พระเมธี” ร้องให้เร่งคลี่คลาย คดีสมเด็จฯช่วง ทั้งคดีรถเบนซ์ผิดกฎหมาย และช่วยเหลือ “ธัมมชโย” ชี้ หากไม่รีบตั้วสังฆราชจะบานปลายถึงขั้นเสนอมีสังฆราช 2 องค์แยกปกครอง
คมชัดลึก 16 กรกฎาคม 2559
16 ก.ค. 59 – พระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พุทธศาสนาแห่งประเทศไทยให้สัมภาษณ์ รายการกรองข่าววันเสาร์เอฟเอ็ม102 ว่า ภายหลังการประชุมวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อประมวลท่าทีรัฐบาล และท่าทีของฝ่ายคัดค้านการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชที่ประชุมมีมติว่า ภายใน1สัปดาห์จะหารือร่วมกันอีกครั้ง เพื่อกำหนดท่าทีเดินไปสู่เป้าหมายและเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ อาจเป็นไปได้ทั้งรูปแบบมวลชนสัญลักษณ์ หรือการยื่นหนังสือเพื่อแสดงออกให้รัฐบาลเคารพมติมหาเถระสมาคม และจารีตประเพณีเป้าหมาย เพื่อรักษาองค์กรพุทธและคณะสงฆ์ และไม่เห็นด้วยต่อการจาบจ้วงคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ว่า เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ไ้ด ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีพูดว่า จะจับกุมคนที่ออกมาเคลื่อนไหวนั้น ตรรกะนี้ควรใช้กับทุกคนไม่ใช่จงใจใช้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
ส่วนกรณีที่นายกฯ อยากให้คดีความต่างๆสิ้นสุดก่อนจึงจะเสนอชื่อต่งตั้งพระสังฆราชนั้น พระเมธีกล่าวว่า สถาปนาจะเสียหายอะไร เมื่อคนกลุ่มหนึ่งต้องการให้สถาปนา แต่อีกกลุ่มไม่ต้องการเหตุใดจึงรับฟังเฉพาะฝ่ายที่คัดค้านรัฐบาลควรเข้ามาอยู่ตรงกลาง อีกทั้งตามข้อกฎหมายสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหา นี่คือประมุขสงฆ์ไม่ใช่คนธรรมดา เราไม่ได้ปกป้องท่านในเรื่องข้อกฎหมายแต่อยากเปรียบเทียบกับกรณีดาราไปซื้อรถในคดีใกล้เคียงกัน ใช้เวลาไม่นานก็คืนรถ ให้ดาราคลี่คลายคดีได้รวดเร็ว แต่กรณีของสมเด็จฯ มีคนซื้อรถถวายเหตุใดไม่รีบคลี่คลายคดี
สำหรับคดีช่วยเหลือพระธัมมชโยไม่ให้อาบัติปราชิกตามพระลิขิตของพระสังฆราชนั้น มีแต่คนพูดว่ามัวหมองอย่างนี้ จะเสนอสิ่งที่เป็นปัญหาได้อย่างไร ทั้งที่ควรรีบทำให้ข้อครหากระจ่างชัดไม่ใช่พูดอยู่เพียงว่ายังมีข้อขัดแย้งข้อครหามัวหมองพูดซ้ำอยู่เพียงเท่านี้ สิ่งที่เกิดขึ้นเด็กยังกูออกว่า เป็นเรื่องการเมืองและสีเสื้อ100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่เร่งตั้งสังฆราชจะเกิดความขัดแย้งบานปลายแตกแยกระหว่างธรรมยุติกับมหานิกายต่อไป อาจนำไปสู่ข้อเรียกร้องให้ทั้ง 2 นิกายมีสังฆราชของตัวเอง และอาจลุกลามถึงความขัดแย้งในหมู่ประชาชนด้วย
“ในชีวิตอาตมา ไม่เคยไปวัดธรรมกาย กรณีพระธัมมชโย มี 2 ประเด็นคือธรรมวินัยและข้อกฎหมาย ถ้าบ้านเมืองจะดำเนินการจะสอบสวนฝ่ายสงฆ์ ต้องหยุดรอไม่เคยมีข้อขัดแย้งเรื่องข้อกฎหมายจะป่วยไม่ป่วยมอบตัวหรือไม่เป็นข้อกฎหมายทั้งสิ้น อาตมาไม่เคยยุ่งเกี่ยวจะเข้าไปเฉพาะประเด็น ที่เกี่ยวพันกับส่วนรวมของคณะสงฆ์เท่านั้น ส่วนกรณีที่ทำหนับสือถึงเจ้าอาวาสวัดทั่วประเทศ เพื่อถามความเห็นใน 2 ประเด็นคือการเสนอชื่อแต่งตั้งพระสังฆราชว่าเป็นอำนาจของมส. หรือรัฐบาลและกรณีที่มีความพยายามแก้ไขพรบ.สงฆ์ ในหมวดคณะสงฆ์ เรื่องการแต่งตั้งพระสังฆราช หากไม่เห็นด้วยก็ขอให้เจ้าอาวาสวัดต่างๆ ทำหนังสือไปถึงนายกฯ” พระเมธีกล่าว
https://www.komchadluek.net/news/regional/234050
——————————————————–
เฮียแกมาอีกแล้วครับท่าน
เฮียแกยังยืนยันว่าจะออกมาเคลื่อนไหวแน่ๆ
ไม่เข้าใจพฤติกรรมของเฮียแก ทำไมสัปดนขนาดนี้
ชักออก ชักเข้า กล้าๆ กลัวๆ ดูไม่เป็นตัวของตัวเองเลย สรุปจะเอายังไงแน่เฮีย
การเคลื่อนไหวของพวกแกครั้งนี้อาจจะมีรูปแบบในเชิงสัญลักษณ์
หรือการเดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามมติของมหาเถร
ทำให้พุทธะอิสระนึกขึ้นมาได้ว่า พวกเราก็น่าจะไปยื่นหนังสือโจทก์อาบัติปาราชิกแก่สมเด็จช่วงบ้างได้เหมือนกัน
ส่วนสิกขาบทใดเอาไว้ว่ากันตามหลักฐาน เคไหมเฮีย
เอาเป็นว่าวันไหนเฮียออกไปเคลื่อนไหวยื่นหนังสือให้รัฐบาล
พุทธะอิสระก็ขออนุญาตออกไปยื่นหนังสือโจทก์สมเด็จช่วงบ้างนะเฮีย จักได้เสมอๆ กันไงเฮีย
ส่วนจะสามารถเอาผิดกับสมเด็จช่วงได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่พุทธะอิสระมีนะเฮีย
ที่เฮียบอกว่าการออกมาเคลื่อนไหวของเฮียครั้งนี้เพื่อปกป้องรักษาองค์กรพุทธและคณะสงฆ์
พุทธะอิสระก็อ้างบ้างได้เหมือนกันว่าการไปยื่นเรื่องโจทก์สมเด็จช่วงด้วยอาบัติปาราชิกก็เพื่อปกป้องรักษาองค์กรพุทธและคณะสงฆ์เหมือนกันนะเฮีย
ตกลงตามนี้นะเฮีย
เพราะพุทธะอิสระก็ยอมรับไม่ได้ที่จะให้คนผู้มีมลทินขึ้นมาเป็นสังฆราชเหมือนกับเฮียนั่นแหละ ที่ยอมรับไม่ได้ที่มีใครมาจาบจ้วงคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่
พวกเราก็ยอมรับไม่ได้ที่พวกเฮียจะมาจาบจ้วงสถาบัน
เหตุเพราะนำคนมีมลทิน โสโครก ซกมก ที่ยังไม่ได้รับการชำระล้างขึ้นทูลเกล้าขอพระราชทานสมณศักดิ์ ก็มิต่างอะไรกับนำสิ่งที่ไม่บังควรไปทูลถวาย
คนในแผ่นดินนี้เขาคงจะไม่ยอมด้วยเหมือนกันแหละเฮีย
และเฮียก็ไม่ต้องกังวลหรอก รัฐบาลเขาคงบังคับใช้กฎหมายกับทุกกลุ่มที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยให้บ้านเมืองนี้อยู่แล้ว เข้าใจนะเฮีย
ที่เฮียตัณหากลับขนาดสำรากออกมาว่า
ที่นายกอยากจะให้คดีจบก่อนจึงจะเสนอชื่อแต่งตั้งสังฆราชนั้น
เฮียถามว่าเสนอชื่อสถาปนาในเวลานี้มันจะเสียหายอะไร
อุต๊ะ พูดออกมาได้เนอะ
หากเป็นเช่นนั้นจริงอย่างที่เฮียว่า คงเป็นความซวยของประเทศไทยอย่างแน่นอน
ถ้าเช่นนี้ก็มีเหตุผลที่คุณประยุทธ์จะต้องอยู่รักษาความสงบสุขของประเทศไปอีกซัก ๑๐ ปี ตกลงไหมเฮีย
เฮียพูดถึงกรณีธัมมชโยมีปัญหา ๒ ประเด็น คือทางธรรมวินัยและข้อกฎหมาย
ถ้าฝ่ายบ้านเมืองจะดำเนินการสอบสวนฝ่ายสงฆ์ก็ต้องหยุดรอ
พุทธะอิสระขอถามว่า รออะไร
ในกฎนิคหกรรมก็กำหนดไว้ชัดว่า หากเป็นความผิดร้ายแรงถึงกับต้องให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุ ก็ให้ขบวนการทางศาลสงฆ์ทำการสอบสวนจนแล้วเสร็จ
ถามว่าศาลสงฆ์ได้ทำแล้วหรือยัง และเคยคิดจะทำให้อธิกรณ์ที่เกิดขึ้นยุติบ้างไหม รออะไร รอใคร รอทำไม
ที่ฝ่ายอาณาจักรเขาต้องยื่นมือเข้ามาทำเนี่ย ก็เพราะศาลสงฆ์มันช่วยปกปิดปกป้องผู้ถูกกล่าวหาอยู่มาถึง ๑๗ ปี
คนทั้งแผ่นดินเขาก็เห็นอยู่ รู้อยู่
ก็มีแต่เลขาศูนย์พิทักษ์ตำแหน่งสังฆราชอย่างเฮียเท่านั้นแหละที่ไม่เห็นไม่รู้
จึงออกมาพูดว่าอาตมาไม่เคยยุ่งเกี่ยว จะเจาะไปเฉพาะประเด็น
ย่อมแน่ละเฮีย เรื่องคดีอาบัติปาราชิกของคนที่อุปถัมภ์เฮียอยู่ เฮียจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้อย่างไร
ขืนเข้าไปเดี๋ยวก็ชวดลาภก้อนใหญ่เท่านั้นซิ
หลักฐานมันฟ้องให้คนทั้งแผ่นดินได้เห็นอยู่โทนโท่ว่า
เฮียเกี่ยวข้องกับลัทธิธรรมกายขนาดไหน
ขนาดสมุนมือกฎหมายและทีมโฆษกลัทธิธรรมกายยังมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสนับสนุนในวันชุมนุมที่พุทธมณฑลกับพวกเฮียเลย
เฮียจำไม่ได้แล้วหรือ
และที่เฮียบอกว่าได้ส่งหนังสือเวียนแจ้งไปยังวัดต่างๆ ทั่วประเทศในเรื่องขอความเห็น ๒ ประเด็นคือ
– ประเด็นแต่งตั้งสังฆราช
– ประเด็นที่มีความพยายามแก้ไขพรบ.คณะสงฆ์มาตรา ๗ ในหมวดคณะสงฆ์เรื่องการแต่งตั้งสังฆราช
หากไม่เห็นด้วยก็ให้ทำหนังสือถึงนายก
พุทธะอิสระก็มีความคิดว่า จะเรียกร้องให้พี่น้องชาวพุทธช่วยกันส่งหนังสือไปถึงท่านนายก ว่าควรจะนำคนมีมลทินขึ้นทูลเกล้าขอพระราชทานตำแหน่งพระสังฆราชหรือไม่
และควรแก้พรบ.ปกครองคณะสงฆ์ในมาตราที่สร้างปัญหาให้แก่พระธรรมวินัยหรือไม่
แม้ใจคิดจะถามว่าใครไม่อยากให้สมเด็จช่วงเป็นสังฆราชส่งหนังสือไปบอกนายกก็เกรงใจเฮีย
เฮียพูดถึงขนาดยกกรณีดาราซื้อรถหรูผิดกฎหมาย แค่คืนรถเรื่องก็จบ
แต่เวลาสมเด็จช่วงของเฮียเจอคดีแบบเดียวกันบ้าง เหตุใดจึงไม่รีบคลี่คลายคดีให้จบ
ดูเฮียแกพูดเข้าสิ
เฮียช่างกล้าพูดนะ ถึงขนาดเอาสถานะสมเด็จผู้ปฏิบัติหน้าที่สังฆราชของเฮียไปเปรียบเทียบกับเด็กหนุ่มดาราที่ไม่รู้ว่าศีลห้าอยู่ครบหรือเปล่าเลย
รวมความว่า เฮียกำลังจะบอกว่าสมเด็จของเฮียมีวุฒิภาวะเป็นได้แค่เด็กหนุ่มดาราคนนั้นเองหรือ
นี่เฮียไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ว่าสมเด็จของเฮียเป็นถึงรักษาการตำแหน่งสังฆราชเชียวนะ
นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าพนักงานของรัฐตามประมวลกฎหมายอาญา
แล้วสมเด็จช่วงของเฮียยังเป็นพระภิกษุด้วยนะเฮีย หรือไม่ได้เป็นแล้ว? ไม่ใช่ดาราหนุ่มนะเฮีย
นี่เฮียกำลังจะช่วยหรือกำลังจะซ้ำสมเด็จของเฮียกันแน่
แล้วที่เฮียพูดให้คนทั้งแผ่นดินเขาเข้าใจว่า แม้มีคดีก็ตั้งๆ ไปเถิด มันไม่ได้เสียหายอะไร
แน่ใจหรือว่านี่คือคำพูดของพระระดับท่านเจ้าคุณ
นี่เฮียอยากถึงขนาดไม่แยกแยะว่าอะไรถูกอะไรผิดแล้วจริงๆ หรือ
น่าสงสารคนที่เขาให้ข้าวให้น้ำเฮียกินจริงๆ
เฮียบอกว่ารัฐบาลรับฟังเฉพาะกลุ่มที่คัดค้านการแต่งตั้ง
แต่ไม่ยอมฟังกลุ่มที่สนับสนุนเลย
ก็เพราะพวกเฮียมันทะยานอยากจนหน้ามืดตาบอด ไม่แยกแยะดีชั่วถูกผิดเช่นนี้ไง
ถึงขนาดจะดันทุรังเอาคนมีมลทิน ต้องสงสัยในคดีความให้ได้ตำแหน่งสังฆราชให้ได้แบบนี้แหละ
รัฐบาลเขาถึงไม่ฟังพวกเฮีย
เพราะพวกเฮียมันมืดบอดไม่แยกแยะว่าอะไรถูกอะไรผิดไง เข้าใจหรือยัง
ส่วนที่เฮียบอกว่ามีคนซื้อรถถวายสมเด็จช่วง แล้วทำไมสมเด็จช่วงของเฮียต้องเซ็นเช็คจ่ายค่าเบนซ์หรู ๑ ล้านบาทล่ะเฮีย
ถามจริงเถิดเฮียรู้อะไรจริงๆ จังๆ เหมือนกับชาวบ้านชาวเมืองเขาบ้างไหมเนี่ย
ทำไมชอบโชว์โง่ตลอด
ส่วนที่เฮียว่ารัฐบาลควรจะทำให้ข้อครหากระจ่างชัดในกรณีธัมมชโยเป็นปาราชิกตามพระลิขิตของพระสังฆราช
แล้วทำไมเฮียไม่ไปบอกอุปัชฌาย์ของธัมมชโยเล่าเฮีย
เรื่องนี้มันเป็นอำนาจหน้าที่ของอุปัชฌาย์โดยตรงตามหลักพระวินัยเลยนะเฮีย
แต่ถึงเฮียไปบอก สมเด็จช่วงของเฮียคงไม่ทำอะไร
เพราะรับเงินรับทองของลูกศิษย์เลิฟมาเสียบานตะไท แล้วใครจะกล้าทำร้ายท่านผู้มีคุณ จริงไหมเฮีย
ไม่เช่นนั้นจะออกมาพูดว่า
“วัดธรรมกายกับวัดปากน้ำเป็นวัดพี่วัดน้อง มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน”
นี่คือคำพูดของอุปัชฌาย์ธัมมชโยจริงไหมเฮีย
อย่างนี้แล้วเฮียยังจะมาโยนขี้ใส่รัฐบาลอีก
รวมความแล้วในสายตาของเฮียมองว่าการที่อลัชชีธัมมชโยกลายเป็นหอกข้างแคร่คอยทิ่มแทงสมเด็จของเฮียอยู่ในเวลานี้เป็นความผิดของรัฐบาลคสช.งั้นสิ
ถามจริง เฮียใช้หัวอะไรคิด
และที่เฮียพูดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเด็กยังดูออกว่าเป็นเรื่องการเมือง และสีเสื้อ ๑๐๐ เปอร์เซ็น
พุทธะอิสระขอถามเฮียว่า แล้วเฮียอยู่สีไหนล่ะ
อย่าโกหกนะว่าไม่ได้อยู่สีไหน
ระวังจะตกนรกนะเฮียขืนโกหกบ่อยๆ
ที่เฮียพูดว่าถ้าไม่เร่งตั้งสังฆราชจะเกิดความขัดแย้งบานปลายแตกแยกระหว่างธรรมยุติกับมหานิกาย
ก็จริงนะเฮีย เพราะเวลาที่เฮียพูดนี้ มันได้กลายเป็นความขัดแย้งขึ้นมาแล้วจริงๆ
ที่เห็นๆ ก็คือเฮียต้องการเอาคนมีมลทินมาเป็นสังฆราช ก็ย่อมขัดแย้งกับพวกที่เขาไม่ยอมรับคนมีมลทิน มันขัดแย้งกันเห็นๆ อยู่แล้วเฮีย ไม่ต้องมาขู่หรอก
ส่วนที่เฮียว่าจะเกิดความแตกแยกระหว่างธรรมยุติกับมหานิกาย นี่เฮียกำลังจะบอกให้สังคมเขาเข้าใจว่า
เวลานี้มีการแก่งแย่งชิงตำแหน่งสังฆราชกันระหว่างธรรมยุติกับมหานิกายงั้นหรือ
เรื่องจริงหรือเฮียมโนเอาเอง
พุทธะอิสระ
