ไหนๆ พูดถึงนักการเมืองแล้วก็ขอพูดให้มันสุดลิ่มทิ่มเมนกันไปเลย
อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เรื่องท่านนายกใช้มาตรา ๔๔ จัดการกับข้าราชการทุจริต ๖๐ ราย
และระงับการปฏิบัติหน้าที่ของรองคณบดีมหาสารคาม ๑ ราย
สั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สงขลา ๑ ราย
ระงับการทำหน้าที่ของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยไม่มีค่าตอบแทนอีก ๔๐ ราย
ข้าราชการและนักการเมืองท้องถิ่น นักการศึกษา ข้าราชการชลประทานบางคน
ทำให้ฉันนึกถึงจังหวัดนครปฐมของฉันขึ้นมาทันที
มีข่าวว่าป.ป.ช.กำลังสอบสวนผู้อำนวยการโรงเรียนถึง ๑๒ โรงเรียน บริษัทและห้างหุ้นส่วนจำกัดอีก ๓ แห่ง
นักการเมืองระดับชาติอีก ๑ คน
ทั้งหมดเจอข้อหากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
และความผิดตามพรบ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ ในโครงการสร้างสนามฟุตซอลของโรงเรียนในเขตจังหวัดนครปฐมจำนวน ๑๒ โรงเรียน
โดยใช้งบประมาณปี ๕๖ เรียกว่างบ ส.ส.
อนุมัติให้โรงเรียนละ ๒,๔๑๒,๕๐๐ บาท
ซึ่งทุกโรงเรียนต่างได้รับเงินงบประมาณดังกล่าวไปดำเนินการ
มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดคือ ล็อคสเปค ฮั่วประมูล ไม่ได้คุณภาพ และกินหัวคิว
เห็นท่านนายกใช้มาตรา ๔๔ จัดการกับพวกทุจริตโกงกินบ้านเมือง
จึงอยากเรียกร้องให้ท่านนายกลองส่งคนมาตรวจสอบหรือใช้มาตรา ๔๔ จัดการกับพวกทุจริตกินสนามฟุตซอลโรงเรียนในจังหวัดนครปฐมให้หน่อย
เพราะได้ข่าวว่ามีความพยายามจะวิ่งเต้น เจรจา เป่าคดี กันให้ฝุ่นตลบ
หากเรื่องที่ได้ยินมาเป็นเรื่องจริง
ก็น่าเป็นห่วงว่านโยบายกำจัดพวกทุจริตโกงกินบ้านเมืองของรัฐบาลชุดนี้ ดูท่าจะใช้ไม่ได้ผลกับจังหวัดนครปฐมเสียแล้ว
ขนาดเปิดเทคเปิดบาร์ห่างมหาลัยราชภัฏแค่ ๕๐๐ เมตร ยังเปิดได้เฉยเลย
แถมเปิดโต้รุ่งอีกตะหาก โดยมีครูอาจารย์เขาร้องเรียนมา
นี่แหละหนา ประเทศไทย
พุทธะอิสระ