จับสึก”ธัมมชโย”…อนาคตความเป็นพระในมือDSI ตามพ.ร.บ.สงฆ์…ไม่ให้ประกันเท่าต้องจับสึก
23 พฤษภาคม 2016
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 พ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร ร่วมกันแถลงผลการประชุมหารือของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ว่า ในวันนี้คณะพนักงานสอบสวนได้มีเรื่องพิจารณา 3 เรื่อง คือ 1.พิจารณากรณีการออกใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี จ.ราชบุรี ซึ่งในประเด็นนี้คณะพนักงานสอบสวนได้ตั้งคณะทำงานสืบสวนขึ้นใหม่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบในส่วนนี้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาทำงาน 2 สัปดาห์ 2.พิจารณาข้อความที่ทางวัดพระธรรมกายได้แถลงต่อสื่อมวลชน รวมถึงความเห็นต่างๆ เนื่องจากเรื่องนี้พนักงานสอบสวนเห็นว่าบางข้อความอาจเป็นเรื่องที่เข้ากับฐานความผิดหมิ่นประมาท จึงมีความเห็นตั้งคณะทำงานขึ้นอีกคณะ เพื่อพิจารณาและดำเนินการ โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณา 2 สัปดาห์เช่นกัน และ 3.การดำเนินการกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในส่วนนี้ทางคณะพนักงานสอบสวนยังยืนยันในวันที่ 26 พ.ค.นี้ เนื่องจากศาลอาญาได้ออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวต่อว่า ขั้นตอนการดำเนินการของดีเอสไอจะยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83 และมาตร 84 ซึ่งการแจ้งข้อกล่าวหาจะต้องทำการที่ดีเอสไอเท่านั้น ทั้งนี้ หากในวันที่ 26 พ.ค.นี้ พระธัมมชโยไม่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา เราก็จะมีการประชุมกำหนดมาตรการในวันที่ 27 พ.ค.นี้ พร้อมทั้งจะขอความร่วมมือจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้ามาช่วยดูในเรื่องของพ.ร.บ.สงฆ์ เกี่ยวกับวิธีขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ อย่างไรก็ตาม หากพระธัมมชโยมาตามที่นัดหมายไว้ พนักงานสอบสวนยินดีจะให้ประกันตัว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีวัดพระธรรมกายได้ถ่ายทอดสดภาพพระธัมมชโยกำลังเข้ารับการรักษาจากแพทย์ ดีเอสไอได้นำเรื่องนี้มาพิจารณาด้วยหรือไม่ พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า ในส่วนนี้ทางวัดพระธรรมกายยังไม่ได้ส่งข้อมูลหรือหนังสือมาให้กับดีเอสไอ เราจึงยังไม่ได้นำเข้ามาพิจารณาในที่ประชุมครั้งนี้ ส่วนกรณีที่ทางวัดพระธรรมกายต้องการให้คณะพนักงานสอบสวนเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาที่วัดพระธรรมกายในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ขณะนี้ทางวัดยังไม่มีหนังสือมาถึงดีเอสไอแต่อย่างใด
“เราไม่ได้เถียงว่าหลวงพ่อธัมมชโยไม่ได้เจ็บป่วย แต่คณะพนักงานสอบสวนมองว่าหลวงพ่อธัมมชโยสามารถที่จะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ ดังนั้น ดีเอสไอจึงยืนยันในวันที่ 26 พ.ค.นี้อยู่ ส่วนกรณีการนำแพทย์เข้าไปตรวจอาการอาพาธของหลวงพ่อธัมมชโยที่วัดพระธรรมกายนั้น ขณะนี้เลยขั้นตอนดังกล่าวแล้ว เพราะขั้นตอนการนำแพทย์เข้าไปตรวจ จะอยู่ในขั้นตอนก่อนที่พนักงานสอบสวนจะขอหมายจับจากศาล เราจึงไม่อยากไปก้าวล่วงในคำสั่งของศาล จึงจะไม่นำแพทย์เข้าไปตรวจ” รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าว
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของใบรับรองแพทย์นั้น ทางโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี จ.ราชบุรี ได้แจ้งมายังดีเอสไอแล้วว่า พระธัมมชโยไม่เคยเข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลดังกล่าวเลย ดังนั้น เราจึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้น เพื่อสืบสวนในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ การดำเนินการในขั้นตอนแรกเราจะประสานไปยังโรงพยาบาลเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการออกใบรับรองแพทย์ต่างๆ และตราประทับที่ปรากฎอยู่ ซึ่งเราจะดูจากขั้นตอนปกติก่อน จากนั้น จึงจะพิจารณาในส่วนอื่น อย่างไรก็ตาม การจะเรียกผู้ลงนามในใบรับรองแพทย์นั้น อาจจะต้องเรียกมาสอบปากคำหลังจากที่ได้เราข้อมูลจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกลุ่มลูกศิษย์วัดพระธรรมกายเตรียมยื่นฟ้องดีเอสไอ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากที่ได้เชิญให้นแพทย์เข้าไปตรวจอาการอาพาธของพระธัมมชโย แต่ไม่ไป รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ส่วนนี้ทราบว่าได้มีการไปยื่นฟ้องต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และในประเด็นต่างๆดีเอสไอได้เตรียมข้อมูลที่จะชี้แจงกับป.ป.ช.แล้ว หากได้รับหนังสือแจ้งมาให้ไปชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งดีเอสไอสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากพระธัมมชโยมามอบตัวกับดีเอสไอ จะต้องลาสิกขา(สึก) จากการเป็นพระหรือไม่ พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า หากได้รับการประกันตัวไม่ต้องลาสิขา ทั้งนี้การสึกมีเพียงกรณีเดียวคือการนำตัวเข้าห้องควบคุม ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนทางพ.ร.บ.สงฆ์
ขอขอบคุณข่าวจาก tnews
https://headshot.tnews.co.th/content/190171/