ลูกรัก เจ้าจักสำคัญความนี้เป็นไฉน ? (ตอนที่ 20) บริวารของสัญชีวมหานรก ขุมที่ 12 มีชื่อว่า อยพลิสนรก

0
8

ลูกรัก เจ้าจักสำคัญความนี้เป็นไฉน ? (ตอนที่ ๒๐)
๕ ธันวาคม ๒๕๖๘

มหานรกขุมใหญ่สุดทั้ง ๘ ขุม เราท่านทั้งหลายได้ทำความรู้จักกันไปในเบื้องต้นแล้ว

ครานี้ลูกก็ลองมาทำความรู้จักนรกบริวารของมหาสัญชีวนรกซึ่งมีบริวารขุมที่ ๑๒ ที่ชื่อว่า อยพลิสนรก กันดูบ้าง

อยพลิสนรก หมายถึง นรกตะขอเหล็กหรือนรกเบ็ดเหล็ก

ภูมิลักษณะของนรกขุมนี้มีบรรยากาศเป็นดังบ้าน ดังเมือง ที่มีผู้คนอยู่กันอย่างแออัดหนาแน่น ทั้งยังมีชีวิตดำรงอยู่กันอย่างปกติ ทำมาหากินกันแบบปากกัดตีนถีบกันไปต่างๆ สาขาอาชีพ มีบ้านมีครอบครัว มีลูก มีผัว มีเมีย มีพ่อ มีแม่ ดุจดังเมืองมนุษย์ แต่สมาชิกทั้งหมดของครอบครัว ล้วนเป็นคนบาปที่มีส่วนร่วมรู้เห็นการทำชั่วผิดบาปกันทั้งบ้านเมือง

ต่างกันตรงที่ในแต่ละครอบครัวจักมีนายนิรยบาลแปลงกายเข้าไปปลอมปนอยู่ในแต่ละบ้าน แต่ละเมือง แต่ละชุมชน แต่ละตำบล เพื่อคอยจับผิดว่า ชนเหล่าใดกระทำการทุจริต คดโกง ฉ้อราษฎร์บังหลวง ยักยอก ซ่อนเร้น ปิดบังอำพราง เอารัดเอาเปรียบ มีจิตคิดจะถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นที่เขามิได้ให้ ซ้ำรอยเดิมขึ้นมาอีก

หากมี พวกนายนิรยบาลเหล่านั้นก็จักปรากฏตัว แล้วกระทำการจับกุมเอาตะขอเหล็กที่เผาไฟจนสุกแดงก่ำ สับเข้าไปที่ปากให้เปิดอ้าออก แล้วใช้เบ็ดที่มีขนาดใหญ่เท่าเคียวเกี่ยวข้าวสับเข้าไปที่ลิ้น แล้วออกแรงดึงลากลิ้นให้ออกมาพ้นริมฝีปาก

นายนิรยบาลนั้นจึงออกแรงใช้ตะขอเหล็กที่เกี่ยวปากของชนนั้นพร้อมกับดึงเบ็ดที่เกี่ยวลิ้น แล้วพากันฉุดกระชากลากไปตามพื้นหินที่มีหนามดังหนามทุเรียน ฉุดกระชากลากไปเช่นนี้จนกว่าหนังและเนื้อของสัตว์ตนนั้นจะหลุดออกจนเหลือแต่กระดูกแล้วตายลง

ต่อมาจึงมีลมชีวะ พัดมาต้องกระดูกของสัตว์ตนนั้นจึงฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่ แล้วได้กลับไปอยู่ในบ้านและครอบครัวเดิม โดยที่จดจำเหตุการณ์ ความทุกข์ยากทรมานที่ถูกนายนิรยบาลลงทัณฑกรรมมานั้นมิได้

แม้ในขณะที่นายนิรยบาลเข้าจับตัวใช้ตะขอเกี่ยวเปิดปากและใช้เบ็ดเหล็กอันใหญ่เท่าเคียว ที่ลุกแดงฉาน เกี่ยวลากลิ้นออกมานอกปาก

เหตุการณ์ทัณฑกรรมดังกล่าวมานี้ก็มิได้มีสัตว์ตนใดได้มองเห็น รู้แต่เพียงว่า สมาชิกของครอบครัวตนได้หายไป แล้วอยู่ๆ ก็กลับมา

ผู้คนที่มาเกิดรวมเป็นครอบครัวของสัตว์ผู้ถูกทัณฑกรรมล้วนเคยเป็นผู้ที่ได้มีส่วนร่วมรู้เห็น และได้รับผลประโยชน์ต่อการทุจริต คดโกง ฉ้อฉล คอร์รัปชันในทรัพย์ของผู้อื่นทั้งนั้น หากขืนกระทำชั่วผิดบาปขึ้นมาอีก ก็จักต้องถูกนายนิรยบาลจับตัวมาลงโทษตามลำดับแห่งเจตนา และการได้รับประโยชน์ด้วยความยินดีในทรัพย์ของผู้อื่น

ถามว่า หากสมาชิกของครอบครัวสัตว์นรกขุมนี้ มิได้ทำความผิดซ้ำขึ้นมาอีกเล่า เช่นนี้ก็จักถือว่า มิต้องได้รับโทษทัณฑกรรมที่เคยทำมาในอดีตใช่หรือไม่

ตอบว่า เป็นไปได้ยาก ด้วยเพราะสัตว์นรกขุมนี้ เกิดมาก็มีชีวิตอยู่ด้วยความอดอยาก ทุกข์ยาก แร้นแค้น หากพวกเขาเห็นโอกาสที่จัดได้มาซึ่งอาหาร และทรัพย์ ไม่ว่าจะได้มาด้วยความถูกหรือผิด พวกเขาก็ต้องรีบฉกฉวยโอกาสทุจริต คดโกง ยื้อแย่ง สับเปลี่ยน เบียดบัง เอาอาหารและทรัพย์นั้นมาจนได้

และหากมีสัตว์นรกบางตนยินยอมที่จักอดตาย โดยไม่คดโกง ยื้อแย่งอาหารและทรัพย์ของผู้อื่น เช่นนี้ก็ถือว่า สัตว์นรกตนนั้นจักหลุดพ้นจากอยพลิสนรกขุมนี้ทันที

รวมความว่า การได้มีโอกาสไปเกิดในนรกขุมนี้ ก็เพื่อทดสอบว่า ผู้ที่มีส่วนร่วมรู้เห็นและได้รับประโยชน์จากการคดโกง ทุจริต ยักยอก เบียดบัง ซ่อนเร้น อำพราง ทรัพย์สมบัติของผู้อื่น จักยังมีสามัญสำนึก ละอายชั่ว เกรงกลัวบาปอยู่หรือไม่

หากมีความละอายชั่ว เกรงกลัวผลของบาป โดยยินยอมดิ้นรนขวนขวายหาอยู่หากินด้วยความสุจริต ถึงแม้มันจะอัตคัดขัดสน ฝืดเคือง แร้นแค้น จนสุดแสนจะทุกข์ทรมาน จนอดอยากปากแห้งตาย ก็จักไม่ยอมประพฤติทุจริต ผิดศีลธรรม และกฎหมาย

เช่นนี้สัตว์นรกขุมนี้ ก็จักสามารถหลุดพ้นจากอยพลิสนรกไปได้โดยดี

แต่หากยังเห็นแก่กิน เห็นแก่ใช้ ปล่อยชีวิตให้ตกอยู่ในวังวนแห่งความละโมบโลภอยากได้ จนต้องไปคดโกง ยักยอก ซ่อนเร้น ปิดบังอำพราง เอาทรัพย์ของผู้อื่นอีก

เช่นนั้นก็จักต้องถูกนายนิรยบาลที่ซ่อนเร้นอยู่ในบ้าน ในตำบล ในเมืองเข้าจับกุมใช้ตะขอเหล็กสับปากให้อ้า แล้วใช้เบ็ดใหญ่เท่าเคียวที่ถูกเผาจนร้อนแดงฉาน สับเข้าไปที่ลิ้น พร้อมกับลากตัวไปตามท้องถนนที่เต็มไปด้วยขวากหนามทิ่มแทง เกี่ยวหนังและเนื้อจนฉีกขาดหลุดลุ่ยออกมา เลือดไหลอาบบนถนนจนแดงฉานเป็นทาง

และเมื่อเนื้อและเอ็นชิ้นสุดท้ายหลุดอกไปจนเหลือแต่กระดูก สัตว์นรกตนนั้นก็สิ้นใจตาย แล้วก็มีลมชีวะ พัดมาต้องกระดูกที่ถูกทิ้งอยู่กลางถนน สัตว์นรกตนนั้นก็ฟื้นคืนชีวิตขึ้นมา แล้วเดินกลับไปหาครอบครัว และแล้วก็เริ่มขบวนการแห่งกรรมสืบต่อไปจนกว่าจะสิ้นกรรม

ถามว่า แล้วอะไรเล่าที่จักทำให้เหตุแห่งกรรม ไม่เกิดขึ้นแก่ตน

ตอบง่ายๆ ไม่ต้องคิดแยะ คือ ก็อย่าโกงซิ อย่าทุจริต อย่ายักยอก อย่าสับเปลี่ยน อย่าเบียดบังเอาทรัพย์ของผู้อื่น และอย่าทำตนให้เป็นคนละโมบเกิดเหตุ

คาถาที่ป้องกันนรกขุมนี้ คือ

หิริ ความละอายชั่ว
โอตตัปปะ ความเกรงกลัวบาป

ความเชื่อกรรมในกฎของกรรม เชื่อว่าทำกรรมเช่นไรก็จักได้รับผลเช่นนั้น

พุทธะอิสระ

——————————————–

อ่านย้อนหลัง : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid02g7XuVVbjs1jN3H4bG7gjGoBfMtZstaCYsKpX2qAuqjr6U2z8BbYq31JTWbas47Stl

——————————————–

My dearest children, what do you think of this message? (Part 20)

Buddha Isara

——————————————–

Previous article : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid02g7XuVVbjs1jN3H4bG7gjGoBfMtZstaCYsKpX2qAuqjr6U2z8BbYq31JTWbas47Stl