ระลึกได้ เข้าใจ รู้จัก รับผิดชอบ

0
96

บทความ

ระลึกได้ เข้าใจ รู้จัก รับผิดชอบ

๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๘

 

ระลึกได้ เข้าใจ รู้จัก รับผิดชอบ (7)

 
ห่างหายไปเสียหลายวัน ไม่ได้เขียนมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังในหลายๆ เรื่อง

 
ด้วยเพราะติดภารกิจอบรมกรรมฐานมหาสติปัฏฐาน ๔ ให้แก่ภิกษุสงฆ์องค์เณร และชาวบ้านที่บวชเนกขัมมะถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พ่อหลวงของชาวไทย

 
เริ่มตั้งแต่วันที่ ๗ จนถึงวันที่ ๑๓ ธ.ค.

 
ก่อนจะเริ่มสอนกรรมฐาน ฉันได้มีการทำข้อตกลงกันว่า ๖ วัน ๖ คืน ที่พวกเราอยู่ปฏิบัติธรรมกันที่ทองผาภูมินี้ เราจักไม่พูด ไม่คิด เรื่องที่ไม่ใช่มหาสติปัฏฐาน คือ กาย เวทนา จิต และธรรม เราจักไม่ก้าวล่วงเข้าไปสู่แดนแห่งโลก

 
พวกเราจักพูด ทำ คิด แต่วิถีแห่งธรรมเท่านั้น

 
โดยมีฉันเป็นผู้ให้การอบรมวันละ ๓ เวลา เริ่มตั้งแต่ตี ๕ จบที่ ๒ ทุ่มเศษ

 
ด้วยหลักคำสอนที่ว่า ทุกลมหายใจ ทุกย่างก้าว พวกเราทั้งหลายต้อง

 
ระลึกให้ได้ว่า เรามาที่ทองผาภูมิเพื่ออะไร

 
ระลึกให้ได้ว่า เรามีหน้าที่อะไร

 
ระลึกให้ได้ว่า การกระทำ คำที่พูด สูตรที่คิด ของพวกเราถูกต้องสอดคล้องต่อคำสอนในหลักมหาสติปัฏฐานสูตรหรือไม่

 
พร้อมทำความเข้าใจอย่างแจ่มชัด ต่อวัตถุประสงค์ที่ตั้งเอาไว้ เข้าใจอย่างแจมชัดในหน้าที่ และคำสอน

 
อีกทั้งยังต้องทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริงของตนให้ได้ว่า จริงๆ แล้ว เราได้เพียรพยายามศึกษา สั่งสม อบรม เรียนรู้ แสวงหาสติปัญญามากพอแล้วหรือยัง

 
ต้องทำความรู้จักให้ได้ว่าชีวิตมนุษย์มีข้อแตกต่างจากเดรัจฉานที่มีแต่สัญชาตญาณ แต่มนุษย์มีปัญญา แล้วปัญญาของมนุษย์เรามีมากพอที่จะช่วยผู้อื่นให้รอดและพาตัวเองรอดได้หรือยัง

 
เมื่อเรามีพัฒนาการที่ไม่รู้จักหยุดนิ่ง ปัญญาในโลกียะและปัญญาในโลกุตตระ ย่อมปรากฏชัดแก่เราได้แน่

 
ครั้นเรามีปัญญามากมายเห็นปานนี้ เราย่อมต้องพยายามอย่างแข็งขันที่จักรับผิดชอบต่อโลก สังคม และสภาพแวดล้อม อย่างชนิดที่มิอาจจะหลีกเลี่ยงเป็นอันขาด

 
เพราะนี่คือภาระหน้าที่ของมนุษย์ผู้มีคุณธรรมต้องกระทำ

 
สิ่งสำคัญที่ฉันสอนสรุปเป็นปัจฉิมโอวาทคือ

 
มนุษย์ควรจักต้องมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องมากกว่าสัตว์ดิรัจฉาน เพราะนี่คือหน้าที่ของมนุษย์จักต้องทำ

 
พอจบคอร์สอบรมวันสุดท้ายก็เปิดโอกาสให้ผู้เข้าอบรมได้ใส่บาตร บริจาคทาน แล้วก็แยกย้ายกันกลับ

 
ปีนี้ดูว่าฉันจะจู้จี้ขี้บ่นอยู่มากสักหน่อย อาจเป็นเพราะฉันแก่ขึ้น จึงทำให้ผู้เข้าอบรมไม่พอใจก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

 
ปีนี้บรรยากาศที่ทองผาภูมิดีมาก อากาศเย็นสบายตามด้วยหนาวเล็กๆ เล่นเอาไอจามกันเป็นแถว เพราะช่วงเช้ามืดน้ำค้างแรง หมอกลงเกือบทุกวัน

 
หลายคนต้องฝึกกรรมฐานกลางแจ้ง คงจะไม่สบาย ยังไงๆ ก็หายาสมุนไพรแก้แพ้อากาศและยาแก้ไข้กินแล้วนอนพักผ่อน ดื่มน้ำมากๆ เดี๋ยวก็หาย

 
ท้ายนี้ต้องขออนุโมทนากับคุณงามความดีของทุกคนที่ได้มาร่วมกันสร้างถวายพ่อหลวง รวมทั้งบรรดาพ่อครัวแม่ครัวทุกคนที่เสียสละตื่นแต่เช้า นอนดึก เพื่อหุงหาอาหารเลี้ยงคนถึงวันละหลายร้อยคน ขอบใจนะจ๊ะ

 
วันนี้พอแค่นี้ก่อน เพราะตั้งแต่ลงจากรถมายังไม่ได้พักเลย ต้องเดินตรวจงาน สั่งงาน เตรียมของ ที่จะลงพื้นที่ทางภาคเหนือเพื่อไปประชุมชาวบ้านที่เขาต้องการให้ช่วยขุดลอกคูคลองและสระน้ำ แล้วจะนำเขียนมาเล่าให้ได้รู้กันวันหน้า

 
พุทธะอิสระ