บทความ
หรือว่าแค่เบี้ยหางแดงก็สามารถล้มขุนได้
๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๘
กลับมาจากทองผาภูมิได้อ่านข่าวเก่ากรณีนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่และกลุ่มจ่านิว จัดเดินทางด้วยรถไฟไปตรวจสอบการทุจริตในการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ตามรอยรุ่นพี่นายณัฐวุฒิและนายจตุพรเคยจะไปแต่ก็ไม่สำเร็จ โดนทหารรวบตัวเสียก่อน
เที่ยวนี้รุ่นน้องพากันออกมาตามคิว แต่ก็โดนทหารสกัดรวบตัวเอาไว้อีก ในขณะที่มีประชาชนคนรักชาติหลายกลุ่มออกมาดักรอรุมด่ากลุ่มนักศึกษาระหว่างทางและปลายทาง
ขณะเดียวกันกลับมีข้อสงสัยจากประชาชนทั่วไปว่า ทำไมคดีทุจริตจำนำข้าว ทุจริตโครงการบริหารจัดการน้ำ และทุจริตอื่นๆ ในยุครัฐบาลนายกปู คนพวกนี้ทำไมไม่ออกมาเรียกร้องให้ตรวจสอบ
กรณีคดีอุทยานราชภักดิ์มีข้อที่น่าสังเกตว่า สื่อกระแสหลักหลายค่ายหลายสำนักพยายามโหมกระแสกระพือข่าวมาเป็นเวลาร่วมเดือนแล้ว
จะด้วยข้อหาหมั่นไส้รัฐบาล คสช.หรือคนละพวกกับรัฐบาลทหาร หรือถูกจ้างวานจากกลุ่มอำนาจเก่าก็สุดจะคาดเดาได้
แต่ดูท่าจะได้ผลไม่น้อย ทำให้รัฐบาล คสช.ออกอาการหวั่นไหวได้มิใช่น้อยเหมือนกัน
ซึ่งคนกลุ่มนี้มีความพยายามพุ่งเป้าไปยัง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีต ผบ.ทบ.และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหม เป็น ๑ ในบอร์ด คสช.ในปัจจุบัน ทั้งยังเป็นผู้ร่วมขบวนเสียสละปฏิบัติการยึดอำนาจเพื่อประเทศชาติจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะทนเห็นความเหลวแหลกเลวระยำของบรรดานักการเมืองโกงกินบ้านเมืองไม่ได้
แต่พอมีเรื่องของการทุจริตในการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์เกิดขึ้น ซึ่งผู้รับผิดชอบโครงการคือ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีต ผบ.ทบ.
ทั้งที่ยังไม่ปรากฏชัดเจนว่าผลการสอบจะออกมาอย่างไร
แต่ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการจัดสร้าง ไม่ว่าจะดีหรือเลว ย่อมจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
คนดีมักจะมีจุดอ่อนตรงนี้แหละ คือหน้าบาง เกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้นจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ย่อมรู้สึกร้อนหนาวละอาย ไม่ว่าจะมีส่วนร่วมพัวพันด้วยหรือไม่ก็ตาม
ซึ่งจะแตกต่างจากบรรดาคนชั่วผู้กระหายอำนาจทั้งหลาย ต่อให้ประเทศชาติฉิบหายเสียหายไป ๕-๖ แสนล้านบาท จากการบริหารงานของตน ก็ยังหนังหนาหน้าด้าน ลอยหน้าลอยตา เบิกบานอยู่ในสังคมได้
อีกทั้งบรรดาสื่อกระแสหลักทั้งหลายดูจะไม่ค่อยสนใจนำมาเป็นข่าว อาจเป็นเพราะงบโฆษณาไหลเข้าชนิดทุ่มไม่อั้น
พอมีข่าวความเลวร้ายของคนชั่วพวกนี้ อย่างดีสื่อก็เสนอข่าวพอเป็นมารยาท ไม่ถึงขนาดจองล้างจองผลาญขุดคุ้ยกันเป็นเดือนๆ อย่างกรณีอุทยานราชภักดิ์
หรืออาจจะเป็นเพราะคำว่าประชาธิปไตย
ถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย จะเผาบ้านเผาเมือง ฆ่าคนตาย ทำลายสถาบัน โกงกินทุจริต ทำให้ชาวนาฆ่าตัวตาย อุ้มฆ่าตัดตอนเป็นพันศพ
ดูจะไม่รุนแรงเลวร้ายในสายตาสื่อ เพราะเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยทำอะไรก็ได้
นี่ถ้าหากรัฐบาล คสช.มีงบโฆษณาทุ่มให้บ้างอย่างที่รัฐบาลประชาธิปไตยทำมา
ฉันคิดว่าคุณประยุทธ์คงจะไม่เครียดขนาดนี้
เราต้องยอมรับความจริงว่า น้ำใจกินไม่ได้ แต่น้ำเงินกินได้อิ่มท้อง
๒ ปีเศษของรัฐบาล คสช.พยายามใช้เงินงบประมาณแผ่นดินอย่างระมัดระวัง ป้องกันการรั่วไหลอย่างสุดฤทธิ์
เลยทำให้พวกที่เคยได้กินชิ้นเนื้อติดมันต่างอดอยากปากแห้งกันเป็นทิวแถว
จะอย่างไรก็ตาม งานนี้ได้ผลเกินคุ้มสำหรับผู้วางแผนใช้เบี้ยล้มขุน เพราะสามารถดึงเอาทูตอังกฤษลงมาเล่นด้วย ช่วยซ้ำรัฐบาลให้หนักขึ้น
นับว่าแผนใช้เบี้ยล้มขุนของพวกกระหายอำนาจประสบความสำเร็จอย่างงดงามพอสมควร
ทีนี้คงจะขึ้นอยู่กับบรรดารัฐบาลและขุนทหารทั้งหลายว่า อย่าปล่อยให้คนชั่วปั่นหัวใช้ให้มาทำร้ายทำลายกันเอง
ดีก็ต้องรักษา เน่าก็ต้องกำจัด ไม่งั้นจะลุกลามบานปลายกลายเป็นมะเร็งร้ายทั้งองค์กร อาจจะส่งผลถึงชาติบ้านเมืองได้ในที่สุด
พวกเราคนไทยหัวใจรักชาติยังคงรักเชื่อมั่นในปณิธานของท่านผู้นำและการทำงานของคณะรัฐบาลอย่างเต็มร้อย
แต่จักลดเหลือน้อยถ้าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
นายกสู้ๆ ลุงตู่แข็งแรงๆ
จงใช้สติ สมาธิ ปัญญา และความอดทนนำพารัฐนาวานี้ให้รอดพ้นจากภัยพายุร้ายและคลื่นลมต่างๆ ไปให้ได้ โดยเฉพาะคลื่นลมปากจากนักประชาธิปไตย มันอาจทำให้ท่านผู้นำสะอิดสะเอียนเวียนหัวได้ไม่น้อยเหมือนกัน ต้องระวัง
พุทธะอิสระ