เส้นทางคดี “ธาริต เพ็งดิษฐ์ ” ร่ำรวยผิดปกติ

0
154

ทันเหตุการณ์กับหลวงปู่พุทธะอิสระ

เส้นทางคดี “ธาริต เพ็งดิษฐ์ ” ร่ำรวยผิดปกติ

๑๐ มีนาคม  ๒๕๕๙

100359 ทันเหตุการณ์กับหลวงปู่พุทธอิสระ เส้นทางคดี “ธาริต เพ็งดิษฐ์ ” ร่ำรวยผิดปกติ

– ป.ป.ช. ตรวจสอบในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ที่ยื่น ต่อ ปปช. พบว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติ

 

– 30 ต.ค.2557 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งที่ 631/2557 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน”

 

– 19 เม.ย. 2558 คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า นายธาริต มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมีการโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติ จึงได้มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของนายธาริต และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ คู่สมรส ไว้เป็นการชั่วคราว ได้แก่ เงินฝาก ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ รวมมูลค่า 40,954,720.58 บาท

 

-ต่อมา คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติของนายธาริต และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ คู่สมรส รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องไว้เป็นการชั่วคราว เพิ่มเติม เมื่อรวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ชั่วคราว (ทั้งตอนแรกและตอนหลัง) รวมจำนวนทั้งสิ้น 90,260,687.40 บาท

 

-5 ม.ค. 2559 นายธาริต เข้าชี้แจงที่มาของทรัพย์สินกับคณะอนุกรรมการไต่สวน

 

-10 มี.ค. 2559 ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่า นายธาริต ร่ำรวยผิดปกติรวมมูลค่า 346,652,588.52 บาท โดยหลังจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณารายงานผลการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า นายธาริต และนางวรรษมล มีทรัพย์สินมากผิดปกติเกินกว่าฐานะและรายได้ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจะพึงมีได้ อีกทั้งยังปรากฏพฤติการณ์โอน ยักย้าย แปรสภาพหรือซุกซ่อนทรัพย์สิน รวมทั้งให้บุคคลอื่นถือทรัพย์สินแทน

 

กล่าวคือ ให้นายปิยฤกษ์ อรรถกานต์รัตน์ ซึ่งเป็นหลานชาย และบริษัท ปิยธนวรรษ จำกัด ซึ่งมีนายปิยฤกษ์ และนางกานดา เผือดจันทึก น้องสาวของนางวรรษมล เป็นกรรมการบริษัทฯ มีชื่อเป็นผู้ถือครองทรัพย์สินจำนวนมากแทน

 

– ขั้นตอนต่อไป ป.ป.ช ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด เพื่อให้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งให้สั่งทรัพย์สินของนายธาริตและผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 346 ล้านบาทเศษ ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป แต่คดีก็ต้องสู้กันไปตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงศาลฎีกา คดีถึงจะเป็นที่สุด

ขอขอบคุณ Nation TV

https://www.nationtv.tv/main/content/crime/378493213/