ่งปี
หนึ่งในหลายสิ่งที่พวกเราเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกฎหมายก็คือ
คดีทุจริต ไม่ว่าจะเป็นของนักการเมืองหรือข้าราชการ ต้องไม่มีอายุความ และศาลสามารถพิจารณาคดีลับหลังได้
ทรัพย์สินหรือเงินของแผ่นดิน ไม่ว่าจะตกไปอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร จะต้องถูกยึดคืนกลับมาทั้งต้นและดอก
พวกญาติโกโหติกา บรรดาลูกเมียและบุคคลใกล้ชิดจะต้องถูกตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินทั้งก่อนและหลังเข้ารับตำแหน่ง ไม่เว้นแม้แต่คนรับใช้ คนขับรถ คนสวน
อีกทั้งพวกโกงชาติโกงแผ่นดิน จะต้องมีโทษหนักที่สุดเท่าที่กฎหมายจะกำหนดบทลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญา
พวกเรามวลมหาประชาชนคนรักชาติ ต้องขอขอบคุณคณะรัฐบาล คสช. และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)
พุทธะอิสระ
ร.อ.ทินพันธุ์ นาคาตะ ประธาน สปท. ระบุว่า
“กฎหมายนี้ผลงานชิ้นโบแดง แต่ไม่ทราบว่าจะเข้า ครม. วันนี้ ซึ่งกฎหมายนี้เป็นความตั้งใจที่รัฐบาลจะให้ข้าราชการมีความซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน โดยจะบังคับใช้กับข้าราชการทุกคน ทุกตำแหน่ง ข้าราชการการเมือง รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือเอกชนที่เข้ามาเป็นคณะกรรมการของรัฐ ซึ่งจะดำเนินการทุกระดับพร้อมคู่สมรส ทั้งจดทะเบียน หรือไม่ แต่ต้องพิสูจน์ทราบได้ว่าใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน รวมทั้งครอบคลุมไปถึงญาติ 4 ลำดับ คือ 1. ผู้สืบสันดาน 2. บุพพการี 3. คู่สมรสของบุตร และ 4. พี่น้อง และบุตรบุญธรรม”
ทั้งนี้ กำหนดหลักเกณฑ์สำคัญ คือ
1. ห้ามกระทำการขัดระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม ห้ามรับของขวัญ ของที่ระลึก เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ แต่ถ้าให้ตามประเพณีนิยมสามารถรับได้ โดยจะมีการออกกฎหมายลูกตามมาต่อไป
2. ผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และมีอำนาจกำกับดูแลโดยตรงในหน่วยใด หลังจากพ้นตำแหน่งจะไม่สามารถยุ่งเกี่ยว เป็นกรรมการ หรือปรึกษาใดๆ ในหน่วยงานนั้นไม่ได้ภายในเวลา 2 ปี และ
3. การกระทำการใดๆ ที่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับของทางราชการ ที่ตนรับรู้ระหว่างดำรงตำแหน่ง และให้ข้อมูลลับนั้นเป็นไปในทางที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง เป็นไปเพื่อทุจริต ไม่สามารถทำได้