‘บิ๊กต๊อก’ ลั่น จับ ‘ธัมมชโย’ ถึงวัด ถ้าไม่ ‘มอบตัว’

0
105

‘บิ๊กต๊อก’ ลั่น จับ ‘ธัมมชโย’ ถึงวัด ถ้าไม่ ‘มอบตัว’

22 พฤษภาคม 2016

220559-ทันเหตการณ์-‘บิ๊กต๊อก’-ลั่น-จับ-‘ธัมมชโย’-ถึงวัด-ถ้าไม่-‘มอบตัว’

เชื่อไม่รุนแรง วัดแจงไม่หนี! ลี้ภัย-ศิษย์ทํา

“บิ๊กต๊อก” รมว.ยุติธรรม ยืนยันหากธัมมชโยไม่ มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมาย จับในวันที่ 26 พ.ค. เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปจับใน วัดพระธรรมกายแน่นอน มั่นใจผู้รับผิดชอบวัดไม่ปล่อยให้เกิดความรุนแรง ขณะที่ ผอ.สำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ยันพระธัมมชโยไม่มีแผนหลบหนีไปต่างประเทศ ซ้ำประกาศขอตายที่วัด โบ้ยการล่ารายชื่อขอลี้ภัยประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องของลูกศิษย์ดำเนินการเพราะทนเห็นความอยุติธรรมไม่ได้

กรณีพระเทพญาณมหามุนี หรือธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ถูกศาลออกหมายจับในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ขีดเส้นตายให้มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับในวันที่ 26 พ.ค. ทำให้ทุกฝ่ายพยายามหาทางออกเรื่องนี้ตามกรอบกฎหมาย ท่ามกลางกระแสข่าวเหล่าลูกศิษย์เตรียมเคลื่อนไหวล่ารายชื่อให้ได้ 1 แสนรายชื่อ เพื่อเสนอถึงนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พิจารณาช่วยเหลือเรื่องขอลี้ภัย

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 21 พ.ค. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ศาลออกหมายจับธัมมชโยไปแล้ว มันเลยขั้นตอนของดีเอสไอ ไม่ทราบเรื่องลูกศิษย์ธัมมชโยไปยื่นเรื่องต่อประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเพื่ออะไร มันเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมข้อไหนที่ให้ทำแบบนั้นได้ เมื่อศาลออกหมายจับดีเอสไอก็ต้องจับ หากธัมมชโยไม่มาตามกำหนดภายในวันที่ 26 พ.ค. เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปจับในวัดแน่นอน การที่ดีเอสไอให้เวลาเพราะเห็นเป็นพระชั้นผู้ใหญ่มีสมณศักดิ์ทางสังคมและไม่คิดหนีออกนอกประเทศ ส่วนที่กลัวว่าหากดีเอสไอเข้าไปจับกุมที่วัดแล้วจะทำให้เกิดความรุนแรง เนื่องจากธัมมชโยมีลูกศิษย์ในวัดจำนวนมากนั้น เชื่อว่าเจ้าของพื้นที่ มัคนายก และผู้ดูแลวัดพระธรรมกายจะไม่ปล่อยให้เกิดความรุนแรงขึ้น หากมีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ต้องผิดกฎหมาย มั่นใจวัดพระธรรมกายคงไม่แย่ถึงขนาดนั้น เขาต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม เมื่อเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายและให้ความเป็นธรรมกับเขา ก็ต้องไปสู้กันในชั้นศาล ตอนนี้ต้องอดทนจะมาเร่งรัดให้ทำคดีเสร็จโดยเร็วไม่ได้

อีกด้าน พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย แถลงข่าวชี้แจงจากกรณีมีข่าวพระเทพญาณมหามุนี หรือธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เตรียมหลบหนีขอลี้ภัยไปประเทศสหรัฐอเมริกา ว่ายืนยันธัมมชโยไม่มีแผนหลบหนีไปต่างประเทศ เนื่องจากท่านอายุมากถึง 72 ปี ซ้ำอยู่ระหว่างอาพาธ รวมทั้งไม่มีหนังสือ เดินทางหรือพาสปอร์ต และไม่มีวีซ่าตลอดชีพของประเทศสหรัฐอเมริกา ตามข้อเท็จจริงท่านสร้างวัดพระธรรมกายมากว่า 47 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งสร้าง 2-3 ปี พอเกิดปัญหาแล้วจะทิ้งวัดไป ที่สำคัญท่านเคยประกาศว่า ขอตายในวัดที่คุณยายอาจารย์มหารัตน อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง สร้างให้พระสนิทวงศ์กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ธัมมชโย มีอาการอาพาธหนัก 8 อาการ ประกอบด้วย อาการป่วยเดิม 4 อาการ คือโรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้ เส้นเลือดอุดตันที่ขาซ้าย แผลติดเชื้อ ส่วนอาการป่วยที่ทำให้ไปต้องพักรักษาตัว 4 อาการ ได้แก่ อาการบ้านหมุนรุนแรงเฉียบพลัน ปัญหาในการทรงตัว อาการปวดหลัง ปวดขาซ้ายจากกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง คณะแพทย์ลงความเห็นต้องพักรักษาตัวงดปฏิบัติศาสนกิจอย่างน้อย 2 เดือน จึงไม่สามารถเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนได้

“ส่วนกรณีใบรับรองแพทย์โรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี มีแพทย์มาตรวจที่วัด โดยการร้องขอจากคณะแพทย์ที่ทำการรักษา เพราะเห็นว่ามีความเชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าว ตามความเห็นแพทย์ด้วยกันเห็นว่าใบความเห็นแพทย์ท่านนั้นไม่ได้เป็นเท็จ การออกใบความเห็นแพทย์ให้กับผู้ป่วยที่แพทย์ไปตรวจนอกสถานพยาบาลสามารถทำได้ สำหรับกระแสข่าวการลงชื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมไปที่ทำเนียบขาวนั้น เป็นความเคลื่อนไหวของลูกศิษย์ที่ได้รับสิทธิ์เป็นประชากรของประเทศสหรัฐอเมริกาดำเนินการ เนื่องจากลูกศิษย์คนดังกล่าวทนเห็นความอยุติธรรมที่เจ้าหน้าที่รัฐกระทำต่อธัมมชโยไม่ได้” พระสนิทวงศ์กล่าว

ขณะที่ พล.ท.นพ. ชุมพล เปี่ยมสมบูรณ์ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก กล่าวถึงกรณีวัดพระธรรมกายออกมายืนยันอาการป่วยธัมมชโย อ้างถึงใบรับรองแพทย์ที่ออกจากค่ายภาณุรังษี ว่า เรื่องนี้เป็นไปตามที่ ผอ.รพ.ค่ายภาณุรังษี ชี้แจงกับดีเอสไอ ธัมมชโยไม่เคยมารับการตรวจรักษาใน รพ.ค่ายภาณุรังษีมาก่อน ไม่มีประวัติการตรวจรักษา อีกทั้งที่ตั้งระหว่างวัดพระธรรมกาย และ รพ.ค่ายภาณุรังษี อยู่ห่างคนละจังหวัด สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบว่าตามปกติสามารถทำได้หรือไม่ เข้าใจว่าการออกใบรับรองแพทย์ครั้งนี้ เป็นเพราะแพทย์ที่มีตำแหน่งรอง ผอ.รพ.ค่ายฯ ที่เป็น 1 ในแพทย์ประจำตัวของธัมมชโยเป็นผู้ออกให้ ตามหลักของการออกใบรับรองแพทย์ ควรมาตรวจที่โรงพยาบาลถึงจะได้ใบรับรองแพทย์ คาดว่าผลสอบทางวินัยของ มทบ.16 กับ พ.ท.นพ.สิริพงศ์ พัฒนธนาวิสุทธิ์ รอง ผอ.ค่าย รพ.ภาณุรังษี จะออกในสัปดาห์หน้า มอบหมายให้ ผอ.รพ.ค่ายภาณุรังษี สอบสวนภายในกรณีนำใบรับรองแพทย์ออกไปภายนอกด้วย ระหว่างนี้ให้พ.ท.นพ.สิริพงศ์ งดการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรอง ผอ.โรงพยาบาลไปก่อน ให้ปฏิบัติหน้าที่เฉพาะแพทย์ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลเท่านั้น

ขอขอบคุณข่าวจาก Thairath
https://www.thairath.co.th/content/623791