‘ทนายธัมมชโย’เผยไม่รู้ปมถือหุ้น ย้ำแค่ช่วยดูแลงานด้านกฎหมาย
วันศุกร์ ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 18.25 น.
13 พ.ค. 59 เมื่อเวลา 13.30 น. นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เข้าพบพนักงานสอบสวน สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะพยาน เพื่อให้ข้อมูล ในกรณีที่พนักงานสอบสวนพบหลักฐานว่านายสัมพันธ์ มีชื่อถือหุ้นในบริษัทเอ็มโฮมเอสพีวี 2 จำกัด ซึ่งนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ซื้อหุ้นมาด้วยเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำนวน 321.4 ล้านบาท โดยสั่งจ่ายเป็นเช็คจำนวน 10 ฉบับ
นายสัมพันธ์ ให้สัมภาษณ์ ก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ว่าตน เข้าไปเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้จริง แต่ไปในฐานะทนายความ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ที่เข้าไปเทคโอเวอร์บริษัทดังกล่าวให้ตนช่วยดูแลเรื่องกฎหมายและคดีความทั้งหมด รวมทั้งการปรับโครงสร้างหนี้บริษัทดังกล่าว เนื่องมาจากช่วงเวลานั้นบริษัทเอ็มโฮมเอสพีวีฯเป็นหนี้สถาบันการเงิน3แห่ง รวมเป็นจำนวนกว่า800ล้านบาท แต่เป็นเงินของสหกรณ์ฯเพียง 300 กว่าล้านบาทเท่านั้น
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสัมพันธ์ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นได้อย่างไรนั้น นายสัมพันธ์ กล่าวว่า ตนเอง จำไม่ได้เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการจัดสรรหุ้นกันเองของผู้ถือหุ้นในบริษัทฯ 2 คน คือ นายจำลอง ทับสุวรรณ และนายบรรลือ กองไชย เป็นผู้ร่วมถือหุ้นอยู่ด้วยและเป็นผู้บริหารจัดการหุ้นทั้งหมด ซึ่งตัวเองเข้าไปถือครองหุ้นเพียงระยะสั้นๆ โดยไม่ได้ผลประโยชน์ตอบแทน
ด้านพ.ต.ท.บรรณฑูรย์ ฉิมกรา ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ3 ดีเอสไอ เปิดเผยว่า การสืบสวนคดีนี้พบความเชื่อมโยงทางการเงิน โดยนายสัมพันธ์ มีชื่อถือครองหุ้นในบริษัทดังกล่าว และเชื่อได้ว่าเป็นการถือครอง แทนนายศุภชัย เนื่องจากมีเส้นทางการโอนย้ายถ่ายเทเงินในกลุ่มของนายศุภชัย มายังนายสัมพันธุ์ สำหรับวันนี้จะเป็นการสอบถามข้อเท็จจริงว่า นายสัมพันธ์ เข้าไปดำเนินการส่วนใดในบริษัทและ มีรายชื่อถือครองหุ้นบริษัทได้อย่างไร
ต่อมาเวลา 15.00 น. ภายหลังการเข้าให้ปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง นายสัมพันธ์ กล่าวว่า ได้รับประเด็นจากพนักงานสอบสวนเพื่อนำตรวจสอบข้อมูลก่อนเข้าชี้แจงกับพนักงานสอบสวนดีเอสไออีกครั้ง ซึ่งต้องไปตรวจสอบตั้งแต่ประเด็นที่มาของการเข้าไปถือหุ้นมาหลายข้อ ซึ่งกรณีดังกล่าวสหกรณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเพราะต้องการที่ดินไปทำโครงการให้สมาชิกสหกรณ์ แต่ในขณะนั้นบริษัท เอ็มโฮมฯ เป็นหนี้สถาบันการเงินและที่ดินจำนองกับสถาบันการเงิน
https://www.naewna.com/local/215607
———————————–
อัยย่ะ ทนายหน้าหอของอลัชชีก็พัวพันกับคดีฉ้อโกงเงินสหกรณ์กับเขาด้วยหรือเนี่ย
มิน่าล่ะ ถึงได้พยายามป้องกันอลัชชีเจ้านายตนอย่างสุดฤทธิ์
คงจะกลัวว่าความจริงจะเปิดเผย
เอาเป็นว่า งานนี้ว่ากันไปตามพยานหลักฐานนะญาติธรรม
ไม่รู้ว่าดีเอสไอจะเจอข้อหากลั่นแกล้ง ยัดเยียดข้อหาอีกหรือเปล่า
เฮ้อ เหนื่อยแทนผู้ทำหน้าที่รักษากฎหมายเสียจริงๆ
พุทธะอิสระ
