เมื่อวานฝันว่าประชาชนของพ่อที่มายืนรอเข้าแถวเพื่อจักเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพ ต่างพากันร้องขอข้าวขอน้ำกิน
พอรุ่งเช้าหลังจากตื่นนอนแล้ว ฉันรีบเดินทางมาที่ท้องสนามหลวง สั่งให้เจ้าทิม เจ้าตั้ม เจ้าเมฆ เจ้าวาริน ผู้กองกุด มหาหยก และเจ้าเจิด นำอาหารไปไล่แจกตามแถวและตามเต็นท์ที่กทม.เขาจัดให้ประชาชนยืนรอเข้าไปกราบพระศพ
ปรากฏว่า ขนอาหารและน้ำไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ เพราะทุกคนหิวกระหาย แต่ไม่สามารถเดินออกมารับอาหารที่เต็นท์หมายเลข ๙ และเต็นท์อื่นๆ ได้ เพราะกลัวจะเสียสิทธิการเข้าแถว
นอกจากนำอาหารไปแจกระหว่างรอคิวเข้าไปกราบพระบรมศพของพ่อแล้ว
พอพี่น้องประชาชนออกมาจากพระบรมมหาราชวังในตอนบ่ายเย็นๆ ฉันยังสั่งให้นำอาหารและน้ำไปดักรอระหว่างทางที่กลับออกมาจากพระบรมมหาราชวัง ทุกคนทั้งหิวทั้งกระหาย เพราะตั้งแต่เช้ากินข้าวไปมื้อเดียว
บางคนก็เพิ่งได้รับอาหารหรือไม่บางคนก็รับอาหารไปแล้วทั้งเช้า กลางวัน แต่ขอไปกินบนรถขณะเดินทางกลับบ้าน เพราะบ้านอยู่ทางใต้ ทางอีสาน หรือไม่ก็ทางเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากต่างจังหวัดทั้งนั้น
ปรากฏว่าหลังจากครบเดือนที่พ่อจากไป เต็นท์หมายเลข ๙ ต้องแจกอาหารที่หน้าเต็นท์และที่ไม่ใช่หน้าเต็นท์เพิ่มมากขึ้นเป็นอีกเท่าตัว ใช้ข้าวสารวันละประมาณ ๑๕ กระสอบ บางวันยังต้องโทรไปรบกวนท่านชัยณรงค์ให้ช่วยหุงข้าวมาให้ ๓-๕ หม้อแขก เพราะข้าวไม่พอแจก
ส่วนเรื่องกับข้าวก็ต้องให้เจ้าหมูนั่งมอเตอร์ไซต์ออกไปจัดซื้อมาจากปากตลาดเทเวศร์ หรือไม่ก็ปากคลองตลาดมาเลี้ยงกันสดๆ เดี๋ยวนั้น ตกวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า ๓-๔ หมื่นกล่อง
แม้จะเหนื่อยแต่ทุกคนก็มีความสุข หากสังเกตเห็นว่าใครเมื่อยล้า ฉันก็จะโวยวายพูดแซว หรือไม่ก็เอาฝาหม้อบ้าง ถาดบ้าง ไปโยนที่พื้นใกล้ๆ ที่พวกมันนั่งแอบหลับให้สะดุ้ง พอเรียกเสียงฮาให้กับคนช่วยงาน ทำให้หายเหนื่อยไปได้บ้าง
พุทธะอิสระ