ลูกชายช็อก พบพ่อผูกคอตายน้อยใจแม่หนีไปอยู่วัด
workpointTv 4 สิงหาคม 2559
อดีตคณะกรรมการชุมชนเครียดปัญหาครอบครัวและน้อยใจเมียไปอยู่วัดธรรมกายตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตคาบ้านทิ้งโน๊ตระบายความในใจ
เมื่อเวลา 18.00 น. ที่บ้านเลขที่ 61/6 หมู่ที่1 ใน ซ. สุขสวัสดิ์49 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นาย. สุกิจ ชุนวิมลศิริ อดีตคณะกรรมการชุมชนขุนศรีพัฒนาใช้เชือกสายลมสีเขียวผูกคอตัวเองกับขื่อบ้านชั้นล่างเสียชีวินทางเข้าห้องนอนของผู้ตาย
จากการสอบถาม นาย.ธรกฤต ชุนวิมลศิริ ลูกชายผู้ตายได้เล่าให้ฟังว่า พอกลับมาโรงเรียนเห็นในบ้านมือและเงียบผิดปกติ ตนเลยรีบเดินเข้าไปในบ้านแล้วพยามตะโกนเรียกพ่อแต่ไม่มีเสียงตอบกลับตนจึงไปดูที่ห้องพ่อเปิดผ้าม่านดูหันไปทางที่นอนของพ่อไม่เจอพยามหา แต่ต้องตกใจเมื่อหันไปเห็นพ่อผูกคอห้อยอยู่ข้างเสา ตนเลยตะโกนเรียกญาติที่บ้านอยู่ติดกันมาช่วยตัดเชือกแล้วเอาพ่อลงมาแต่ไม่ทันแล้วพ่อเสียชีวิตแล้ว
ส่วนสาเหตุในครั้งนี้ พักหลังพ่อเครียดไม่มีงานทำและค่าใช้จ่ายก็มีมากขึ้นค้าใช้จ่ายไม่เพียงพอ และยังมามีเรื่องแม่อีกที่ทุกวันนี้แม่ไม่ได้อยู่บ้านมาเกือบ 3 เดือนแล้ว ก่อนพ่อจะตายก็บ่นอยู่บ่อยๆ เรื่องแม่แบบน้อยใจแม่ ตนเลยไม่คิดว่าพ่อจะตัดสินใจแบบนี้
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุก็ไม่พบร่องรอยการต้อสู้และการรื้อค้นทรัพย์สินแต่อย่างใด พบเพียงสมุดและหลังตู้เสื้อผ้าเขียนข้อความตัดท้อและน้อยใจเมียที่ทิ้งลูกทิ้งผัวไปอยู่ที่วัดธรรมกาย และไม่ยอมกลับมาบ้านแต่ก็ยังติดต่อพุดคุยกันทางโทรศัพท์ โดยลูกชายบอกว่าที่แม่ไปอยู่ที่วัดธรรมกาย เพื่อช่วยเหลืองานที่วัดธรรมกายและยังลดค่าใช้จ่ายทางบ้านอีกด้วย
https://workpointtv.com/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%8…/
—————————————————-
ถอดข้อความจากสมุดบันทึกตัดพ้อของผู้ตาย
อุบาสิกาแก้ว
คนสองร่างสองวิญญาณ ทำแต่บุญ งานไม่ทำเอาบุญอย่างเดียว
อยู่วัดเป็นเทพธิดา มีแต่คนยกย่องว่าเป็นคนพูดจาไพเราะอ่อนหวาน
ขยันขันแข็งทำงานทุกอย่างที่ขวางหน้า เป็นคนได้บุญมาก
กลับมาบ้านเปลี่ยนชุดขาวออกลายเป็นอสูรหน้านิ่วคิ้วขมวด
สามีพูดไม่เข้าหูทำงานไม่ได้ดังใจก็ด่าว่ากล่าวเหยียดหยามและพูดจาเสียดสีไม่ให้เกียรติสามี อย่างนี้ไปปฏิบัติธรรมเพื่ออะไร เสียเวลาเปล่า
คนที่ปฏิบัติธรรมและเข้าถึงธรรมเขาจะให้เกียรติสามีกันทุกคน มีปฏิบัติมาตั้งแต่พุทธกาลแล้ว
คนปฏิบัติธรรมเข้าถึงธรรมจะต้องคิดดี ปฏิบัติดี พูดดี จะอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ ภรรยาคือกำลังใจของสามี
เมื่อภรรยาปล่อยทุกอย่าง วางทุกสิ่ง ทิ้งครอบครัวไปอยู่วัด อย่างนี้บ้านครอบครัวก็พัง แล้วอย่างนี้จะได้บุญหรือ เอาแต่งานวัดงานบ้านไม่ทำ
ครอบครัวแก้ว ครอบครัวธรรมกาย ตายลูกเดียว
มึงทำถูกแล้วหรือ ทิ้งลูกทิ้งผัวไปอยู่วัด
ผัวมึงเลวจนมึงต้องหนีไปอยู่วัดเลยหรือ
—————————————————-
เหล่านี้คือกรณีตัวอย่างที่ลัทธิอลัชชีธรรมกายนี้มันทำลายสังคมไทย ทำลายครอบครัว ที่ต้องสูญเสียทั้งทรัพย์สินเงินทองและความสงบสุขพรั่งพร้อมของคนในครอบครัว
ไม่ใช่แค่รายเดียว มีเป็นร้อยๆ พันๆ ราย ที่มีสถานะบ้านแตก หมดเนื้อหมดตัว
แต่ก็พูดไม่ออก บอกใครก็ไม่ได้ เพราะตนดันไปหลงงมงายเสียเอง
บางครอบครัวเป็นหนี้เป็นสินถึงกับต้องย้ายบ้านหนี เพื่อไม่ให้สาวกลัทธิพวกนี้ไล่จิกไล่ตามทวงหนี้บุญที่ยังผ่อนชำระไม่หมด
พฤติกรรมชั่วร้ายแบบนี้ พวกกรรมการมหาเถรและเจ้าคณะปกครองหาได้สำเหนียกและรับรู้ไม่
กลับปล่อยปละละเลยให้พวกเผ่าพันธุ์อลัชชีย่ำยีพระธรรมวินัย ขายบุญขายสวรรค์ รีดไถ จนแพร่หลายขยายไปทั่วประเทศ
สร้างความเสียหายให้แก่พระธรรมวินัย เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศมาอย่างยาวนาน
ถึงเวลาแล้วท่านทั้งหลาย ถึงเวลาที่ต้องชำระสะสาง ล้างบางขจัดเภทภัยของพระธรรมวินัยและแผ่นดินได้แล้ว
ขืนปล่อยให้อลัชชีพวกนี้แพร่ขยายอิทธิพล ครอบงำทุกสังคมอยู่ต่อไป ก็อย่าหวังว่าพุทธบริษัทไทยจะได้เห็นพระสัทธรรมที่บริสุทธิ์บริบูรณ์เหลืออยู่ในแผ่นดินไทยนี้อีกเลย
เพราะลัทธิอลัชชีพวกนี้มันจ้องล้มล้างหลักธรรมวินัย หลักชัยของคนไทย และต้องการจะกินรวบประเทศไทยแบบเบ็ดเสร็จ ทั้งอาณาจักรและศาสนาจักร
พวกเราทุ่มเทต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เสียเลือดเสียเนื้อ พี่น้องบาดเจ็บล้มตายจนได้รัฐบาลคสช.มา
หากลัทธิอลัชชีชั่วนี้มันยังชูคอล่อลวงคนในแผ่นดินนี้อยู่ได้ สังคมไทยจะอยู่กันได้อย่างไร
คงต้องฝากท่านนายกเร่งปฏิรูปกิจการคณะสงฆ์และวงการพระพุทธศาสนากันเสียที
ไม่เช่นนั้น เชื้อชั่วอลัชชีคงได้แพร่กระจายให้สังคมไทยติดโรคอย่างที่เห็นๆ นี่ไม่รู้อีกกี่ราย
พุทธะอิสระ