หายใจเข้า สังฆราช หายใจออก ของกู
๓ กรกฎาคม ๒๕๕๙
ด้าน ผศ.ดร.เสถียร วิพรมหา นายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องการแก้ไขมาตรา 7 พ.ร.บ.สงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 เกี่ยวกับการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช หลังก่อนหน้านี้ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการกฤษฎีกา และนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องกิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาจะตีความกฎหมายมาตรา 7 ตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่นายกรัฐมนตรีต้องเป็นต้นเรื่องในการเสนอชื่อพระราชาคณะขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่
“ผมเห็นว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เนื่องจากหากมีดำเนินการตามนั้น จะทำให้เกิดความขัดแย้งในเจตนารมณ์ของสังฆธรรมเนียมปฏิบัติ และโบราณราชประเพณี ส่งผลให้เกิดความแตกแยกรุนแรงระหว่างอาณาจักรและศาสนจักร ทั้งยังส่งผลต่อความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา การยื่นหนังสือครั้งนี้เป็นการแสดงจุดยืน และเพื่อให้คณะกรรมการกฤษฎีกายึดมั่นในเจตนารมณ์ของกฎหมายคณะสงฆ์ และดำเนินการตีความมาตรา 7 ตามครรลองและเป็นธรรมที่สุด” นายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนากล่าว.
https://www.thaipost.net/
———————————————-
ฉันสงสัยว่าตำแหน่งสังฆราชเกี่ยวอะไรกับฆราวาสนายนี้
หรือหวังว่าถ้าลูกพี่ได้เป็นสังฆราชแล้วตนจะมีความมั่นคงในหน้าที่การงาน
จึงได้พยายามกระเสือกกระสน วิ่งเต้น เรียกร้องตำแหน่งสังฆราชกันเสียจริงๆ
และคดีรถหรูหนีภาษีจะจบยังไงล่ะโยม
นี่ยังไม่นับรวมข้อหาบกพร่องต่อหน้าที่ของอุปัชฌาย์ ที่สังคมกำลังจับตามองอยู่ว่าทำไมผู้ที่เป็นอุปัชฌาย์ไม่คิดจะทำอะไรกับลูกศิษย์ที่ตกเป็นผู้ต้องหาแล้วหนีหมายศาล ซุกหัวอยู่ในวัดไม่ยอมออกมามอบตัวซักที
เป็นเหตุให้บริวารต้องคดีเพราะช่วยปกป้องลัทธิอลัชชีกันเป็นสิบคน
อีกทั้งในฐานะเป็นผู้ปกครองสูงสุดของสังฆมณฑล กลับวางเฉยต่อพฤติกรรมของลูกศิษย์ที่ย่ำยีพระธรรมวินัย กล่าวตู่พระพุทธเจ้า ต้องอาบัติปาราชิกเพราะอวดอุตริมนุสธรรม และฉ้อโกงทรัพย์
ละเมิดกฎหมายปกครองคณะสงฆ์
ละเมิดจรรยาพระสังฆาธิการ
และเมิดกฎหมายบ้านเมือง
ในฐานะประธานมหาเถรสมาคม และเป็นอุปัชฌาย์ของอลัชชี
กลับวางเฉย ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
แถมยังปฏิเสธความรับผิดชอบ บอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว
คนอย่างนี้น่ะหรือจะมาเป็นสังฆราช
หากได้เป็นจริงๆ อลัชชีคงเต็มแผ่นดินล่ะกระมัง
ขนาดยังไม่ได้เป็น ก็ยังไม่ยอมทำอะไรกับอลัชชีลูกศิษย์ตนเองเลยแม้แต่น้อย
แล้วจะไปกล้าหือกับอลัชชีตนอื่นได้กระนั้นหรือ
พุทธะอิสระ
