รพ.ค่ายภาณุรังษี ตอกกลับ “ธัมมชโย” ไม่เคยมาตรวจ
19 พฤษภาคม 2016
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. แหล่งข่าวจากดีเอสไอ ระบุว่า ดีเอสไอทำงานตามขั้นตอนของกฎหมายการขอศาลออกหมายจับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร โดยดำเนินการ 6 ข้อ คือ 1.สืบเนื่องจากพนักงานสอบสวนได้ ดำเนินการตามที่มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ จากนั้น พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีทั้งพนักงานอัยการ และที่ปรึกษาคดีพิเศษ หลังจากได้รับเรื่องร้องทุกข์ กระทั่งนำไปสู่การดำเนินคดี เนื่องจากมีพยานหลักฐาน และนำไปสู่การออกหมายจับดังกล่าว
รายงานแจ้งต่อว่า 2.เมื่อนำข้อเท็จจริงที่ได้ไปเสนอศาล ซึ่งศาลได้วิเคราะห์แล้วน่าเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะกระทำผิดจริง ศาลจึงพิจารณาอนุมัติออกหมายจับดังกล่าวให้ 3.การที่กลุ่มลูกศิษย์วัดพระธรรมกายมีการนำข้อมูลไปเผยแพร่สู่สาธารณชน หรือปลุกระดม โดยทำให้เชื่อว่าพระธัมมชโยไม่ได้ผิดจริง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกล่าวหาคณะพนักงานสอบสวน และศาล เพราะการที่ศาลอนุมัติหมายจับนั้น ได้พิจารณาจากพยานหลักฐานอย่างถี่ถ้วนแล้ว ดังนั้น ศาลอาจพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายการละเมิดอำนาจศาลได้
4.หากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่พบพระธัมมชโย ก็สามารถดำเนินการจับกุมได้ทันที เนื่องจากพระธัมมชโยถูกศาลออกหมายจับแล้ว ทั้งนี้ ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองพบและไม่ดำเนินการจับกุม อาจเข้าข่ายผิดมาตรา 157 ได้ 5.การที่กลุ่มลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย มีการระดมพลเดินทางไปร้องเรียนยังสถานที่ต่างๆ ทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดต่างๆ อาจเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล และ 6.การให้ร้ายเท็จ หรือกล่าวเท็จที่ไปแจ้งต่อ ป.ป.ช. หรือไปแจ้งตามสถานที่ต่างๆ ว่าคณะพนักงานสอบสวนได้กลั่นแกล้ง หรือกระทำการโดยมิชอบตามมาตรา 157 หรือมาตรา 200 กลุ่มบุคคลดังกล่าวอาจเป็นการกล่าวเท็จต่อเจ้าพนักงาน และเข้าข่ายละเมิดเจ้าพนักงาน อาจถูกฟ้องได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปกป้องศักดิ์ศรี เกียรติยศ และองค์กร
ขอขอบคุณข่าวจาก tnews
https://www.tnews.co.th/html/contents/189845/