เมื่อดีเอสไอประกาศยุติการตรวจค้นหาตัวผู้ต้องหาหนีหมายจับภายในสำนักธรรมกายลง โดยไม่ได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างที่สังคมคาดหวังเอาไว้
ทันทีนั้นก็เกิดปฏิกิริยาเคลื่อนไหวด้วยการตำหนิติด่าทางโลกโซเชียลมีเดียกันขรม บ้างก็ว่า งานนี้เป็นมวยล้มต้มคนดู ละครจบแล้ว ย้อยเก็บฉากกลับบ้าน ดีเอสไออ่อนหัด ปล่อยให้สาวกลัทธินี้มันปั่นหัวเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วก็คว้าน้ำเหลว
คำตำหนิติด่าเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นจากบรรดากองเชียร์ที่เอาใจช่วยดีเอสไอ ช่วยรัฐบาลมาตลอด
ส่วนพวกที่ไม่เชียร์รัฐบาลก็จะค่อนขอดตำหนิติว่า ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำบ้าง ขี่ช้างจับตั๊กแตนบ้าง สิ้นเปลืองทั้งงบประมาณ กำลังคน และเวลา สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว ช่างน่าทุเรศสิ้นดี
ตามมาด้วยบรรดากองเชียร์ลัทธิกบฏผีบุญก็แสดงความรื่นเริงบันเทิงใจ ตะโกนว่า ชิตังเม กูผู้ชนะ กูรอดแล้ว เป็นเพราะปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อแท้ๆ มิหนำซ้ำยังพยายามมาทวงถามว่าเมื่อไหร่พุทธะอิสระจะสึก เพราะเคยพูดเอาไว้ว่า หากไม่สามารถทำให้ธัมมชโยสึกได้ พุทธะอิสระจะสึก
ขอบอกว่าพวกคุณไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจไปดอก คนอย่างพุทะอิสระไม่ได้หน้าหนาพอที่จะพูดโกหกเหมือนกับเจ้าลัทธิของพวกคุณที่เคยพูดว่าจะยอมตายในวัด แล้วตอนนี้หายหัวไปไหนล่ะ
ศึกครั้งนี้ยังไม่จบ อย่าพึ่งมานับศพทหาร อดใจรออีกนิด เดี๋ยวจะรู้เองว่าหมู่หรือหมา และเมื่อใดถ้าหากศาลโลกและศาลสงฆ์ ไม่สามารถจัดการกับอลัชชีกบฏผีบุญได้ พุทธะอิสระก็ไม่ยอมที่จะอยู่กับพวกอลัชชีดอก
ในมุมมองของพุทธะอิสระกลับมองว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าการปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาหนีหมายจับครั้งนี้คว้าน้ำเหลว
เพราะอย่างน้อยรัฐบาล คสช. ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ ฝ่ายปกครอง ก็ได้พยายามทำให้สังคมไทยได้รู้ว่า เขามิได้นิ่งดูดายต่อความทุกข์ยากเดือดร้อนของพี่น้องไทย ไม่ว่าจะเป็นพวกไหน สีอะไร ทุกคนล้วนเป็นคนไทย ที่ต้องได้รับความดูแลจากภาครัฐอย่างเท่าเทียมและเหมาะสม
ยุทธการณ์ครั้งนี้แม้จะไม่ได้ตัวผู้ต้องหา แต่สิ่งที่เป็นผลพลอยได้ตามมาคือ สังคมได้รับรู้ว่า คนชั่วคนบาป จะมีเกียรติยศอยู่ไม่ได้ คนชั่วคนบาปจะต้องได้รับการประณาม
อย่างน้อยดีเอสไอก็ทำให้คนไทยได้รับรู้ว่า ไอ้ลัทธินี้มันเป็นแหล่งฟอกเงิน ดูดเงินจากกระเป๋าชาวบ้านไปเล่นแร่แปรธาตุ เป็นทุนในตลาดหลักทรัพย์
อย่างน้อยเราก็ได้รับรู้ว่า ไอ้ลัทธิกบฏผีบุญนี้มันเรี่ยไรเงินชาวบ้านไปสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างในที่ดินของเอกชน เช่นอาคารบุญรักษา เป็นต้น
อย่างน้อยเราก็ได้เห็นความเลิศหรูอลังการงานสร้าง ที่ผู้มักมากในกามคุณอย่างเจ้าลัทธิกบฏผีบุญ หลอกเงินชาวบ้านมาบำรุงบำเรอตัณหาของตน
อย่างน้อยเราก็ได้รับรู้ว่า อาชีพนักบวชที่ขอข้าวชาวบ้านกินของลัทธินี้ มีความเป็นอยู่ที่หรูหราสุขสบาย มีสระว่ายน้ำ มีสปาร์ มีห้องอบซาวน่า ซึ่งหาไม่ได้ในชีวิตของพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
อย่างน้อยก็ทำให้คนไทยทั้งประเทศได้รับรู้ว่า คนที่มีความโลภและความหลง ก็สามารถทำทุกอย่างได้แม้กระทั่งโกหกได้ว่า
“อาตมาจะไม่ไปไหน จะยอมตายอยู่ภายในวัดนี้”
“อาตมาจะไม่ไปไหน จะไม่ออกจากตลาดกลางคลองสามจนกว่าจะได้เข้าวัดธรรมกาย หรือไม่ก็นำร่างที่ตายแล้วออกไป”
“อาตมาจะยอมอดอาหารจนตาย หากไม่ได้เข้าไปสวดมนต์ภายในวัดธรรมกาย”
“อาตมาไม่รู้ไม่ทราบว่าใครเป็นคนนำป้าย We Need Food มาติด
และวันต่อมา คนๆ เดียวกันก็ออกมาบอกว่า พวกลูกศิษย์เขาพากันนำป้ายขึ้นไปติดกันอีกครั้งหนึ่งเพราะอาหารไม่พอฉัน”
และยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่พวกเราไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นพฤติกรรมของสาวกลัทธินี้ว่าเขายอมทำได้ทุกอย่าง ขอเพียงเพื่อความอยู่รอด ซึ่งก่อนหน้านี้คนทั้งประเทศไม่เคยคิดไม่เคยเห็นมาก่อนว่าจะมีเรื่องแบบนี้อยู่ในวัดของพระพุทธศาสนาสายเถรวาท แต่เหตุการณ์บุกตรวจค้นครั้งนี้ทำให้พวกเราได้รับรู้ความเลวร้ายที่ซุกซ่อนอยู่ในสำนักลัทธิกบฏผีบุญนี้ ดังที่ทุกคนได้ประจักษ์
คงยังมีสารพัดเรื่องราวที่ไม่ใช่วิถี ซ่อนเร้นอยู่อีกมากมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องตรวจค้นให้ได้ทุกซอกทุกมุม โดยไม่มีข้อยกเว้น
พุทธะอิสระ