ซวยเพราะปากแท้ๆ

0
107

“จตุพร” เผยศาลนัดไต่สวนถอนประกัน 5 แกนนำ นปช.3 ต.ค.นี้ ชี้ดีเอสไอยก 3 ปม “พูดประชด รบ. คสช.-คุกคามกระบวนการยุติธรรม-ดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อื่น” ทำให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง
มติชน วันที่: 21 ก.ย. 59 เวลา: 13:31 น.

เมื่อวันที่ 21 กันยายน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ว่า อัยการคดีพิเศษได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการประกันตัวแกนนำ นปช.5 คนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต่อศาลอาญา และศาลนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 3 ตุลาคมนี้ เชื่อว่าการถอนประกันตัวแกนนำ นปช.นั้น มีเป้าหมายกดดันให้พวกเราหนีคดีหรือถูกนำตัวไปคุมขังคุก แต่ตนจะยืนหยัดต่อสู้ด้วยความจริง เพราะประกาศเอาชีวิตและอิสรภาพให้กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ในคำร้องของอัยการระบุว่า ภายหลังศาลอนุญาตให้ปล่อยแกนนำ นปช.ทั้ง 5 คน เป็นการชั่วคราวแล้ว แกนนำ นปช.ยังมีเหตุพฤติกรรมหรือการกระทำโดยพูดผ่านสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์กในรายการมองไกล ทางสถานีโทรทัศน์พีซทีวี และถูกเผยแพร่จากสื่อหนังสือพิมพ์อื่นๆ ไปทั่วราชอาณาจักร เข้าข่ายผิดเงื่อนไขให้ประกันตัวชั่วคราว จึงเป็นเหตุยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำ นปช. ทั้ง 5 คน โดยคำร้องอ้างเหตุกระทำที่ผิดเงื่อนไขการประกันตัวใน 3 กรณี ประกอบด้วย มีการพูดประชดประชันรัฐบาล คสช. การคุกคามกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น และดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อื่นให้เสื่อมเสียหรือหวั่นเกรงให้เกิดอันตราย พฤติกรรมเหล่านี้เป็นการปลุกปั่น ยั่วยุ ปลุกระดมก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง

นายจตุพรกล่าวว่า ในคำร้องระบุว่า ตนพูดเสียดสี ประชดประชัน บิดเบือนการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กรณีก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ที่ส่อให้เกิดความคลางแคลงใจกับการเรียกจ่ายค่าหัวคิวจากเงินบริจาค รัฐบาลเพิกเฉย และถ่วงรั้งมติของมหาเถรสมาคมในการแต่งตั้งสังฆราชองค์ใหม่ ส่วนการกล่าวหาหน่วยงานรัฐนั้น ในคำร้องอ้างเหตุคำพูดกล่าวหาหน่วยงานรัฐกระทำมิชอบ คุกคาม กดดันการทำหน้าที่ของหน่วยงานรัฐต่างๆ หลายแห่ง ทั้งที่การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานยังไม่เป็นที่ยุติ โดยยกกรณีพฤติการณ์ส่อทุจริตขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สนช.) รับแจ้งความการชุมนุมของคณะสงฆ์ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. อีกทั้งดีเอสไอสอบรถหรูโบราณของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และอ้างเหตุกล่าวหาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีการปฏิบัติงานของนายวิชา มหาคุณ อดีต ป.ป.ช. ที่ตรวจสอบการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 51 ซึ่งแตกต่างจากการสลายการชุมนุมของ นปช.เมื่อ พฤษภาคม 2553 กลับไม่มีคนผิด ซึ่งคำพูดกล่าวหาการปฏิบัติหน้าที่ของ สนช. ดีเอสไอ และ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น จะทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นในบ้านเมืองได้

“คำร้องยื่นถอนประกัน ยังอ้างคำพูดดูหมิ่น เหยียดหยามผู้อื่น โดยอ้างว่าดูหมิ่นพุทธะอิสระ พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รมช.กลาโหม ที่รับผิดชอบการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ดูหมิ่น พล.ต.จุลเจิม ยุคล ที่เสนอให้ใช้ผู้หญิงโคโยตี้ เข้าสลายม็อบพระ และยังดูหมิ่น พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคณะสงฆ์ปี 2535 กรณีไม่เสนอแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ในคำร้องขอให้เพิกถอนการประกันตัวชั่วคราวนั้น กล่าวโดยรวมว่าแกนนำ นปช.ทั้ง 5 คน ได้กล่าวใส่ความ ให้ร้ายผู้อื่น ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และได้เผยแพร่ต่อสาธารณะ แสดงเพื่อก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร เป็นการละเมิด กระทบสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลหรือหน่วยงานรัฐ จึงเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขการให้ประกันตัวชั่วคราวของศาล เชื่อว่านับจากนี้ไปเมื่อใกล้วันศาลอาญานัดไต่สวน จะมีอีกหลายขบวนการออกมาเคลื่อนไหว มีเป้าหมายกดดันให้นำแกนนำ นปช.ทั้ง 5 คน ไปเก็บไว้ในเรือนจำ แต่พวกผมจะนำข้อเท็จจริงของแต่ละเรื่องราวให้การต่อศาล เพื่อชี้ให้เห็นว่าสิ่งใดไม่เป็นความจริง” นายจตุพรกล่าว
https://www.matichon.co.th/news/293045
————————————————-

พุทธะอิสระ:

เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ทำที่พูดบิดเบือน มันจะให้ผลเป็นทุกข์ เดือดร้อนและผิดเงื่อนไขของศาล จะถูกถอนประกัน แล้วพูดทำไม

เหตุที่ศาลท่านยอมปล่อยตัวชั่วคราวเพราะท่านมีเมตตา หวังให้ออกมาต่อสู้คดี ไม่ใช่มาสร้างคดี

สันดานโกหกจนเคยชิน ไม่รู้จักแยกแยะดีชั่ว พูพล่อยๆ ไปเรื่อยเปื่อย จนทำให้ผู้อื่นเขาเสียหาย พอเขาจะเอาเรื่องก็ออกมาโวยวายกล่าวหาว่าเขามีเจตนาเอาตัวไปเก็บไว้ในคุก หรือไม่ก็กดดันให้หนีคดี

แล้วนี่ยังจะมากล่าวหาอัยการว่าละเลยละเว้นไม่ยอมฟ้องคดีกปปส.อีก

มโนไปเรื่อย โกหกซ้ำซาก โดยไม่ดูพฤติกรรมของตนเองเลย แอะอะก็อ้างประชาธิปไตย

พุทธะอิสระอยากจะถามว่า การที่เฮียจตุพรกล่าวหาว่าพุทธะอิสระว่าเป็นผู้มีคดีติดตัวถึง ๘-๙ คดี และกล่าวหาว่าพระลิขิตเป็นของปลอม ทั้งยังมีอีกหลายเรื่องที่เฮียจตุพรเที่ยวไล่กล่าวหาบิดเบือนใส่ร้ายออกสื่อ เหล่านี้เรียกว่าประชาธิปไตยหรือ

หรือประชาธิปไตยของพวกเฮียจะต้องบิดเบือน ใส่ร้าย โกหก ให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อนเสียหายได้ตามใจชอบ

อย่ามาอ้างประชาธิปไตยเพื่อให้ตนดูดี ทั้งที่การจะติดคุกครั้งนี้มันเกิดจากสันดานส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวกับคำว่าประชาธิปไตยเลย

เฮียจตุพรควรจะมีสำนึกรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตนเองเสียบ้างนะ อย่าเอาแต่อ้างประชาธิปไตยส่งเดช

คุกไทยน่ะเขาไม่ได้มีเอาไว้ขังนักประชาธิปไตยดอกนะเฮีย แต่เขามีเอาไว้ขังคนที่ทำผิดกฎหมาย จะมาใช้สันดานบิดเบือนเพื่อให้ตนเองดูดีแล้วป้ายสีแก่กระบวนการยุติธรรมอีกเลยเฮีย มันน่ารังเกียจ

เอาเป็นว่า เฮียจตุพรก็ไปหาหลักฐานมายืนยันให้ศาลท่านเชื่อให้ได้เถิดว่า พระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชเป็นของปลอมดังที่เฮียโพนทะนาก็แล้วกัน

แล้วที่เฮียอ้างว่าเฮียกับพระพี่ชายที่ตายไปแล้วอัญเชิญสมเด็จพระสังฆราชมาที่โบสถ์ แล้วให้พระองค์ลงพระนามดู ปรากฏว่าพระสังฆราชมิอาจลงพระนามได้นั้น เฮียก็รีบไปหาพยานหลักฐานเอาไว้ยืนยันในศาลก็แล้วกันนะเฮีย

และก็หลักฐานข้อกล่าวหาว่าพุทธะอิสระตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาและผู้ต้อง ๘-๙ คดี มายืนยันต่อศาลด้วยนะเฮีย

รวมทั้งยังมีกรณีพูดพล่อยๆ อีกหลายเรื่องที่ทำให้พุทธะอิสระและผู้อื่นเสียหาย

เฮียจตุพรก็ไปหาพยานหลักฐานมาแสดงให้ศาลท่านเชื่อว่าเฮียมีประจักษ์พยานจริง ยืนยันในคำพูดของเฮียให้ศาลท่านเชื่อก็แล้วกันว่าเฮียพูดจริง

ย่ำว่าประจักษ์พยานจริงนะเฮีย ไม่ใช่ประจักษ์พยานเท็จ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนอีกข้อหาหนึ่ง

ไม่รู้ว่าเขียนอธิบายมานี่เฮียจะรู้เรื่องเข้าใจในหลักการ เหตุผล ถูกผิด จริงเท็จไหม

พุทธะอิสระก็หวังว่าเฮียจตุพรจะพยายามทำความเข้าใจ

อ้อ แล้วอย่าไปบิดเบือนแถกแถให้คลาดเคลื่อนจากความจริงอีกนะเฮีย ไม่งั้นเดี๋ยวเจออีกดอกแน่

ส่วนที่เฮียบอกว่า เรื่องหมิ่นประมาทต่อพุทธะอิสระเกิดขึ้นมาสองปีแล้ว ทำไมถึงพึ่งมาฟ้อง

ทำไมหรือเฮีย มีกฎหมายของพวกประชาธิปไตยข้อไหนห้ามเอาไว้หรือว่าควรจะฟ้องได้เมื่อไหร่ด้วย

แต่เท่าที่พุทธะอิสระรู้ คดีที่เฮียหมิ่นประมาท พุทธะอิสระก็ได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วภายใน ๓ เดือน จึงทำให้มีอายุความฟ้องคดีถึง ๕ ปี (หมิ่นประมาท กฎหมายแพ่งมีอายุความ ๑ ปี)

คดีนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์มีอายุความ ๑๐ ปี

อีกทั้งการที่พุทธะอิสระจะฟ้องในเวลาไหนมันก็เป็นสิทธิของพุทธะอิสระ ทำไมต้องขออนุญาตเฮียจตุพรด้วยหรือ

เอาล่ะ หากอยากรู้ก็จะเล่าแจ้งแถลงไขให้ฟังก็แล้วกัน

การที่พุทธะอิสระเพิ่งจะมาฟ้องช่วงนี้ก็เพราะต้องการเฝ้ารอเก็บข้อมูลที่เฮียโกหก และเห็นว่าการกล่าวเท็จของเฮียมันมีหลักฐานมากพอที่จะแยกฟ้องคดีทั้งแพ่งและอาญา ในฐานความผิดต่างกรรมต่างวาระมากพอแล้วที่จะเช็คบิล ก็เลยมาฟ้องช่วงนี้ไงล่ะเฮีย

ไม่แน่ว่าอาจจะมีคดีเพิ่มขึ้นอีกก็ได้ หากเฮียยังไม่ทิ้งสันดานเดิม