ไอ้หวังตายแน่ ตายแน่ไอ้หวัง

0
103

โอ้โห…นี่สิเด็ดจริง!!! “ครม.ยุคเผด็จการ” ห้าม “คนหนีคดี” ยื่นอุทธรณ์ เรื่องนี้…สะเทือนใครเต็มๆ?!

โอ้โห…นี่สิเด็ดจริง!!! “ครม.ยุคเผด็จการ” ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา 3 ประเด็น เหนืออื่นใดที่เด็ดดวงก็คือห้าม “คนหนีคดี” ยื่นอุทธรณ์…เรื่องนี้สะเทือน…บางคนเต็มๆ

วันนี้ (13 ก.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน เรื่องร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยโฆษกรัฐบาลระบุว่า ครม.มีมติเห็นชอบ ตามที่ศาลยุติธรรมเสนอ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหลักการสำคัญ 3 เรื่องได้แก่
1.การใช้ทนายความในขั้นตอนพิจารณาคดี และขั้นไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ระบุว่า หากจำเลยคนใดที่ไม่มีทนายความคอยช่วยเหลือ ให้สามารถร้องขอทนายความได้ โดยรัฐจะเป็นผู้จัดหาให้ เพื่อให้กระบวนการไต่สวนมูลฟ้องนั้นได้ข้อมูลที่ชัดเจน

2.อนุญาตให้ศาลพิจารณาไต่สวนลับหลัง จำเลยได้ เนื่องจากที่ผ่านมา หากจำเลยไม่อยู่ หรือ หนีคดี ศาลจะไม่สามารถไต่สวนได้ ทำให้มีคดียังคงค้างอยู่ในศาลเป็นจำนวนมาก แต่ต่อไปนี้ได้อนุญาตให้ศาลสามารถสืบลับหลังจำเลยได้

3.ในขั้นของการอุทธรณ์และฎีกานั้น หากตัวจำเลยไม่อยู่ ที่ผ่านมาจำเลยสามารถให้ทนายความเดินทางมายื่นอุทธรณ์หรือฎีกาได้ แต่กฎหมายฉบับนี้ระบุว่า หากจะยื่นอุทธรณ์หรือฎีกา ตัวจำเลยจะต้องอยู่ในพื้นที่ เพราะถือว่า หากตัวจำเลยไม่อยู่หมายความว่า ไม่มีความบริสุทธิ์ใจ

พร้อมกันนี้ ยังมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากอัยการ ที่เสนอว่า โดยปกติกระบวนการยุติธรรมจะตั้งสมมติฐานไว้ก่อนว่า ผู้ถูกกล่าวหาจะยังไม่ผิดจนกว่าจะมีการตัดสินของศาลในขั้นฎีกา เพราะฉะนั้น การที่เจ้าตัวไม่มายื่นอุทธรณ์หรือฎีกานั้นสามารถทำได้ โดยไม่ขัดหลักการ แต่ไม่ได้รวมถึงการหนีคดี แต่หมายถึงกรณีที่จำเลยเกิดเจ็บป่วย จนไม่สามารถมาแสดงตัวต่อศาลได้ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง รับประเด็นดังกล่าวไปหาถ้อยคำที่รัดกุม เพื่อให้ผู้ที่เจ็บป่วยสามารถส่งตัวแทนมายื่นอุทธรณ์และฎีกาได้

“กฎหมายฉบับนี้ ทำให้กระบวนการยุติธรรมมีประสิทธิภาพ ซึ่งสังคมเรียกร้องเรื่องนี้มาเป็นเวลานาน และขอยืนยันว่า กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้จงใจที่จะแกล้งใคร” โฆษกรัฐบาล ระบุทิ้งท้าย
https://politic.tnews.co.th/contents/204507/
———————————————————–
เอาล่ะซิ เจ๊แทมมี่ งานนี้คุณมึงตายแน่

กรณีที่ประชุมรัฐมนตรีมีมติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาใน ๓ เรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่ ๒ และ ๓
ในประเด็นที่ ๒ ต่อไปนี้ศาลสามารถพิจารณาไต่สวนลับหลังจำเลยได้ ข้อนี้หมายความว่าอย่างไร

หมายความว่า หากผู้จำเลยไม่ยอมมาศาลหรือหนีคดี ศาลจะมีสิทธิ์พิจารณาคดีลับหลังและตัดสินได้เลย โดยมิต้องมีตัวจำเลยอยู่ต่อหน้าศาล

ส่วนในประเด็นที่ ๓ การอุทธรณ์หรือฎีกาคดีนั้น จำเลยจะต้องมาศาล ถ้าหากไม่มาก็แสดงว่าจำเลยไม่บริสุทธิ์ใจ

อีกทั้งอัยการยังมีความเห็นเสนอต่อรัฐบาลว่า ผู้ถูกกล่าวหาถ้ายังมิได้รับการตัดสินของศาลฎีกาว่าผิดตามกระบวนการยุติธรรม ให้ถือว่าผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์

ฉะนั้น การที่ผู้ถูกกล่าวหาจะไม่มาอุทธรณ์หรือฎีกาด้วยตนเองนั้น ถือว่าเป็นสิทธิที่พึงกระทำได้ แต่ต้องไม่รวมถึงกรณีผู้ถูกกล่าวหาหนีคดี

และถ้าผู้ถูกกล่าวหาเจ็บป่วยจนไม่สามารถมาปรากฏตัวที่ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาได้ สามารถมอบหมายให้ผู้แทนมายื่นอุทธรณ์หรือฎีกาได้

ซึ่งรัฐบาลได้รับความคิดเห็นของอัยการมาพิจารณาและสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องไปหาถ้อยคำที่รัดกุมในประเด็นที่จำเลยเจ็บป่วยต่อไป

อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้พุทธะอิสระคิดสมมุติเล่นๆ

สมมุตินะสมมุติ สมมุติว่ากฎหมายฉบับนี้ถูกประกาศใช้จริง บรรดาพวกที่หนีคดี หนีหมายศาลทั้งหลาย จะมีชะตากรรมอย่างไร

โดยเฉพาะเจ้าลัทธิทำจนกลายที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาและผู้ต้องหาหนีหมายศาล

เป็นเหตุให้สิทธิอันพึงได้จากกระบวนการยุติธรรมเป็นอันต้องระงับไป

แม้จะอ้างว่าเจ็บป่วย แต่พฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหาแสดงออกถึงความไม่จริงใจที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแต่ต้น

จนกระทั่งมีบรรดาสาวกออกมาอ่านประกาศแถลงการณ์ว่า รอให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยก่อน หลวงพ่อจึงจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

พฤติกรรมของเจ้าลัทธิและสาวกทำจนกลายเช่นนี้ เป็นการแสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่าไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมมาแต่ต้น

แม้จะอ้างความเจ็บป่วยก็ฟังไม่ได้ว่าเป็นผู้ที่ควรมีสิทธิได้รับการอุทธรณ์หรือฎีกาทางคดี

แต่ที่แน่ๆ หากกฎหมายฉบับนี้ถูกประกาศใช้ อัยการสามารถส่งสำนวนคดีฟ้องศาลได้โดยไม่ต้องพาตัวเจ๊ธัมมี่แกมาศาล

แสดงว่างานนี้อัยการไม่ง้อผู้ถูกกล่าวหาและผู้ต้องหาต่อไปแล้ว จะมาสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่มาศาลก็มีสิทธิจะพิจารณาคดีได้
เป็นการแก้สันดานหน้าด้าน ต่อรอง ประวิงเวลา ขอเจรจา ของพวกอลัชชีได้เฉียบคมนัก

และถ้าศาลตัดสินว่าผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ต้องหาที่หนีหมายหรือหนีคดีผิด

ผู้ต้องหานั้นจะไม่มีสิทธิอุทธรณ์หรือฎีกาใดๆ เลย

อย่างนี้ก็ต้องซ้อมร้องเพลง ไอ้หวังตายแน่ ตายแน่ไอ้หวัง ล่ะซิเจ๊แทมมี่

พุทธะอิสระ