ปธ.อนุ กมธ.ศาสนาฯ สนช.แจงสาเหตุไม่ผ่าน พ.ร.บ.ส่งเสริมนมัสการสังเวชนียสถาน
มติชน 6 ตุ.ค. 59
นายสมพร เทพสิทธา ประธานสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการศาสนา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า กรณีพระใบฎีกาคฑาวุธ คเวสกธมฺโม หัวหน้าฝ่ายวิชาการ สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ยื่นหนังสือถึงประธาน สนช.เสนอร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมนมัสการสังเวชนียสถาน พ.ศ. … ซึ่งได้มอบให้คณะอนุกรรมาธิการที่มีตนเป็นประธานพิจารณา แต่คณะอนุกรรมาธิการไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวนั้น เนื่องจากเป็น พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเงิน เพราะมีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมนมัสการสังเวชนียสถาน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 มาตรา 14 ให้เสนอได้แต่โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เท่านั้น คณะอนุกรรมาธิการไม่มีอำนาจพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นี้ และได้แนะนำพระใบฎีกาคฑาวุธให้ดำเนินการให้ถูกต้อง คือเสนอสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เสนอต่อมหาเถรสมาคม (มส.) หาก มส.เห็นชอบจึงเสนอ ครม. อีกทั้ง มาตรา 6 ของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวระบุว่า สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนนมัสการสังเวชนียสถาน จึงต้องพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ จึงควรให้ มส.พิจารณาก่อน
นายสมพร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม อาจให้ พศ. ออกเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ครม.เห็นชอบ โดยไม่จำเป็นต้องมี พ.ร.บ.นมัสการสังเวชนียสถาน ซึ่งไม่เหมือนกับ พ.ร.บ.การไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่รัฐบาลจำเป็นต้องตรากฎหมาย เพราะรัฐบาลซาอุดีอาระเบียกำหนดโควต้าคนไทยที่จะไปประกอบพิธีฮัจย์ในแต่ละปี และจะต้องได้รับการรับรองจากรัฐบาล
https://www.matichon.co.th/news/311258
————————————————-
คุณสมพร เทพสิทธิ อุตส่าห์ออกมาอธิบายหลักการและเหตุผลจนละเอียดยิบขนาดนี้
ไม่รู้ว่าพวกอยากได้เงินจากรัฐบาลไปเที่ยว เขาจะเข้าใจไหม
แต่คิดว่าคนพวกนี้ก็จะไม่ยอมรับฟังคำอธิบายใดๆ จากคุณสมพร หรือ สนช. คสช. และรัฐบาลดอก
เพราเขาคิดว่าเป็นคนละพวกกับเขา
เมื่อเป็นคนละพวกกัน ต่อให้อธิบายจนปากฉีก พวกเขาก็ไม่ฟังดอก
เดี๋ยวก็ออกมาแถกแถ หาข้ออ้างสารพัด
เพ่ะพวกนักบวชบางกลุ่มพวกนี้ มัวแต่อยากเที่ยวกันอยู่ล่ะกระมัง
ที่ปรึกษาสำนักพุทธถึงได้รายงานแก่มหาเถรว่า
วัดสูญเสียความเป็นศูนย์กลางของชุมชนไปเสียแล้ว ในทุกด้าน รวมทั้งเสียศรัทธาด้วย
หรือพวกหลวงพี่ ตั๋วเฮีย ทั้งหลาย ที่ออกมาเรียกร้องให้ผ่านร่างกฎหมายไปสักการะสังเวชนียสถานในอินเดียได้แล้ว จะทำให้วัดกลับมาเป็นศูนย์รวมกิจกรรม ศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชนได้มากขึ้น
พุทธะอิสระ