ปลาหมอตายเพราะปากแท้ๆ
๔ เมษายน ๒๕๕๙
เห็นข่าวเจ้าคุณพิพิธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสุทัศนเทพวราราม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว กรณีพุทธะอิสระมอบอำนาจให้ทนายฟ้องเรียกค่าเสียหาย ๑๐ ล้านบาท ในความผิดฐานละเมิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๔๒๐
แล้วเจ้าคุณปากกล้าขาสั่นหาเรื่องใส่ร้ายฉันยังให้สัมภาษณ์สื่อว่า ที่ตนพูดคำว่าครึ่งคนครึ่งพระ ก็ไม่ได้หมายถึงพระพุทธะอิสระ แต่หมายถึงฆราวาสที่ชอบมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของพระ
ที่ระบุว่ามีการนำข้อความต่างๆ ไปเผยแพร่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทำให้พุทธะอิสระได้รับความเสียหาย
อาตมาเล่นโซเชียลไม่เป็น
หากมีคนนำไปเผยแพร่เป็นเรื่องของคนอื่น ไม่เกี่ยวข้องกับอาตมา
องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสว่า
“เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ” ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าเจตนาคือกรรม
พฤติกรรมในรอบปีที่ผ่านมา มันเป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่ามีเจตนาหรือไม่
เอาไว้ไปพิสูจน์กันในศาลดีกว่าเจ้าคุณ
ที่เจ้าคุณพูดว่า ปกติของสงฆ์ หากมีพระรูปใดทำผิด ใส่ร้ายป้ายสีพระรูปอื่นให้ได้รับความเสียหาย ต้องฟ้องไปยังคณะฝ่ายปกครอง เพื่อไกล่เกลี่ย
แล้วที่พรรคพวกเจ้าคุณประกาศลงอุกเขปนียกรรมเถื่อน ผิดธรรมผิดวินัย ผิดกฎหมาย
ทำไมไม่ส่งหนังสือฟ้องมายังเจ้าคณะปกครองสงฆ์และมหาเถระหละ ไปฟ้องนายกทำไม
แปลกใจจัง ทำไมตอนนี้ดันมาพูดว่า ต้องฟ้องไปยังคณะปกครองเพื่อไกล่เกลี่ยหละ
แล้วก่อนหน้านี้ทำไม เจ้าคุณไม่ฟ้องมายังเจ้าคณะปกครองของพุทธะอิสระหละ
ที่เจ้าคุณพูดว่า หากมีพระรูปใดทำผิดใส่ร้ายป้ายสีพระรูปอื่น แสดงว่าเจ้าคุณต้องการขอร้องให้พุทธะอิสระ ไปฟ้องเจ้าคณะปกครองเพื่อไกล่เกลี่ยใช่ป่ะ
งั้นพุทธะอิสระขอคิดดูก่อนแล้วกันนะ
ที่ท่านเจ้าคุณบอกว่า พุทธะอิสระว่าหรือตำหนิสมเด็จช่วง
ทำไมสมเด็จช่วงของเจ้าคุณไม่ฟ้องพุทธะอิสระ
ขอบอกเจ้าคุณให้รู้ว่า พุทธะอิสระไม่ใช่คนปากพล่อย จะว่า จะตำหนิใคร หากไม่มีหลักฐาน ไม่มีพยาน จะไม่ทำตัวเป็นพวกบ่างช่างยุเด็ดขาด
และที่เจ้าคุณบอกว่า สมเด็จช่วงไม่ฟ้องพุทธะอิสระเพราะไม่ใช่เรื่อง
คงไม่จริงล่ะกระมัง เพราะสมเด็จช่วงกลัวว่าถ้าฟ้องพุทธะอิสระแล้ว ความจริงที่ละเมิดพระธรรมวินัยและละเมิดกฎหมายของสมเด็จช่วงจะถูกเปิดเผยในชั้นศาลหรือเปล่า
ที่เจ้าคุณพูดว่า ไม่เคยว่าพุทธะอิสระ
ดูท่าเจ้าคุณจะเป็นคนความจำเสื่อมแน่เลย
เจ้าคุณจำคำพูดของตัวเองไม่ได้จริงๆ หรือ
หากจำไม่ได้ เอาไว้ไปฟังคำเบิกความในศาล เพื่อทบทวนความจำว่าเจ้าคุณให้ร้าย เหยียดหยามพุทธะอิสระอย่างไรบ้าง
เอ้าท่านทั้งหลาย ใครมีข้อมูลรายละเอียดที่เจ้าคุณเขาด่าพุทธะอิสระ ช่วยส่งไปให้เขาดูหน่ยเพื่อฟื้นความจำ
ส่วนที่กล่าวว่าการเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน ๑๐ ล้านบาท นั้นต้องดูด้วยว่า เจ้าคุณจะมีเงินมากพอหรือไม่
รวมถึงการตีค่าตัวถึง ๑๐ ล้านบาทนั้น เป็นไปได้หรือไม่
เหมือนเรื่องตลกที่เกิดขึ้นอีกเรื่องหนึ่งในคณะสงฆ์
ปัญหาเรื่องเงิน ที่จำเลยจะมีให้ตามคำสั่งศาลหรือไม่
ไม่ใช่หน้าที่ของโจทก์ เพราะเป็นอำนาจศาล
ส่วนจะเป็นเรื่องตลกอีกเรื่องของคณะสงฆ์หรือไม่
อันนี้มันขึ้นอยู่กับ ใครเป็นคนตลก
เมื่อมีคนตลกก็ต้องมีคนร้องให้ จริงไหมท่านเจ้าคุณ
ลองขึ้นศาลดู เดี๋ยวจะรู้ว่าจะตลกหรือร้องไห้
เอ้า..ขอบอกว่า ที่พุทธะอิสระฟ้องเจ้าคุณ เพราะทำตามการแนะนำของสำนักพุทธนะจ๊ะ
พุทธะอิสระ
…………………………………………….
(ขอบคุณข่าวจากมติชน)
https://www.matichon.co.th/news/93481
เจ้าคุณพิพิธปัดว่า’พุทธะอิสระ’ ครึ่งคนครึ่งพระ
เมื่อวันที่ 2 เมษายน พระราชวิจิตรปฏิภาณ หรือเจ้าคุณพิพิธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พระพุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม มอบหมายให้นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความยื่นฟ้องฐานละเมิดด้วยการกล่าวไขข่าวให้เสียหายด้วยข้อความอันทำให้ประชาชนรู้สึกดูหมิ่นพระพุทธะอิสระ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังเหตุการณ์ชุมนุมของพระสงฆ์ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม คำให้สัมภาษณ์เปรียบเทียบพระพุทธะอิสระมีลักษณะครึ่งคนครึ่งพระ ส่งผลให้มีการนำไปเผยแพร่กันทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูบ และวิพากษ์วิจารณ์จนได้รับความเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 พร้อมเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาทว่า หากศาลรับฟ้องต้องไปตามหมายเรียกของศาล แต่คำว่า “ครึ่งคนครึ่งพระ” ก็ไม่ได้หมายถึงพระพุทธะอิสระ แต่หมายถึงฆราวาสที่ชอบมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของพระ ที่ระบุว่ามีการนำข้อความต่างๆ ไปเผยแพร่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทำให้พระพุทธะอิสระได้รับความเสียหาย อาตมาเล่นโซเชียลไม่เป็น หากมีคนนำไปเผยแพร่ เป็นเรื่องของคนอื่น ไม่เกี่ยวข้องกับอาตมา
“ปกติของสงฆ์ หากมีพระรูปใดทำผิด ใส่ร้ายป้ายสีพระรูปอื่นให้ได้รับความเสียหาย ต้องฟ้องไปยังคณะฝ่ายปกครอง เพื่อไกล่เกลี่ย ซึ่งในทางพระวินัยจะมีข้อปฏิบัติอยู่แล้ว เปรียบเทียบกับกรณีที่ท่านว่าสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ปาราชิก ทำไมท่านไม่ฟ้อง เพราะท่านคิดว่า ไม่ใช่เรื่อง ดังนั้นหากศาลมีหมายเรียกมา อาตมาต้องไปตามหมายศาล แต่คงไม่หาทนายมาต่อสู้อะไร เพราะไม่เคยว่าพุทธะอิสระ และไม่เคยขึ้นศาลในฐานะจำเลย เคยแต่เข้าไปบรรยายธรรมะ” เจ้าคุณพิพิธกล่าว และว่า การเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 10 ล้านบาทนั้นต้องดูด้วยว่า ผู้ถูกเรียกมีเงินมากพอหรือไม่ รวมถึงการตีค่าตัวเองถึง 10 ล้านบาทนั้น เป็นไปได้หรือไม่ เหมือนเรื่องตลกๆ ที่เกิดขึ้นอีกเรื่องหนึ่งในคณะสงฆ์ จะทำให้เกิดความแตกแยก หรือสดชื่นขึ้น ตรงนี้ต้องไปคิดเอาเอง
นายเมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ เลขาธิการสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่องค์กรพุทธฯจะนำรายชื่อที่รวบรวมมากว่า 60,000 รายชื่อ นำไปยื่นกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เสนอให้ปลดตำแหน่งหรือย้าย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่าก่อนหน้าที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางไปที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่มีการปลดหรือย้าย พล.อ.ไพบูลย์แต่อย่างใด ไม่ว่าจะมีการยื่นรายชื่อมากก็ตาม ดังนั้น ทางองค์กรพุทธฯกำลังเตรียมหารือในเรื่องดังกล่าว เพื่อกำหนดท่าทีและแนวทางการเคลื่อนไหวอีกครั้ง