“ท้ายที่สุดกระผมขอโอกาส ในท่ามกลางสถานการณ์ที่สุกงอม และมีแนวโน้มที่จะไปถึงความรุนแรง คณะศิษยานุศิษย์ทุกคนคงไม่มีอะไร ตอนนี้คงมีทางเดียวเท่านั้นคือ ต้องขอพึ่งพระบารมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้โปรดอภิบาลคุ้มครอง ข้าพระพุทธเจ้าคณะศิษยานุศิษย์ทุกคน ขอพึ่งพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม ให้สถานการณ์ทั้งหมดทั้งมวลได้กลับร้ายกลายเป็นดี จากหนักเป็นเบา คงจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่จะขอพึ่งพระบารมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เป็นประดุจพระบิดาปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ” นางองอาจกล่าว
ดูท่าพวกลัทธิทำจนตัวตายจะไม่รู้จักสูงต่ำ บังอาจล่วงล้ำดึงเบื้องสูงลงมาเกลือกกลั้วกับความผิดของเจ้าลัทธิอลัชชี
ทั้งที่พวกตนไม่ยอมรับกฎหมายและปฏิเสธอำนาจศาล ที่ทำงานในประปรมาภิไธยของในหลวง แล้วยังบังอาจดึงสถาบันมาเกลือกกลั้วกับพวกอลัชชีที่ไม่ยอมรับกฎหมาย
หากเจ้าลัทธิทำจนตัวตายมีจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่บ้าง ก็ควรเดินออกมาจากรูเข้าไปสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตนเอง อย่าทำตัวเป็นพวกหน้าตัวเมีย ขี้ขลาด หวาดกลัว ไม่กล้าแม้จะเผชิญต่อความจริง
ไหนคุยนักคุยหนาว่ารู้ทุกเรื่อง ไปมาทุกที่ แม้นรกสวรรค์ แล้วทำไมสำนักงานดีเอสไอถึงไปไม่ได้
เพราะความหน้าตัวเมียของเจ้าลัทธิทั้งในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเช่นนี้แหละ จึงทำให้บริวารพลอยเดือดร้อน ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันทั่วหน้า
โถ อนิจจา ช่างน่าสมเพชนัก
พุทธะอิสระ