http://www2.manager.co.th/SpecialScoop/ViewNews.aspx…
ภาพถ่ายพระวีระธุ กับ ดร.บรรจบ บรรณรุจิและคณะ
ปลุกระดมหลังยุติค้นธรรมกาย
การเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่งของพระมหาอภิชาติตรงกับวันที่มีการยุติปฏิบัติการค้นหาตัวพระธัมมชโยคือ 10 มีนาคม 2560 จากนั้นก็มีการเคลื่อนไหวต่ออีกหลายครั้ง จนนำมาสู่การแจ้งความดำเนินคดีกับผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ ที่อำเภอระโนด ซึ่งเป็นพื้นที่ของเจ้าทุกข์
ขณะที่แนวร่วมที่เห็นไปในแนวทางเดียวกันกับพระมหาอภิชาติอย่างสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยของ ดร.บรรจบ บรรณรุจิ และนายกรณ์ มีดี เลขาธิการ ก็ยังคงปลุกกระแสเรื่องภัยของพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ทราบกันดีว่ากลุ่มนี้ชื่นชมแนวทางการต่อสู้ของพระวีระธุ จากพม่า ที่มีบทบาทสำคัญจนเกิดเหตุปะทะกันระหว่างชาวพุทธในพม่ากับชาวโรฮิงญา
เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มดังกล่าวยกประเด็นเรื่องของภัยพระพุทธศาสนา แต่ไม่เคยกล่าวถึงปัญหาภายในของศาสนาพุทธที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ไม่เคยเสนอแนะแนวทางใด ๆ ในเรื่องคำสอนที่ผิดไปจากหลักสำคัญของพุทธศาสนาของวัดพระธรรมกาย แม้จะมีเรื่องทุจริตเงินทอนวัดแต่ก็ถูกบิดเบือนว่าเป็นเรื่องของการใส่ร้ายพระ หรือกรณีที่พระประพฤติตัวไม่เหมาะสมก็เลือกที่จะเงียบ แต่กลับไปปลุกระดมและกล่าวหารัฐบาลว่าให้การสนับสนุนศาสนาอื่นมากกว่าศาสนาพุทธ
เขาพยายามใช้สูตรนี้มาตลอด เพื่อสร้างความหวาดกลัวด้วยการยกเรื่องศาสนาอื่นเข้ามา ด้านหนึ่งเพื่อเบี่ยงเบนเรื่องที่เป็นปัญหากับเครือข่าย อีกด้านเพื่อให้รัฐกลับมาหนุนพุทธศาสนาให้มากขึ้น นั่นหมายถึงความเข้มงวดต่าง ๆ ย่อมต้องคลายตัวลง
———————————————
พุทธะอิสระเห็นด้วยกับข้อความที่ว่า
จากกรณีเกิดคดีเงินทอนที่วัดต่างๆ เข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องร่วม ๕๐๐ วัด
ก็มีบรรดาทนายหน้าวัดและพวกนักบวชชั้นผู้ใหญ่ รวมทั้งสื่อที่เลือกข้างที่จะอยู่กับพวกทุจริต ต่างพากันดาหน้าออกมารุมถล่มระบบราชการ การทำงานของเจ้าหน้าที่สำนักพุทธ และพุทธะอิสระ ว่าเป็นผู้บกพร่อง จองเวรใส่ร้าย อิจฉา
แต่ไม่มีใครออกมาพูดว่า พวกนักบวชที่จ่ายเงินทอนบกพร่องบ้างเลย แถมยังช่วยปกป้องเสียด้วยซ้ำ
ซึ่งคนกลุ่มนี้นำโดยกรรมการมหาเถรสมาคม พระพรหมเมธี แห่งวัดสัมพันธวงศ์ ผู้ฝักใฝ่ลัทธิธรรมกาย
เจ้าคุณพิพิธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสแห่งวัดสุทัศน์
องค์กรพระสังฆาธิการ ที่ออกแถลงการณ์ประชดว่าต่อไปนี้พระสังฆาธิการจะไม่ยอมรับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักพุทธอีกต่อไป
ตามด้วยองค์กรสื่อสารลัทธิธรรมกาย ออกมาบอกว่าสำนักพุทธไม่มีสิทธิมาตรวจสอบบัญชีของเขา
แถมด้วยทนายของวัดพนัญเชิงออกมาบอกว่าเจ้าอาวาสถูกหลอก วัดปากน้ำไม่เคยจ่ายเงินทอน ทั้งที่เหตุผลมันค้านต่อความจริง
คนพวกนี้จัดได้ว่าเป็นแน่วร่วมกับ ดร.บรรจบ และมหาอภิชาติที่พยายามปลุกกระแสภัยพระพุทธศาสนาล้วนเกิดจากมุสลิม
แต่กลับไม่มีใครมองเห็นภัยที่เกิดจากพวกทุจริต ฉ้อฉล และบิดเบือนพระธรรมวินัยเลย
ไม่เข้าใจว่าทำไมกลุ่มคนเหล่านี้จึงไม่เคยกล่าวถึงปัญหาภายในของพระพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย
ไม่เคยเสนอแนวทางใดๆ ในเรื่องคำสอนที่ผิดไปจากหลักสำคัญของพระพุทธศาสนาที่ลัทธิธรรมกายกระทำย่ำยีอยู่เลย
แม้แต่คดีทุจริตเงินทอนวัด คนกลุ่มนี้ก็ออกมาบิดเบือนว่าเป็นเรื่องของการใส่ร้ายพระ ต้องการทำลายพระพุทธศาสนา
และกรณีที่นักบวชประพฤติตัวไม่เหมาะสม คนพวกนี้ก็เลือกที่จะเงียบ
เช่นกรณีการตายของสามเณรปลื้มที่ถูกฆ่าปิดปาก เพราะไม่ยอมก้มหัวให้กับความชั่วร้าย ของอดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก อดีตเจ้าคณะจังหวัด และพวกคนสนิทของเจ้าอาวาส เณรปลื้มจึงถูกฆ่า
คนกลุ่มนี้ก็ไม่เคยออกมาพูดถึงกรณีเหล่านี้เลย ทำเป็นสิงฆ์อมสาก เงียบสนิม เรื่องผิด เรื่องเลวในองค์กรสงฆ์ที่เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน คนกลุ่มนี้ไม่เคยพูด ไม่เคยคิดแก้ไข แถมยังนำเอาเรื่องอื่นมากลบเกลื่อน เฉไฉไปเรื่อย
คนแบบนี้แหละที่โบราณเขาเรียกว่า
คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว
คนดีชอบทำ คนระยำชอบติ
พุทธะอิสระ