มาละโว้ย มาละวา มาแต่ของเขา สังฆราชของเรายังไม่มา

มาละโว้ย มาละวา มาแต่ของเขา สังฆราชของเรายังไม่มา
๖ กรกฎาคม ๒๕๕๙

ชี้ถ้ากฤษฎีกาตีความ ม.7 ขัดจารีตเป็นเรื่องแน่
ศูนย์พิทักษ์ฯ-องค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนาฯ จับตากฤษฎีกาตีความ มาตรา 7 สถาปนาสังฆราช เตรียมเคลื่อนไหวถ้าขัดจารีต ขณะที่นักวิชาการพระพุทธศาสนาชี้ ถ้ากฤษฎีกาตีความให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้เลือก สังฆราชที่แต่งตั้งโดยใช้พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับปัจจุบัน ก็ต้องเป็นโมฆะ
เดลินิวส์ จันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2559 เวลา 13.09 น.
วันนี้(4 ก.ค.)พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความมาตรา 7 หมวดสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2535ว่า คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนหลายส่วนเริ่มกังวลว่า ขณะนี้มีการประวิงเวลา และหากกฤษฎีกา เห็นตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็คงเป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากการเสนอนามสมเด็จพระสังฆราชไม่เคยเริ่มต้นจากนายกรัฐมนตรี หากเริ่มที่นายกรัฐมนตรี สมเด็จพระสังฆราชที่ผ่านมาต้องเป็นโมฆะทั้งหมด เพราะหลายพระองค์ก็ใช้
พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับนี้เหมือนกัน ดังนั้น คณะสงฆ์หวังว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาจะวินิจฉัยอย่างตรงไปตรงมา ไม่ขัดแย้งกับกฏหมายและจารีตที่เคยปฏิบัติมา อย่างไรก็ตาม หากไม่ยึดจารีต และกฎหมายคณะสงฆ์ องค์กรพุทธจะมีการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เพราะเป็นการสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคม และอาจจะเกิดปัญหาถึงรัฐบาลอีกด้วย
ผศ.ร.ท.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ ภาคีสมาชิกราชบัณฑิต แห่งราชบัณฑิตยสถาน และนักวิชการพระพุทธศาสนา กล่าวว่า หากมีการวินิจฉัยขัดวิธีและธรรมเนียมปฏิบัติ การตั้งสังฆราชที่ผ่านมาก็จะเป็นโมฆะ เพราะทำผิดขั้นตอนเช่นกัน ที่สำคัญเมื่อมหาเถรสมาคม(มส.) พิจารณาเลือก สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่อาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ ตามมาตรา 7 แห่งพ.ร.บ.คณะสงฆ์แล้ว หากคณะกรรมการกฤษฎีกา วินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอนามสมเด็จพระสังฆราช หากนายกรัฐมนตรีเลือกรูปอื่นขึ้นมาจะเกิดความวุ่นวายขึ้นอย่างแน่นอน หากต่อไปนายกรัฐมนตรี เป็นคนศาสนาอื่นขึ้นมาจะว่าอย่างไร นายกรัฐมนตรีจะต้องวินิจฉัยเอง หรือมีคณะกรรมการเลือกแล้วจะมีการแทรกแซงหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ(อพช.) โดย พระมหาบุญถึง ผลปุญโญ เป็นประธาน ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 7 ในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ และขอคัดค้านในการแก้ไขมาตรา 7 ในทุกกรณี โดยระบุความตอนหนึ่งว่า การเสนอนาม สมเด็จพระราชาคณะ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช เป็นอำนาจหน้าที่ของ มส. ลงมติเสนอนามและมอบหมายให้นายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯนั้นชอบแล้ว เป็นการไม่เหมาะสมที่จะให้ฆราวาสเสนอนามสมเด็จพระสังฆราช โดยไม่ผ่านการลงมติจากคณะสงฆ์ คือ มส. ซึ่งไม่เคยมีการกระทำเช่นนี้มาก่อน ดังนั้น หากรัฐบาลใดก็ตามขัดหรือแก้ไขพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ในมาตรา 7 ให้เป็นอย่างอื่นจากข้อความเดิมอพช.และเครือข่ายทั่วประเทศ จำเป็นต้องคัดค้านให้ถึงที่สุด.
https://www.dailynews.co.th/education/506786
———————————————-
เอาตำแหน่งสังฆราชของกูคืนมา
เอาตำแหน่งสังฆราชของกูคืนมา
กูสู้อุตส่าห์ลงทุน โกนหัว ห่มเหลือง จนมันแน่นอก ก็เพื่อรอวันนี้
ไหงอยู่ดีๆ จะมาแก้กฎหมายมาตรา ๗
แล้วตำแหน่งสังฆราชของหมู่เฮาล่ะ เมื่อไหร่จะตั้ง
ให้มันรู้ถึงความทุรนทุรายจากไฟตัณหาที่เผาลนหมู่เฮากันบ้างไหม
หมู่เฮาสู้อุตส่าห์ระดมพลพรรคแห่งเผ่าพันธุ์คนรักตำแหน่ง ไปชุมนุมที่พุทธมณฑลก็แล้ว
ออกมาขู่ว่าจะเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลก็แล้ว
หากเที่ยวนี้ยังไม่แต่งตั้งลูกพี่พวกเฮาอีก คงต้องเจอกับหมู่เฮาแน่ เข้าใจไหม
ที่เหลือวิจารณ์กันเอาเอง
พุทธะอิสระ