บทความ
สังฆราชของกู กูต้องได้ ใครก็อย่าขวาง
๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
ขอวิจารณ์ข้อเรียกร้องของบรรดา อาเฮีย อาเสี่ยทั้งหลายหน่อยนะจ๊ะ
เฮียเมธีได้ยื่นหนังสือให้แก่รัฐบาลโดยมีคุณประวิตร วงศ์สุวรรณมารับ โดยประกอบด้วย ๕ ข้อเรียกร้อง
๑. ห้ามหน่วยงานภาครัฐ เข้ามาก้าวก่ายเรื่องทางสงฆ์ ขอให้ทำหน้าที่อุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา ตามแบบอย่างบรรพบุรุษไทย
ตอบข้อ ๑
สงสัยว่าบรรดาอาเฮียอาเสี่ยทั้งหลายจะเกรงกลัวเจ้าหน้าที่รัฐจะเข้ามาสืบสวนสอบสวนและเจอความเน่าในของคณะสงฆ์
ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้สืบสวนสอบสวนเรื่องคดีรถหรู แล้วไปเจอแจ๊คพอตว่า สมเด็จช่วงและภิกษุบางรูปเข้ามามีส่วนพัวพันในคดีนี้ด้วย
หรือไม่ก็กลัวว่าพวกสมาคมปาราชิกจะถูกเปิดโปงจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ
๒. ขอให้รัฐบาลยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติอันดีงาม ที่กระทำสืบกันมา คือการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการปกครองคณะสงฆ์ ทางรัฐบาลจะต้องปรึกษาและได้รับความเห็นชอบจากมหาเถรสมาคม (มส.) ก่อน
ตอบข้อ ๒
ตอบเฮียว่า ธรรมเนียมปฏิบัติอันดีงามที่ยึดถือกันมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล คือการยอมรับกันโดยคุณธรรมและอายุพรรษา
ธรรมเนียมปฏิบัติอันดีงามตามหลักธรรมวินัยคือ ภิกษุผู้มีสังวาสอันเสมอกันได้ด้วยเพราะมีศีลบริสุทธิ์เสมอกัน จะได้ไม่ตั้งข้อรังเกียจกันและกัน จึงจะมีสังวาสสังคมอันอยู่ร่วมกันได้ มีทิฏฐิความเห็นอันเสมอเหมือนกัน คือเห็นว่าสรรพสัตว์ล้วนตกอยู่ในอำนาจกฎของกรรม เห็นตามหลักอริยสัจ ๔ และเห็นในหลักอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เหมือนกัน
อีกทั้งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ยึดถือกันมา ๒,๕๐๐ กว่าปี ว่าภิกษุในธรรมวินัยนี้ต้องปฏิบัติตามหลักธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ซื่อตรง เทิดทูนบูชาดุจดังองค์พระบรมศาสดา
เหล่านี้คือธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาช้านาน ๒,๕๕๙ ปี
๓. ขอให้นายกฯ ยึดถือดำเนินการตามมติ มส. ที่มีการเสนอสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เป็นสมเด็จพระสังฆราช
ตอบข้อที่ ๓
แล้วพระวินิจฉัยของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ผู้ปกครองสงฆ์ทั้งคามวาสีและอรัญวาสี ไม่ต้องยึดถือดำเนินการหรืออย่างไร
รวมความว่า ที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางกันครั้งนี้ก็เพื่อสนองตัณหาของพวกตนเท่านั้นใช่ไหม?
โดยไม่สนใจว่าพระธรรมวินัยบัญญัติเอาไว้อย่างไร
๔. ขอให้ทางรัฐบาลสั่งเป็นนโยบายให้หน่วยราชการปฏิบัติต่อคณะสงฆ์ด้วยความเคารพ เอื้อเฟื้อ ไม่ข่มขู่คุกคามคณะสงฆ์ด้วยการใช้กฎหมาย
ตอบข้อที่ ๔
หากภิกษุสงฆ์เป็นผู้ทรงศีลสิกขา สมาธิสิกขา ปัญญาสิกขา ถูกตรงต่อสมณสารูป เจ้าหน้าที่ที่ไหนเขาจะไม่เคารพ
การที่เจ้าหน้าที่ทำตามหน้าที่ ตามกฎหมาย เรียกว่าเป็นการข่มขู่คุกคามอย่างนั้นหรือเฮีย
ก็เพราะพวกเฮียชอบใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายกันจนเป็นสันดานนี่แหละ จึงสมควรถูกดัดสันดานเสียบ้าง จะได้หลาบจำ
๕. ขอให้บรรจุพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ
ตอบข้อที่ ๕
ภาพที่นักบวชห่มเหลืองรุมล้อมทหาร ล็อคคอทหาร แย่งชิงรถทหาร กระโดดขึ้นไปขับรถทหาร ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการ เป็นพฤติกรรมใช้กำลังข่มขู่คุกคามประทุษร้าย เป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายข่มขู่คุกคาม ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๘
“ผู้ใดต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการต่อสู้หรือขัดขวางนั้น ได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
เช่นนี้คือเหตุผลของการบรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติกระนั้นหรือ
นี่ถ้าหากในเวลานั้นเจ้าหน้าที่เขาออกมาปฏิเสธข้อเรียกร้อง พวกเฮียไม่ฆ่าหรือทำร้ายเขาปางตายหรอกหรือ
สรุปรวมความว่า ไอ้ที่เรียกร้องมา ๕ ข้อ ไม่เห็นมีข้อไหนจะทำให้พระธรรมวินัยแข็งแรงเลย
มีแต่พวกเฮีย และญาติของเฮีย แข็งแรงขึ้นเท่านั้น
ถามจริงเถิด พวกเฮียบวชเข้ามาเพื่อ ยศ อำนาจ ทรัพย์ ลาภ กระนั้นหรือ
พวกเฮียทั้งหลายอาจลืมไปว่า พระเจ้าอยู่หัวยังทรงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญปกครองประเทศเลยนะเฮีย
แล้วพวกเฮียมาจากไหนถึงได้ยิ่งใหญ่ขนาดประกาศเรียกร้องไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐมาใช้กฎหมายกับพวกเฮีย
ย้ายไปอยู่ เขมร หรือ ลาว พม่า หรือ สหรัฐฯ ดีกว่าไหมเฮีย
พุทธะอิสระ