เขียนตอนตี ๑ ครึ่ง (๒ ธ.ค.)

0
116

วันนี้ต้องตื่นมาตีหนึ่งกว่าๆ เพราะกำหนดจิตไว้ก่อนนอนว่าจะตื่นมาเขียนหนังสือ ด้วยเพราะกลัวว่าวันนี้จะไม่มีเวลามานั่งเขียนหนังสือ
เหตุที่เป็นเช่นนี้คือ วันนี้ทั้งวันคงจะต้องติดภารกิจทั้งของตัวเอง ของส่วนรวม และแบ่งเวลาแวะเยี่ยมแม่ตอนเย็น

คะเนว่ากว่าจะถึงวัดก็คงจะดึก หมดแรงมานั่งเขียน

สิ่งที่ต้องการจะเขียนให้ท่านทั้งหลายได้อ่านก็คือ

ความระลึกและห่วงใยที่มีต่อบ้านเมืองและงานพระบรมศพของพ่อ ที่ว่าห่วงใยบ้านเมืองก็คือ ได้ข่าวว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายลูก ให้พระหรือนักบวชเข้ามามีบทบาททางด้านการเมืองได้ตามบทบัญญัติของกฎหมายลูกที่จะเขียนกันขึ้นมา

แม้ฉันจะสนใจเรื่องของบ้านเมือง

ชอบที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนักการเมืองและข้าราชการ
ชอบที่จะชี้แนะตักเตือน ให้สติปัญญาต่อการทำตัวทำหน้าที่ของนักการเมืองและข้าราชการ

แต่ฉันก็มิได้ชื่นชม ชื่นชอบอำนาจตำแหน่งทางการเมืองซักเท่าไหร่

ดูตัวอย่างเช่นครั้งหนึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยมาปรารภกับฉันว่า ตอนที่ผมเป็นผบ.ทบ. หลวงปู่เรียกใช้ผมบ่อยๆ แต่พอผมได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ทำไมหลวงปู่ไม่เคยเรียกใช้ผมเลย

ฉันตอบพล.อ.ประวิตรไปว่า ก็เพราะคุณมีตำแหน่งทางการเมือง มีอำนาจให้คุณให้โทษแก่คนในแผ่นดินนี้ได้

นิสัยฉันไม่อยากอยู่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจ มันรู้สึกอึดอัด และไม่ชอบเอาบารมีของผู้มีอำนาจมาอวดอ้างเบ่งต่อผู้ใด

เอาเป็นว่าเวลาที่คุณอยู่ในอำนาจทางการเมือง ฉันไม่มีอะไรจะใช้คุณ แต่ถ้าเมื่อใดคุณเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำงานต่างพระเนตรพระกรรณ ฉันมีเรื่องราวมากมายที่จะแนะนำพูดคุยกับคุณ

และเมื่อใดที่คุณเป็นคนธรรมดาไม่มีอำนาจวาสนา เป็นผู้ว่างงานแล้ว ฉันมีงานให้คุณทำเสมอ

ฉันพูดขนาดนี้ พล.อ.ประวิตรยังพูดตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไรครับ แม้ผมอยู่ในอำนาจ ตำแหน่ง ผมก็ยังเป็นประวิตรคนเดิม อำนาจทางการเมืองที่จริงแล้วผมมิได้ชื่นชอบหรือขวนขวายแสวงหาซักเท่าไหร่ ขนาดตอนนั้นทักษิณเสนอให้ผมเป็นนั่นเป็นนี่ผมยังปฏิเสธไปเลย แต่ที่ผมเข้ามาเป็นรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะผมไม่อยากขัดใจเพื่อน

เหล่านี้คือบทสนทนาที่พล.อ.ประวิตร ที่เข้ามากราบฉันหลังจากเข้ามาเป็นประธานพิธีมอบผ้าไตรแก่นาคที่บวชภาคฤดูร้อนในปี ๕๕

ที่หยิบยกเอาบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาก็หามิได้จะอวดอ้างตนเองว่าใกล้ชิดสนิทสนมกับคนระดับบิ๊กของคสช. แต่ต้องการจะชี้ให้เห็นว่า ตอนคุณมีอำนาจยิ่งใหญ่ พุทธะอิสระจะไม่เข้าใกล้ เมื่อใดที่คุณลงจากอำนาจ แล้วพุทธะอิสระจึงเข้าใกล้พูดคุย คนทั้งหลายเขาจักว่าไม่ได้ว่าคุณลำเอียงเลือกข้าง อีกทั้งใครๆ ก็จักมาว่าฉันไม่ได้ว่าอยู่ได้เพราะอาศัยใบบุญผู้มีอำนาจ

นี่คือสิ่งที่ฉันกำลังจะบอก ว่าชั่วชีวิตฉันไม่ได้อยากใกล้ชิดผู้มีอำนาจหรือแสวงหาอำนาจ

แม้เมื่อครั้งที่สมเด็จพระสังฆราชยังทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ก็เสด็จมาหาฉันเองโดยมิได้นัดหมายถึง ๓ ครั้ง แต่ก็ไม่พบ จนสุดท้ายพระองค์ต้องสั่งพระในวัดไว้ว่าจะเสด็จมาอีก ให้ฉันรอพบด้วย

ฉะนั้น การที่สภาปฏิรูปหรือสภาสนช.และรัฐบาลจะเขียนกฎหมายลูก อนุญาตให้พระเข้ามามีบทบาททางการเมืองได้

มันทำให้ฉันรู้สึกหวั่นใจว่าวันข้างหน้าพระธรรมวินัยจะยังคงความบริสุทธิ์บริบูรณ์กันอยู่หรือไม่

สภาพของนักบวชในสังคมจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร มันจะดีมากหรือเสียมาก แล้วจะเป็นคุณกับหลักธรรมคำสอนของพระบรมศาสดามากน้อยขนาดไหน ขนาดไม่มีกฎหมายรับรอง พวกกระสันอำนาจยังวิ่งเข้าไปรับใช้เลียแข้งเลียขานักการเมือง

เช่นในจังหวัดนครปฐม ถึงขนาดเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมนำวงดนตรีและเครื่องเสียงไปแสดงขับกล่อมในงานวันเกิดนักการเมืองใหญ่ของจังหวัดเลย นี่ขนาดกฎหมายไม่อนุญาตให้นักบวชเข้าไปยุ่งกับการเมืองนะ

หากมีกฎหมายอนุญาตให้พระเข้าไปมีส่วนร่วมกับการเมืองได้แล้ว ก็ควรจะเขียนกฎหมายสกัดกั้นไม่ให้นักบวชเข้าไปพัวพันกับโลกธรรมทั้ง ๘ คือเครื่องผูกสัตว์ให้ติดข้องอยู่กับโลก อันประกอบด้วย ได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ มีสรรเสริญ ถูกนินทา มีสุข ตกทุกข์

เพราะพระบรมศาสดาทรงติเตียนนักบวชที่เข้าไปข้องและพัวพันกับโลกธรรม ว่าเป็นพวกโมฆะบุรุษ โมฆะสตรี

ฉันจึงหวังว่าการตรากฎหมายลูกอนุญาตให้พระไปมีส่วนร่วมทางการเมือง จะเขียนด้วยความตระหนักถึงพิษภัยของอำนาจและโลกธรรมให้มากเท่ามาก จะได้หาทางป้องกันเอาไว้แต่เนิ่นๆ

ข้อกังวลใจเกี่ยวกับบ้านเมืองที่สองก็คือเรื่องการผลัดแผ่นดิน รัฐบาลคงต้องมีงานเพิ่มขึ้นในการผลัดแผ่นดินครั้งนี้ ฉันรู้สึกกังวลใจว่า รัฐบาลจะสามารถดูแลสถานการณ์บ้านเมืองให้สงบเรียบร้อยเป็นปกติได้หรือไม่

ส่วนเรื่องข้อกังวลใจในงานพระบรมศพว่า เมื่อภาระที่ฉันจะต้องทำหน้าที่ของพุทธบุตร คอยอบรมวิถีจิตให้แก่พระใหม่ และหน้าที่ลูกชายของแม่ที่ต้องดูแลแม่ที่ป่วยไข้ รวมทั้งหน้าที่ของลูกไทยที่กตัญญูต่อพ่อของแผ่นดิน ได้เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน

ฉันจะแบ่งเวลาอย่างไรเพื่อไม่ให้หน้าที่ทั้ง ๓ อย่างบกพร่อง ในขณะที่สังขารฉันมันก็ย่ำแย่ลงทุกวัน

นี่คือข้อกังวลใจที่ฉันต้องค้นหาคำตอบด้วยตนเองให้ได้และเร็วที่สุด

พุทธะอิสระ