พอมีกรณีตายผิดธรรมชาติของผู้ต้องหาที่เป็นอดีตข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่ดิน จ.พังงา ที่หนีหมายจับคดีทุจริตออกเอกสารสิทธิ์อย่างน้อย ๑๒ คดี รวมกว่า ๑,๐๐๐ แปลง ทับซ้อนพื้นที่อุทยานแห่งชาติกว่า ๕๐๐ ไร่ มีมูลค่ากว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท
ซึ่งนายธวัชชัยได้ถูกดีเอสไอจับกุมเมื่อวันที่ ๒๙ ส.ค. ที่ผ่านมา โดยดีเอสไอมีกำหนดนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญาเวลา ๑๐.๐๐ น. และมีกำหนดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันเดียวกัน
ในเวลาต่อมา ผู้ต้องหาเกิดเหตุตายแบบผิดธรรมชาติขึ้นเสียก่อน
เรื่องนี้จึงเป็นที่กังขาสงสัยของสังคมโดยวงกว้าง ไม่เว้นแม้แต่พวกหูดลัทธิธรรมกายที่พยายามยกประเด็นการตายผิดธรรมชาติของอดีตเจ้าหน้าที่ที่ดิน จ.พังงา ขึ้นมาเป็นประเด็นทำลายความน่าเชื่อถือของดีเอสไอ
โดยยกเอาเจ้าลัทธิอลัชชีขึ้นมาเทียบว่า หากวันนั้นพวกสาวกยินยอมให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปจับตัวเจ้าลัทธิทำจนกลายมาคุมขัง อาจต้องมีชะตากรรมเช่นเดียวกับอดีตเจ้าหน้าที่ที่ดินขึ้นก็ได้
ดูๆ…. สันดานโจร มันจะหาทางเอาตัวรอด แม้ต้องอาศัยความตายของชาวบ้านมาปกปิดความผิดชั่วบาปของตัวเอง เพียงเพื่อเอาตัวรอดกูก็จะทำ
อยากบอกพวกสาวกทำจนกลายว่า ต่อให้มีคนตายบนตึกดีเอสไอเป็นสิบศพ มันก็ไม่ได้ทำให้คดีบุกรุกป่า ฉ้อโกง ฟอกเงิน รับของโจร ของเจ้าลัทธิทำจนกลายล้มเลิกไปได้ดอกนะ
ยิ่งพวกคุณพยายามทำลายความชอบธรรมของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมากเท่าไร พวกคุณอาจจะถูกดำเนินคดีข้อหาหมิ่นเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๖
“ผู้ใด ดูหมิ่น เจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
หากกระสันอยากนอนคุกนักก็ออกมาบิดเบือนใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐให้มากๆ
ส่วนการตายผิดธรรมชาติของอดีตเจ้าหน้าที่ที่ดิน ก็ต้องมีคนต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นใครนั้นก็รอดูพนักงานสอบสวนสืบสวนชุดที่ท่านประหลัดกระทรวงยุติธรรมตั้งขึ้นมาก่อนดีไหม ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครต้องรับผิดชอบบ้าง
พุทธะอิสระ