นายกฯ จี้ สธ.เร่งจดสิทธิบัตรสมุนไพร-ประสาน มท.พัฒนาให้มีมาตรฐาน
โดย MGR Online
30 สิงหาคม 2559 12:17 น. (แก้ไขล่าสุด 30 สิงหาคม 2559 13:01 น.)
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันนี้ (30 ส.ค.) โดยโดยก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรีได้ร่วมรณรงค์การแต่งการชุดผ้าไทยใส่ผ้าซิ่น พร้อมขอให้ทุกคน ช่วยสวมใส่ชุดผ้าไทยและผ้าซิ่น เพื่ออนุรักษ์ความเป็นไทย ซึ่งไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าราคาแพง แต่ให้ดูความเหมาะสม และไม่ทำให้ตนเดือดร้อน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังร่วมชมการประชาสัมพันธ์การจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 13 “สมุนไพรไทย เศรษฐกิจไทย อนาคตไทย” ที่จัดโดยกระทรวงสาธารณสุข ในระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึง 4 กันยายน ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมุนไพรเป็นภูมิปัญญาไทยที่ต้องส่งเสริม ซึ่งจะต้องสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับอันตรายจากการใช้สมุนไพรที่ไม่ถูกต้อง พร้อมขอให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งจดสิทธิบัตร และให้ประสานกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ให้เป็นสินค้า OTOP รวมถึงส่งเสริมอุตสาหกรรมสมุนไพรอย่างจริงจัง เพื่อให้มีมาตรฐาน สามารถนำขึ้นไปจัดจำหน่ายบนเครื่องบินได้
————————————————–
เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่พุทธะอิสระเรียกร้อง ขอร้อง และไปยื่นเรื่องขอให้ภาครัฐหันมาให้ความสำคัญต่อภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยในอดีต จนสามารถสร้างบ้านแปลงเมือง ปกป้องรักษาแผ่นดินไทยเอาไว้จนถึงมือพวกเราในปัจจุบัน โดเฉพาะพืชที่นำมาใช้ทำยาสมุนไพรรักษาโรค
แต่พวกเรากลับละเลย แถมยังไปให้ความสำคัญกับยาเคมีของฝรั่ง ซึ่งมีราคาแพง และยาหลายชนิดของต่างประเทศก็สกัดมาจากพืชสมุนไพรของไทย
ตัวอย่างเช่นต้นเปล้าน้อยที่สามารถแก้โรคกระเพาะ แก้โรคกรดไหลย้อน แต่ญี่ปุ่นก็นำเอาไปวิจัยแล้วจดสิทธิบัตรเป็นของประเทศเขาไปหน้าตาเฉย
ยังมีกราวเครือที่เป็นพืชสมุนไพรเพิ่มฮอร์โมนหญิง คนโบราณนำมาต้มให้แม่ลูกอ่อนที่กำลังให้นมลูกเพื่อเพิ่มน้ำนมแก่แม่ แต่ญี่ปุ่นก็นำไปจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว
ยังมีพืชสมุนไพรอีกหลายสิบชนิดที่ต่างชาติมาขโมยเอาของเราไปทำการวิจัยเป็นยารักษาโรคนานาชนิดแล้วส่งมาขายให้คนไทยได้กิน ทั้งที่ข้อมูลเบื้องต้นก็มาจากตำราแพทย์แผนไทยของไทย แต่ก็มีคนไทยที่ไม่รู้คุณค่า นำตำราแพทย์แผนไทยของบรรพบุรุษชั่งกิโลขายถูกๆ ให้กับต่างชาติ
ฉันยังจำได้ว่า ตอนไปเดินธุดงค์ตามภาคเหนือ ภาคอีสาน เห็นคนนั่งรถไปตามวัดในหมู่บ้าน ประกาศรับซื้อสมุดข่อย คัมภีร์ใบลานเก่าๆ ให้กิโลละ ๕๐๐ – ๑,๐๐๐ บาท ในสมัยนั้นก็ถือว่าเป็นเงินมากแล้ว จึงมีเด็กวัดบ้าง หลวงพี่ หลวงตาบ้าง หอบเอาคำภีร์ตำราโบราณเอาไปขายโดยอ้างว่าเก็บเอาไว้ก็หนูกัด แมลงสาบแทะ รกรุงรังเป็นภาระต้องรักษา เลยหอบออกมาขายให้พ่อค้าเร่ได้กันไปเป็นคันรถๆ ที่ออกตระเวนไล่ซื้อมาหลายอำเภอ
พอฉันถามว่าคุณจะเอาสมุดข่อยพวกนี้ไปไหน เขาบอกว่าจะไปขายต่อให้พวกต่างชาติที่เขาสนใจเก็บของเก่า ฉันจึงคิดว่านี่แหละแหละคือความพินาศของภูมิปัญญาไทย
เมื่อพวกเขาได้ข้อมูลจากตำราแพทย์แผนไทยไปแล้ว พวกเขาก็นำไปเป็นข้อมูลพื้นฐานในการค้นหาพืชสมุนไพรและค้นคว้าวิจัยจนได้สารตั้งต้นสารพัดตัวยานำมาผลิตเป็นยาขายคนไทยในราคาแพง ทั้งที่มันเป็นของไทยทั้งดุ้น
แล้วที่ผ่านมารัฐบาลไทยทำอะไรอยู่ กรมวิชาการแพทย์แผนไทยหรือแพทย์ทางเลือกทำอะไรกันอยู่
ทำไมถึงปล่อยให้ต่างชาติเข้ามาปล้นเอาสมบัติทางภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยไปได้
และที่เจ็บปวดก็คือรัฐบาลต้องเสียงบประมาณไปซื้อยาฝรั่งเป็นเงินกว่า ๑๓๐,๐๐๐-๑๖๐,๐๐๐ ล้านบาทในแต่ละปี และเงินที่รัฐต้องจ่ายไปซื้อยานอกมานั้น ส่วนหนึ่งก็มีต้นกำเนิดมาจากภูมิปัญญาไทยที่รัฐบาลไทยทอดทิ้งละเลย
แทนที่รัฐบาลที่ผ่านมาจะหันกลับมาให้ความสำคัญ หาวิธีลดค่าใช้จ่ายของประเทศด้วยการฟื้นฟู สนับสนุนพืชสมุนไพรไทยที่สามารถนำมาใช้เป็นยาแก้ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ปวดท้อง หรือยาแก้อักเสบ ไม่สบาย ตามคติของภูมิปัญญาไทย กลับละเลย หรืออาจเป็นเพราะไม่ได้คอมมิสชันจากพืชสมุนไพรเหมือนกับที่ได้จากบริษัทขายยาต่างชาติก็ได้ เลยไม่สนใจ แถมยังกีดกันไม่ให้พัฒนาวิจัยเพื่อนำมาเป็นยาทันสมัยให้คนไทยได้ใช้อีกตะหาก
วันนี้ประเทศไทยมีรัฐบาลคสช. ท่านนายกมีแนวคิด มีนโยบายที่จะฟื้นฟูภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยให้กลับมามีชีวิตชีวา เพิ่มมูลค่า สามารถเป็นที่พึ่งพาของผู้คนในชาติได้ ด้วยนโยบายและวิธีการที่หลากหลาย เพื่อต่อยอดการวิจัยของพืชสมุนไพรให้ก้าวไกลไปสู่ตลาดสากลเหมือนกับจีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ที่เขาสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพืชสมุนไพรของเขาจนมีมูลค่ามหาศาล สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างการยอมรับนับถือในภูมิปัญญาของบรรพบุรุษเขา
หวังใจว่ารัฐบาลคสช. โดยท่านประยุทธ์ คงจะสามารถชุบชีวิตพืชสมุนไพรไทยให้กลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมา สร้างคุณประโยชน์ให้กับคนในชาติให้มีสุขภาพกายดี จนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจเกิดขึ้นอีกหลายชนิดในแผ่นดินไทย
ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ ในหัวจิตหัวใจที่กตัญญูกตเวทีของคุณประยุทธ์ ที่มีต่อภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย
พุทธะอิสระ