พระเมธีธรรมาจารย์ – เจ้าคุณประสาร
เข้าใจ ลุกขึ้นยืน สามัคคี
กราบเรียนคณะสงฆ์ เจ้าคณะพระสังฆาธิการ พระภิกษุสามเณร ทุกรูป ทั้งที่อยู่ในประเทศและพระธรรมทูตในต่างประเทศทั่วโลก
ในนามองค์กรพุทธและภาคีเครือข่ายชาวพุทธทั่วประเทศ อยากกราบเรียนให้ทราบว่า บัดนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวงการคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาในประเทศไทยนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ
ไม่ปกติแน่นอน เหตุเพราะมีกลุ่มคนหลายกลุ่ม หลายพวกและหลากหลายอำนาจมารวมตัวกันเฉพาะกิจในการทำภารกิจพิเศษเพื่อไล่ต้อนคณะสงฆ์ให้จนมุม วิธีการเริ่มจากการสร้างเรื่อง สร้างสถานการณ์และสร้างเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงให้เห็นว่าพระสงฆ์และคณะสงฆ์มีแต่เรื่องเลวร้าย เลวร้ายมากจริงๆ แล้วก็ชี้โทษประจาน
จากนั้นก็โยนบาปนั้นๆ มาให้คณะสงฆ์โดยรวม แล้วประจานให้สังคมไทยมองเห็นว่าภายใต้การปกครองของคณะสงฆ์ในปัจจุบันล้วนประสบปัญหาด้านความเสื่อมถอยมากมาย จากนั้นก็ชี้นำว่าหากภาครัฐไม่เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยการปฏิรูปโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ทั้งระบบแล้ว โดยหากขืนปล่อยให้มีการปกครองกันเองแบบนี้ก็มีแต่ความเน่าเฟะ และมีแต่จะนำความเสื่อมมาสู่คณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา ดังนั้นแผนการทั้งหลายทั้งปวงของกลุ่มเหล่านี้จึงบังเกิดขึ้น
เกิดขึ้นเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อสร้างเรื่อง สร้างปัญหา เช่น เรื่องรถโบราณ เรื่องของ มส. เรื่อง พ.ร.บ.สงฆ์ เป็นต้น
สาระสำคัญพวกเขาที่กระทำการแบบนี้ก็เพราะมองว่า พระสงฆ์ คณะสงฆ์และชาวพุทธไม่มีพลัง ไม่มีความสามัคคีมากพอที่จะต่อต้านพวกเขาได้ โดยเฉพาะคณะสงฆ์นั้นเขามองว่าอ่อนแอมาก ถูกด่าทอประณามหยามเหยียดตั้งแต่สูงลงมาถึงล่างก็ไม่มีปากมีเสียง ยังคงนิ่งสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วันนี้ ผมอยากกราบเรียนพระสงฆ์ทั่วประเทศและที่เป็นพระธรรมทูตอยู่ทั่วทุกมุมโลกว่า ได้โปรดตื่นได้แล้ว ตื่นได้แล้วครับ
ตื่นๆๆ อย่ามัวหลับใหลอยู่เลย ประมุขสงฆ์ องค์กรสงฆ์ พระสงฆ์ คณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาถูกย่ำยีอย่างหนัก ถูกย่ำยีอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน เราจะนิ่งดูดายต่อไปแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
ขอทุกรูปได้โปรดกรุณา ปฏิบัติ ดังนี้
1.ลุกขึ้นมาสนใจศึกษาปัญหาที่กระผมพูดมานี้ให้เข้าใจลึกซึ้ง ให้เข้าใจว่านี่เป็นปัญหาโดยรวมของคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ปัญหาระดับปัจเจกบุคคลอีกต่อไป
2.ลุกขึ้นมายืนเป็นพลังกันทั้งประเทศ ทั้งในประเทศและทั่วโลก เมื่อทุกรูปเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งแล้ว ให้รวมกลุ่มกันให้เข้มแข็ง มีพลังในทุกอณูส่วนที่มีพระสงฆ์ โดยให้ทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อพิทักษ์ปกป้องคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา ทำทั้งในระดับชุมชน ท้องถิ่นและระดับชาติ
3.องค์กรพุทธและภาคีเครือข่าย ขอเป็นสะพานเชื่อมโยงให้ถนนทุกสายมุ่งหน้ามาเจอกันเมื่อมีงานใหญ่ในการพิทักษ์ปกป้องคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา ได้โปรดรอฟังสัญญาณ
หลายรูป หลายกลุ่ม หลายองค์กร ตื่นแล้ว พวกเราจึงร่วมกันทำงานเชื่อมโยงสัมพันธ์กันอยู่อย่างชนิดเหนียวแน่นไม่คลอนแคลน แต่สำหรับท่านที่ยังไม่ตื่น ยังสะลึมสะลือหรือยังหลับใหลอยู่ ได้โปรดตื่นได้แล้ว ตื่นเถิดครับ พวกเรามีภัยรอบด้าน มีภัยมากจริงๆ อนาคตของพระพุทธศาสนาจะไปได้อีกนานแค่ไหนในประเทศนี้ และถ้าเราไม่ลุกขึ้นมาปกป้องพวกเรากันเองจะให้ใครมาปกป้องเรา
พวกเราต้องตื่นขึ้นมาช่วยกันครับ
ตื่นเถิด สามัคคีกันเถิดชาวพุทธ
พระเมธีธรรมาจารย์
24 กรกฎาคม 2559
#เจ้าคุณประสาร
บทความ ๖ ข้อ ครั้งก่อน ๓ ข้อ ครั้งนี้ ก็เกินพอที่จะนอนคุกแล้วนะเฮีย
เฮียรู้ไหมว่ากำลังจะละเมิดฝ่าฝืนคำสั่งคสช.และละเมิดกฎหมาย
———————————————–
ฝ่าฝืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๙๗/๒๕๕๗ เรื่อง การให้ความร่วมมือต่อการปฎิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ กำหนด “ให้บุคคลอื่นใดงดเว้นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะ ดังต่อไป
นี้(๕) ข้อมูลข่าวสารที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิความแตกแยกในราชอณาจักร
ฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๐๙ ถึง ๒๑๔
มาตรา ๒๐๙ ผู้ใดเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการ และมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้า ผู้จัดการหรือผู้มีตำแหน่งหน้าที่ ในคณะบุคคลนั้น ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่ เกินสองหมื่นบาท
มาตรา ๒๑๐ ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด อย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้ และความผิดนั้นมี กำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐาน เป็นซ่องโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่น บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าเป็นการสมคบเพื่อกระทำความผิด ที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวาง โทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท
มาตรา ๒๑๑ ผู้ใดประชุมในที่ประชุมอั้งยี่หรือซ่องโจร ผู้นั้นกระทำ ความผิดฐานเป็นอั้งยี่หรือซ่องโจร เว้นแต่ผู้นั้นจะแสดงไว้ว่าได้ประชุม โดยไม่รู้ว่าเป็นการประชุมของอั้งยี่หรือซ่องโจร
มาตรา ๒๑๒ ผู้ใด
(1) จัดหาที่ประชุมหรือที่พำนักให้แก่อั้งยี่หรือซ่องโจร
(2) ชักชวนบุคคลให้เข้าเป็นสมาชิกอั้งยี่หรือพรรคพวกซ่องโจร
(3) อุปการะอั้งยี่หรือซ่องโจรโดยให้ทรัพย์ หรือโดยประการอื่น หรือ
(4) ช่วยจำหน่ายทรัพย์ที่อั้งยี่หรือซ่องโจรได้มาโดยการกระทำ ความผิด
ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่หรือ ซ่องโจรแล้วแต่กรณี
มาตรา ๒๑๓ ถ้าสมาชิกอั้งยี่หรือพรรคพวกซ่องโจรคนหนึ่งคนใดได้ กระทำความผิดตามความมุ่งหมายของอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้น สมาชิก อั้งยี่หรือพรรคพวกซ่องโจรที่อยู่ด้วยในขณะกระทำความผิด หรือ อยู่ด้วยในที่ประชุมแต่ไม่ได้คัดค้านในการตกลงให้กระทำความ
ผิดนั้น และบรรดาหัวหน้า ผู้จัดการหรือผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในอั้งยี่หรือซ่องโจร นั้น ต้องระวางโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้นทุกคน
มาตรา ๒๑๔ ผู้ใดประพฤติตนเป็นปกติธุระเป็นผู้จัดหาที่พำนักที่ ซ่อนเร้นหรือที่ประชุมให้บุคคลซึ่งตนรู้ว่าเป็นผู้กระทำความผิดที่บัญญัติ ไว้ในภาค 2 นี้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน หกพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดนั้น เป็นการกระทำเพื่อช่วยบิดา มารดา บุตร สามีหรือภริยาของผู้กระทำ ศาลจะไม่ลงโทษก็ได้
———————————————–
สงสัยงานนี้คงจะคุกยาวแล้วล่ะเฮีย
สรุปว่าเฮียกำลังปลุกระดมใช่ไหมเฮีย
เฮียกำลังส่งสัญญาณนัดรวมพลก่อการ สร้างความไม่สงบ เพื่อสยบคดีธัมมชโยและพวก รวมทั้งสมเด็จช่วง นายน้ำฝน ด้วยใช่ไหมเฮีย
หากเฮียรวบรวมจำเลยที่นุ่งห่มเหลืองได้ครบทุกคดีที่เกิดขึ้นในเวลานี้
เฮียน่าจะมีแนวร่วมได้มากโขอยู่นะเฮีย
นอกจากได้จำนวนแนวร่วมเยอะขึ้นแล้ว เฮียยังเบิกค่าหัวเพิ่มขึ้นด้วยนะเฮีย
นี่คงเป็นมุขดับเครื่องชนของพวกเฮียแล้วกระมัง เพราะเล่นมาทุกมุขแล้วไม่เวิร์ค เลยต้องใช้มุขนี้
ดูท่างานนี้ไม่ใช่งานธรรมดาเสียแล้วล่ะเฮีย คงเป็นงานใหญ่ระดับกองทัพ
ไม่ใช่เฮียมากันเป็นกองทัพนะ เพราะเท่าที่รู้ ก็เห็นจะมีแต่ลิ่วล้อของเฮียที่อยู่สถาบันเดียวกันเท่านั้นที่จะออกมา
แต่สิ่งที่เฮียและพวกกำลังก่อการอยู่นี้คงเป็นที่น่าสนใจของกองทัพแน่เลยเฮีย
งานนี้ทหารเขาคงไม่ปล่อยให้พวกเฮียล็อคคอตีศอก ตอกเข่าเขาอีกแล้วล่ะเฮีย
ยังไงๆ เฮียคงเตรียมตัวเอาไว้แล้ว เห็นได้ข่าวว่ามีการโอนบ้าน โอนรถ โอนทรัพย์สิน ให้กับบุคคลใกล้ชิดไปเรียบร้อยแล้วมิใช่หรือเฮีย
ให้ไวๆ นะเฮีย รีบๆ หน่อย อะไรๆ มันจะได้ง่ายขึ้น เคนะเฮีย
พุทธะอิสระ