ด่วนๆๆๆๆ !!!ศาลสั่งถอนประกัน”จตุพร” ฐานขัดเงื่อนไขปล่อยตัวชั่วคราว
ทีนิวส์ 11 ตุ.ค. 59
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 11 ต.ค. ศาลอาญา รัชดา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. พร้อมแกนนำ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายนิสิต สินธุไพร เดินทาง มาฟังคำสั่งศาล กรณีที่อัยการฯ ยื่นขอเพิกถอนประกัน ในกรณีจำเลยทั้ง 5 คน ในคดีก่อการร้าย ปี 53 เนื่องจากไปออกรายการ และพูดยุยง ปลุกปั่น ผิดเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้ในการปล่อยชั่้วคราว โดยมีแกนนำนปช. และผู้ให้การสนับสนุน เดินทางมาให้กำลังใจ อาทิ นางธิดา ถาวรเศรษฐ จสต.ประสิทธิ ไชยศรีษะ นายยศวริต ชูกล่อม นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายสมหวัง อัศราษี
สืบเนื่องจาก อัยการฯยื่นขอให้ศาลพิจารณามีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัว นายวีระ หรือนายวีรกานต์ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ และนายนิสิต สินธุไพร รวม 5 คน ซึ่งเป็นจำเลยร่วมแกนนำ นปช.ในคดีก่อการร้าย หมายเลขดำที่ อ.2542/2553 ที่ยังอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ และเมื่อปี 2558 จำเลยทั้ง 5 คนได้กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ใส่ความให้ร้ายผู้อื่น ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และได้เผยแพร่ต่อสาธารณะ แสดงเพื่อก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร เป็นการละเมิด กระทบสิทธิ หรือหน้าที่ของบุคคล หรือหน่วยงานรัฐ จึงเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขการให้ประกันตัวชั่วคราวของศาล
นายจตุพร กล่าวก่อนเข้าห้องพิจารณาคดีว่าได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนพยานจำเลยและทนายความ และในวันนี้ได้เตรียมเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋าเป้มาด้วย โดยยืนยันไม่ใช่การแก้เคล็ด หรือ ลางบอกเหตุ แต่ตัวเองเคยติดคุกมา 2 ครั้ง จึงต้องเตรียมพร้อม แถมติดตลก แม้เอารองเท้าผ้าใบมา แต่ก็ไม่เอาถุงเท้ามาเด็ดขาด
ศาลเห็นว่าที่จำเลยยื่นคำร้องให้ศาลไต่สวนพยานนั้น ศาลได้พิจารณาแผ่นซีดีบันทึกภาพและเสียง และข้อเท็จจริงในคดีเพียงพอที่จะวินิจฉัยแล้ว จึงไม่ต้องไต่สวนพยานอื่นประกอบอีก
ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าที่จำเลยได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ และการลงประชามติ สามารถกระทำได้ ย่อมมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความชอบธรรม แต่ไม่ควรกระทบต่อชื่อเสียง เกียรติยศ ของบุคคลอื่น และจากหลักฐานมีเฉพาะ นายจตุพร จำเลยที่ 2 เป็นผู้กล่าวพาดพิง และมีบางช่วงบางตอนค่อนข้างรุนแรง ก่อให้เกิดความเสียหาย แม้ผู้ถูกพาดพิงสามารถดำเนินการได้ก็ตาม แต่การที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวก็เพื่อควบคุมป้องกันไม่ให้มีการกระทำอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน กรณีที่นายจตุพร ออกรายการโทรทัศน์กล่าวพาดพิงบุคคลอื่น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเกียรติยศ และชื่อเสียง ถือว่าเป็นการกระทำผิดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราวที่ศาลกำหนดไว้ ส่วนจำเลยที่เหลือ เป็นการแสดงความคิดเห็น ติชม โดยสุจริต ศาลจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวเฉพาะนายจตุพร
และยกคำร้องของจำเลยที่ขอให้ยกเลิกเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลได้กำหนดไว้ด้วย เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยศาลใช้ดุลพินิจพิจารณาเป็นเรื่องๆไป ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขให้จำเลยต้องปฎิบัติเกินความจำเป็น ศาลจึงยังไม่มีเหตุยกเลิกเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวภายหลังว่า เคารพคำวินิจฉัยของศาล เชื่อว่าการแสดงความคิดเห็นสามารถกระทำได้โดยไม่ให้ผิดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราว และการสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญที่สูญเสียเสรีภาพในการแสดงออก โดยยืนยันนายจตุพร ยังเข้มแข็ง และยังให้กำลังใจกับบุคคลอื่นๆด้วย โดยจะรอวันที่นายจตุพร กลับมา และในช่วงบ่ายวันนี้จะเดินทางไปเยี่ยมนายจตุพร ที่เรือนจำ ก่อนหารือกับฝ่ายกฎหมายเตรียมยื่นประกันต่อไป
ขณะที่นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายแกนนำ นปช.เผย หลังจากนี้ 1-2 สัปดาห์ จะยื่นคำร้องใหม่-พร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว
โดยจะขอให้ศาลไต่สวนด้วย เพราะต้องการจะโต้แย้งหลักฐานที่แผ่น วีซีดีของอัยการโจทก์ที่บางแผ่นเปิดไม่ได้ ซึ่งหากจะใช้แนวทางการยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นนี้ เกรงว่าจะไม่มีผลเพราะเบื้องต้นจำเลยได้แถลงรับข้อเท็จจริงไว้
https://headshot.tnews.co.th/contents/y/208017/
———————————————
หวังว่าแกนนำนปช.ที่รอดจากการที่ศาลสั่งถอนประกัน คงจะนำความผิดพลาดครั้งนี้มาเป็นบทเรียน
คงจะไม่มีแกนนำคนไหน กล่าวเท็จ ใส่ร้าย ให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายอีก
อยากจะบอกนักสู้ภาคประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกเวที ว่า ควรสู้ด้วยความจริง สู้เพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
หาไม่แล้ว ก็จะมีที่ไปเยี่ยงนายจตุพรดังที่เห็น
และขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของนายจตุพรด้วย ท่านต้องทำความเข้าใจให้ได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับนายจตุพรในเวลานี้นั้นล้วนเกิดมาจากผลกรรมจองตัวนายจตุพรเองทั้งนั้น
เรียกว่า สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้ดีชั่วเลวหยาบ
พุทธะอิสระ