มหาเถรฯ จี้ “พงศ์พร”แจงข้อมูลงบฯวัดหลุดบุคคลที่สามว่อนสื่อออนไลน์ รองเลขาธิการศูนย์พิทักษ์ฯ ชี้หากผอ.พศ.ทำงานกับสงฆ์ไม่ได้ควรหลีกทางให้คนอื่น
เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2560
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา การประชุมมส.ครั้งดังกล่าวกรรมการมส. หลายรูป ตั้งใจจะสอบถามผอ.พศ.ถึงกรณีที่มีข้อมูลของทางพศ.หลุดไปอยู่ในมือของบุคคลที่สาม ทั้งยังมีการนำออกมาเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยทางกรรมการมส. ต้องการให้ผอ.พศ.ชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าว เช่น
๑. งบประมาณอุดหนุนของวัดต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นงบฯทางราชการ แต่กลับหลุดออกไปได้อย่างไร
๒. อีกทั้งทางกรรมการมส.ยังต้องการสอบถามข้อมูลด้วยว่า ทางผอ.พศ.เป็นผู้ไปร้องทุกข์ยังหน่วยงานต่างๆเอง จนทำให้มีการตรวจสอบในหลายวัดใช่หรือไม่
๓. เพราะกรณีดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่กรรมการมส. เป็นอย่างมาก เนื่องจาก ผอ.พศ.กระทำการดังกล่าวไปโดยไม่มีการปรึกษาคณะสงฆ์ และสอบถามข้อเท็จจริงเสียก่อน
๔. ทำให้เมื่อมีข่าวออกไปเกิดผลกระทบกับคณะสงฆ์และส่งผลกระทบต่อสถาบันพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ที่สำคัญภายหลังประชุมมส.ทางโฆษกพศ.กลับไม่ได้มีการแถลงข่าวในประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด
ด้านพระครูปลัดกวีวัฒน์ รองเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อผอ.พศ.ทำงานกับคณะสงฆ์ลำบากแล้ว เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องพิจารณา เพราะพศ. จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นหน่วยงานที่คอยสนองงานคณะสงฆ์ เป็นฝ่ายเลขาธิการมส. เมื่อผอ.พศ.ทำงานกับคณะสงฆ์ไม่ได้ ผอ.พศ.ก็ควรที่จะถอยลงมา
https://www.dailynews.co.th/education/587877
อ่านดูข้อกังวลหวาดกลัวของพวกกรรมการ มส.แล้ว สังคมพอจะคิดคาดเดาอะไรต่ออะไรได้อีกเยอะ เช่น
– แล้วที่พฤติกรรมของเจ้าลัทธิธรรมกายก่อให้เกิดความเสียหายแก่พระธรรมวินัย เป็นภัยต่อความมั่นคง หนีคดีอยู่ทุกวันนี้ ไม่เห็นกรรมการมหาเถรคนไหนจะประชุมเร่งรัดให้ ผอ.สำนักพุทธ ดำเนินการให้เจ้าหน้าที่พยายามจับตัวผู้ต้องหามาลงโทษให้ได้เลย
– หรือกรณีข่าวเณรปลื้มแห่งวัดวังตะวันตก ถูกสาวกลัทธิธรรมกายฆ่าหมกปูนเพราะไปล่วงรู้ความลับของเจ้าอาวาสและพวกสาวกธรรมกายเข้า เลยถูกฆ่าปิดปาก ไม่เห็นที่ประชุม มส.สอบถามเรื่องคดีความจาก ผอ.สำนักพุทธเลย ว่าดำเนินการกับเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตกไปถึงไหนแล้ว
– ไอ้สมีคำผู้ต้องอาบัติปาราชิกข้อหา เสพเมถุน ฉ้อโกงทรัพย์ อวดอุตริมนุสธรรม
ไม่เห็นกรรมการ มส.จะรู้สึกวิตกกังวลเลย ที่คณะสงฆ์ในวัดสันติธรรมยังติดรูปมันใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มเอาไว้ให้ประชาชนกราบไหว้บูชา หรือกรรมการมหาเถรนิยมให้ชาวบ้านกราบไหว้อลัชชีปาราชิกกันล่ะ
– สังคมอาจจะคาดเดาคิดต่อไปว่า ทำไมกรรมการ มส.ไม่เร่งรัด ผอ.สำนักพุทธ ให้รีบดำเนินการกับบุคคลที่ร่วมกันทุจริตเงินทอนวัดให้เร็ววัน เพื่อหยุดยั้งความเสียหายที่จักเกิดขึ้นแก่บรรดาสุจริตสงฆ์
และที่กรรมการ มส.บางคน ทำตัวเป็นคนสันหลังหวะ สะดุ้งกลัวเมื่อมีแมลงบินผ่านมา ถึงขนาดออกมาฟาดหัวฟาดหางโวยวายใส่อารมณ์ประมาณว่า ใครวะเอาข้อมูลไปเปิดเผย
พุทธะอิสระอยากตะโกนกรอกหูบรรดาคนสันหลังหวะทั้งหลายว่า อย่าไปโวยวาย รุมด่ารุมว่า ผอ.สำนักพุทธคนใหม่เค้าเลย
พุทธะอิสระเองแหละที่นำข้อมูลมาเปิดเผย เพราะข้อมูลการใช้งบประมาณของแผ่นดินก็ไม่ได้เป็นความลับอะไร ใครๆ ในแผ่นดินนี้ก็สามารถที่จะขอดูได้
อีกทั้งข้อมูลที่พุทธะอิสระนำออกมาเปิดเผยก็ยังไม่หมดด้วยซ้ำ ถึงขนาดทำให้พวกทุจริตชนพากันสะดุ้ง ทุรนทุรายกันเป็นแถว
พวกกรรมการมหาเถรและกองเชียร์ก็อย่าไปเกรี้ยวกราดด่าใส่รุกไล่ ผอ.สำนักพุทธคนใหม่เลย เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยดอก
พุทธะอิสระได้ข้อมูลเงินทอนนี้มาตั้งแต่ ๓ ปีที่แล้วแล้ว หากจะเอาเรื่องก็มาเอาเรื่องกับพุทธะอิสระนี่
ส่วนข้อที่ว่ากรรมการ มส.สงสัยว่าทำไม ผอ.สำนักพุทธถึงได้ไปร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐ
เรื่องนี้อธิบายไม่ยาก เพราะ ผอ.คนใหม่เขามียางอายอยู่ในปริมาณที่เป็นมาตรฐานสากล เขามีสำนึกรับผิดชอบ แยกแยะชั่วดีในการทำหน้าที่ เขาจึงต้องไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแก่พวกทุจริตชนกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ
หากเขารู้ว่าหน่วยงานที่เขารับผิดชอบมีการทุจริต แล้วไม่รีบดำเนินการตามกฎหมาย ผอ.สำนักพุทธก็อาจจะถูกข้อกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗ ได้
แล้วบรรดากรรมการมหาเถรทั้งหลายล่ะ ทั้งที่มีหน้าที่รักษาพระธรรมวินัยและกฎมหาเถรสมาคม
ทั้งยังเป็นองค์กรที่ควรจะได้ชื่อว่ามียางอายสูงกว่ามาตรฐาน กลับไม่ทำอะไรเลยทั้งที่รู้อยู่ เห็นๆ กันอยู่ แทนที่จะกระตือรือร้น เร่งรัดทำความจริงให้กระจ่าง กลับออกมาด่ากราดเอากับผู้เปิดเผยข้อมูล ทำยังกับกำลังปกป้องพวกทุรชนอย่างนั้นแหละ แถมยังนั่งลอยหน้าอยู่แบบทองไม่รู้ร้อน อย่างงี้จะให้สังคมเอาบรรทัดฐานความสุจริตจากไหน
หรือเห็นว่ากฎหมายเขาไม่ถือว่าเจ้าคณะพระสังฆาธิการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เลยไม่กลัวจะถูกดำเนินคดีข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
และด้วยคำว่าพระสังฆาธิการไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐนี่แหละ มันทำให้พุทธะอิสระปวดหัวใจอยู่ทุกวันนี้ไง
เพราะพวกนี้เวลาทำชั่วทำผิดต่อหน้าที่ ก็ยังลอยนวลอยู่ได้เพราะกฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้
ยิ่งฝ่ายตุลาการณ์สงฆ์ไม่ดำเนินการใดๆ เพราะเห็นแก่พวก เห็นแก่หน้า เห็นแก่เงิน เห็นแก่อลัชชี
แล้วพวกสุจริตสงฆ์จะหวังไปพึ่งใคร ฟ้องศาลทางโลกเขาก็ไม่รับฟ้อง
ฟ้องศาลสงฆ์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง รอให้สากกะเบือออกดอกยังจะง่ายเสียกว่า
ส่วนประเด็นที่กรรมการ มส.มีความไม่พอใจว่าทำไม ผอ.สำนักพุทธ ถึงไม่บอก มส.ก่อนที่จะดำเนินการแจ้งความเรื่องเงินทอน
พุทธะอิสระอ่านแล้วอยากขำให้ขี้แตก มีเจ้าหน้าที่ที่ไหนเวลาเขาจะไปจับโจร ต้องร้องบอกพ่อแม่โจร ว่าเจ้าหน้าที่จะไปจับลูกมึงแล้วนะ
และที่กรรมการ มส.เกิดยางอายแบบเฉียบพลัน กลัวจะเสียชื่อ เสียภาพลักษณ์ขึ้นมา
มันทำให้นึกถึงคำพังเพยที่ว่า
สละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ
สละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต
สละชีวิต เพื่อรักษาธรรมะ
คำพังเพยนี้คงจะใช้ไม่ได้กับพวกกรรมการมหาเถรยุคนี้ล่ะมัง
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว หยิบมาเล่าอีกซักเรื่อง
มีคนเขาสงสัยว่าไอ้ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนามันจดทะเบียนกับหน่วยงานไหน
แล้วมันทำหน้าที่พิทักษ์พระพุทธศาสนาหรือพิทักษ์อลัชชีกันแน่
เพราะไม่ว่าจะกรณีธรรมกายละเมิดย่ำยีพระธรรมวินัย เป็นภัยต่อความมั่นคง
กรณีสมีคำอวดอุตริมนุสธรรม แหกตาหลอกเงินชาวบ้าน
กรณีเณรปลื้มถูกพวกสาวกลัทธิธรรมกายฆ่าตาย
กรณีทุจริตเงินทอนวัด
ไม่เห็นศูนย์อะไรนี่มันออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องความสุจริตยุติธรรมใดๆ เลย
เห็นมันทำแต่ออกมาปกป้องพวกพ้องและนักบวชจีวรแดงเสียส่วนใหญ่
สรุปแล้วมันพิทักษ์พระพุทธศาสนาหรือพิทักษ์อลัชชี
ขอเตือนว่าอย่าข่มขู่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักพุทธ ที่เขาทำหน้าที่อย่างซื่อตรงมากนัก เดี๋ยวแกเกิดเฮิร์ทขึ้นมา แกไปแจ้งความฐานขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๓๘ ล่ะก็ จะติดคุกกันเป็นแถวเชียวนะจะบอกให้
ส่วนที่บอกว่าหาก ผอ.สำนักพุทธคนใหม่ทำงานร่วมกับคณะสงฆ์ไม่ได้ก็ให้ถอยไป คนใหม่จะได้เข้ามาทำงาน
อยากถามพวกศูนย์พิทักษ์จังว่า สเปค ผอ.สำนักพุทธคนใหม่นี้ต้องมีสปีชี่ย์แบบเดียวกันกับนายพนม ศรศิลป์ หรือนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ หรือไง
หลงพี่แกคงจะคิดว่าเหตุที่ ผอ.สำนักพุทธคนใหม่ทำงานร่วมกับคณะสงฆ์ไม่ได้ก็เพราะ ผอ.คนใหม่ไม่รับเงินทอนหรือเปล่า จึงร่วมกับคณะสงฆ์ไม่ได้
พุทธะอิสระ