ลากไส้มันออกมาให้หมด!!!ส่อเค้ามีกลิ่นตุ”ปมกำจัดผักตบชวา”หน่วยงานรัฐ ซัดของบไปทุกปี แต่ผลงานตรงกันข้าม(รายละเอียด)
ทีนิวส์ 2016-08-28 17:44:37
4.6K
เมื่อวันที่ 28 ส.ค.59 นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า ได้สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน ในเรื่องการจัดเก็บผักตบชวา ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีการสอบถามเข้ามาว่าแต่ละปีใช้งบเท่าไร ทำไมจึงจัดเก็บไม่หมด มีแต่จำนวนผักตบฯ เพิ่มมากขึ้น ในสัปดาห์นี้จะได้ทราบชัดเจน โดยเฉพาะแต่ละหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่ทุกลุ่มน้ำ แม่น้ำ เส้นทางระบายน้ำ คูคลองต่างๆ
“สตง.กำลังเร่งรีบดำเนินการส่งสายตรวจไปตรวจสอบเรื่องนี้ในพื้นที่ ไปเก็บตัวเลขมา ใช้งบจัดเก็บผักตบฯ ปีละเท่าไร โดยเป็นงบที่รวมอยู่ในงบขุดลอก แต่ละหน่วยงานจะนำใช้ต้องเปิดมาให้สังคมรับรู้ เหมือนกับสำนักระบายน้ำของ กทม. มีงบทำเส้นทางระบายน้ำปีละ 5 พันล้านบาท แต่พอฝนตกวันหนึ่งท่วม ผู้ว่าฯ กทม.บอกว่าเป็นน้ำรอการระบาย อ้างระบบใหญ่ไม่เวิร์ก เตรียมขอใช้งบพันล้านบาทมาทำอีก 21 โครงการ จะเห็นว่าเพียงน้ำท่วมช่วงข้ามคืนคิดได้ 21 โครงการ วิกฤติสร้างโอกาส เพิ่มสถิติงาน เปอร์เซ็นต์งานมากขึ้นปีละ 70% แต่งบที่ได้ทุกปี ปีละ 5 พันล้าน ทำไมไม่ทำ ถ้าย้อนไป 5 ปี เป็นงบ 2.7 หมื่นล้านบาท ทำไมยังมีน้ำรอระบาย” นายพิศิษฐ์ กล่าว
นายพิศิษฐ์ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรี ออกมาพูดเรื่องผักตบชวาถือเป็นเรื่องที่ดี ช่วยกระตุ้นเตือน เพราะหน่วยงานไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเล็กๆ กัน แต่ละพื้นที่แต่หน่วยงานที่มีหน้าที่ก็ปล่อยให้มีมากๆ จะได้ของบกลางก้อนใหญ่ ทุกเรื่องจึงเป็นปัญหาหมักหมม ถามว่าทำไมขุดลอกคูคลองขุดได้ ทำไมไม่กำจัดผักตบชวา หรือเพราะไม่ใช่งานก่อสร้าง มีเปอร์เซ็นต์งานมากกว่า ความจริงแล้วผักตบฯ ต้องใช้วิธีป้องกัน เก็บก่อนแพร่พันธุ์ ไม่ใช่ปล่อยจนรากยึดดิน ทำน้ำเน่าเสีย ปลาตาย ควรมีการวางแผนว่าจะมีวิธีตั้งรับอย่างไร มันไม่ใช่เรื่องยาก หรือเอาเวลาไปดูงานต่างประเทศ จนไม่ได้พัฒนาสภาพบ้านเราเป็นอย่างไร ชอบไปดูงานยุโรป อเมริกา ก็ไม่มีผักตบชวาให้ดู และผักตบฯ ก็นำมาทำผลิตภัณฑ์ ทำปุ๋ยหมัก ของบางอย่างเป็นโอกาสและเป็นประโยชน์ต่อชุมชน
“ยิ่งตอนนี้พอเป็นข่าว ส่วนท้องถิ่นก็ชอบใช้งบฉุกเฉินจำเป็นอย่างมีความสุข ก็จ้างแรงงาน ใช้น้ำมัน ค่าล่วงเวลา ค่าจ้างคนไปเก็บ ลำน้ำคูคลองเล็ก แทนที่จะเก็บตอนน้อยๆ รอมากๆ ค่อยเก็บ ถ้าให้ผมวิจารณ์ดูแล้วหน่วยงานที่รับผิดชอบมาแก้ไขที่ปลายเหตุ ภาระหน้าที่ตรวจตรา รักษาความสะอาดผิวน้ำ เก็บก่อนที่จะระบาด ไม่ใช่ปล่อยมาเต็มแม่น้ำ เต็มเขื่อน แทนที่ใช้งบเล็กๆ ต้องมาใช้งบมาก” นายพิศิษฐ์ กล่าว
นายพิศิษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการสอบสวนหลายโครงการจัดซื้อของ กทม.นั้น จะเร่งสรุป เช่น โครงการจัดซื้อรถกู้ภัยขนาดเล็ก ที่มีการระงับการจัดซื้อลอตใหม่ไปแล้ว จากเดิมที่ซื้อมาแล้ว 20 คัน คันละ 8 ล้านบาท ที่ผ่านมา สตง.ได้แจ้งเตือนอย่างน้อยสองครั้ง แต่ กทม.ไม่ฟัง สุดท้ายก็ทำผิดจากเงื่อนไขสัญญา แสดงถึงการเอื้อประโยชน์ชัดเจน และยังมีอีกหลายโครงการ เช่น การจัดซื้อรถดูดไขมันประจำทุกเขต ทั้งที่ไม่มีงานดูดไขมันทุกวัน ซื้อเปียโนให้โรงเรียน กทม.
https://headshot.tnews.co.th/contents/202141/
————————————————-
สุดยอด… ท่านพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าสตง.
บ้านเมืองนี้นอกจากจะต้องการนายกอย่างลุงตู่ ผู้จริงจัง จริงใจ ซื่อตรง วิสัยทัศน์กว้างไกลแล้ว
ยังต้องการหน่วยตรวจสอบเก็บกวาดกำจัดพวกโกงกินชาติบ้านเมืองซึ่งยังมีอยู่อีกมากมาย และคนอย่างท่านผู้ว่าสตง.คนดีที่หนึ่งคนนี้แหละที่เหมาะสมกับงานนี้เป็นยิ่งนัก
ในช่วงรัฐบาลประชาธิปไตย หากมีหน่วยงานอิสระอย่างสตง.ทำหน้าที่ตรวจสอบทัดทานการทำงานของข้าราชการและรัฐบาลอย่างท่านผู้ว่าสตง.คนปัจจุบัน บ้านเมืองเราคงไม่ต้องเสียหายเป็นแสนล้านดังที่ผ่านมา
เมื่อสตง.เขามีผลงานตรวจสอบเก็บกวาดขยะแผ่นดินมาตลอดสองปีที่ผ่านมา แล้วป.ป.ช. ปปง.ล่ะ
ท่านทั้งหลายทำไมไม่โชว์ผลงานออกมาให้ชาวโลกเขาได้ดูได้รู้ได้เห็นกันบ้าง
เห็นร้องเรียนอะไรเข้าไปเรื่องก็เงียบหายทุกที
ขนาดไปตามแล้วตามอีก จนป่านนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า โดยเฉพาะป.ป.ช.
ไม่รู้ว่าเรื่องที่พุทธะอิสระไปร้องเรียนให้ตรวจสอบการทำงานของผอ.สำนักพุทธและเจ้าหน้าที่รัฐผู้เกี่ยวข้อง เรื่องได้เดินไปถึงไหนแล้ว
ฉันจำได้ว่าไปป.ป.ช.หลายครั้วแล้ว แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรคืบหน้าเลย
ฉันเหนื่อยแล้วนะ หรือจะต้องแบกกลดไปพักธุดงค์หน้าป.ป.ช.เพื่อรอคำตอบ
พอได้เห็นผลงานของสตง.แล้วทำให้ต้องนำมาเปรียบเทียบกับผลงานขององค์กรอิสระแต่ละหน่วยงานที่รับเงินเดือนจากภาษีของประชาชน ว่าเขาได้ทำงานคุ้มกับเงินภาษีของราษฎรที่จ่ายไปให้หรือเปล่า
คนไทยทั้งประเทศเขาอยากเห็นผลงานขององค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐและข้าราชการอย่างตรงไปตรงมา รวดเร็ว เร่งรีบ รวบรัด แต่ต้องถูกต้องเรียบร้อย
ไหนๆ บ้านเมืองก็เข้าสู่ยุคปฏิรูปกันแล้ว
คนไทยผู้เสียภาษีทุกคนเขาอยากเห็นผลงานของบุคลากรของรัฐและองค์กรอิสระได้แข่งกันทำงาน สร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตากันบ้าง
ไม่ใช่เช้าชามเย็นชาม เอาแต่นั่งรอรับเงินเดือน ขอเลื่อนขั้น แต่ผลงานไม่ปรากฏ
ตัวอย่างเช่นกรณีผักตบชวา เป็นต้น
หากผู้ว่า นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอบต อบจ. ทุกจังหวัดได้ทำหน้าที่อย่างซื่อตรง
มีหรือแม่น้ำลำคลองจะมีแต่ผักตบชวาและขยะ จนเป็นเหตุให้นายกลุงตู่ต้องออกมาพูด
แบบนี้แหละที่ประชาชนเขารู้สึกเบื่อหน่ายและไม่เชื่อมั่นในระบบการเมืองและข้าราชการไง
ถึงเวลาที่ฟ้าสีทองผ่องอำไพแล้ว
ตามรัฐธรรมนูญที่เพิ่งผ่านการลงประชามติไปหมาดๆ ในหมวดที่ว่าด้วยเรื่องสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย
มาตรา ๔๑ บุคคลและชุมชนย่อมมีสิทธิ
(๑) ได้รับทราบและเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะในครอบครองของหน่วยงานของรัฐตามที่กฎหมายบัญญัติ
(๒) เสนอเรื่องราวร้องทุกข์ต่อหน่วยงานของรัฐและได้รับแจ้งผลการพิจารณาโดยรวดเร็ว
(๓) ฟ้องหน่วยงานของรัฐให้รับผิดเนื่องจากการกระทำหรือการละเว้นการกระทำของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ
เมื่อใดที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ประกาศใช้แล้ว เจ้าหน้าที่รัฐยังไม่เปลี่ยนแปลงการทำงานให้กระชับ ใส่ใจ รวดเร็ว เร่งรีบ รวบรัด ถูกต้องเรียบร้อยแล้วล่ะก็ คงถูกประชาชนใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญฟ้องร้องกล่าวโทษกันยกเข่งแน่
พุทธะอิสระ