บทความของเจ้าคุณพระ อลัชชีลวงโลก ตอนที่ ๑

บทความของเจ้าคุณพระ อลัชชีลวงโลก ตอนที่ ๑
๒๓ เมษายน ๒๕๕๙

กรุณาดูตรงที่ไฮไลท์ (ดอกจันทร์ ๓ ดอก หัว-ท้าย) แล้วทนๆ อ่านของมันหน่อย

แล้วลองดูเทปบันทึกภาพและเสียงพร้อมถอดเป็นตัวหนังสือมาให้ท่านทั้งหลายได้พิสูจน์ว่าไอ้อลัชชีกระล่อนตัวนี้มันลวงโลกขนาดไหน
………………………………………………………..
เจ้าคุณเบอร์ลิน
13 เมษายน 2559
วันสงกรานต์ วันกตัญญู – ปีใหม่ไทย/ ประเพณีสำคัญไทย.
———————————-
– ช่วงนี้ ถือว่าเป็นมหาวันสงกรานต์ ตามประเพณีไทยเรา และถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย ๆ.
– ผมจึงอยากจะชวนคุยแบบไม่เครียดนะครับ.
– เพื่อเป็นการร่วมฉลอง และร่วมทำบุญอุทิศให้บรรพบุรุษ และผู้มีพระคุณที่ล่วงลับไปแล้วด้วยกัน.
– ดังนั้น ในโพสต์วันนี้ ผมขออนุญาตชวนคุยสาระเนื่องในวันสงกรานต์ เพื่อร่วมฉลองปีไหม่ไทย ๆ แบบน้ำแห้ง ๆ นะครับ.
——————————————
แทรกแจ้งข่าว สำคัญ
พุทธอิสระ – เงินอุดหนุนสังฆราช – เหตุเกิดที่ สตง.
– เรื่องนี้ ต้องถือว่าเป็นความลับสุดยอด ที่ขบวนพรรคพาล ช่วยกันเก็บเงียบสนิทกันมาตลอดมา และพยายามบ่ายเบี่ยงไม่พูดถึงใด ๆ เลย.
– นั้นคือ กรณีที่ พุทธอิสระ ทะเล่อทะล่า โง่แล้วขยัน ทะลุกลางปล้อง ที่ดันเดินทางไปยื่นเรื่อง สอบเงินอุดหนุนสังฆราช จำนวนกว่า ๓๐๐ ล้านบาท ที่ สตง. ที่ผ่านมา.
———————————————
– ปรากฎว่า เมื่อวาน ผมไปได้ความลับมาครับ.
– อันนิสัยผมนั้น พอมีอะไรดี ๆ ก็อยากจะเปิดเผยให้สาธุชนผู้รักความเป็นธรรมได้ทราบกันครับ จึงไม่อยากเก็บไว้คนเดียว.
– ครั้งนี้ก็เช่นกัน จึงขอแทรกมาตรงนี้เสียก่อนนะครับ ก่อนที่จะชวนคุยวันสงกรานต์.
– ก็ต้องถือว่า เป็นข่าวดีสำหรับชาวพุทธทุกท่านครับ.
***- แต่อาจเป็นข่าว “มหาซวย” กับ พุทธอิสระ และคณะก็ได้ครับ.***
————————————-
– เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๐ เมษา. ที่ผ่านมา.
– หลังเสร็จกิจกรรม งานสงกรานต์ ที่ วัดพุทธาราม นครเบอร์ลิน โดย มี ท่านเอกอัครราชทูต ฯพณฯ นงนุช เพชรรัตน์ มาเป็นประธานไปแล้ว.
– เมื่อวาน ๑๑ เมษายน ๒๕๕๙ ปรากฎว่า ผมไปได้ข่าวสำคัญมา ๒ ข่าว ดังนี้ ครับ.
***ข่าวที่ ๑.
– คือผมได้มีโอกาสพูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้ใหญ่ระดับบิ๊กของ สตง. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ พุทธอิสระ ได้เดินทางไปยื่นเรื่อง เพื่อให้ตรวจสอบเงินอุกหนุนสังฆราช ฯ ที่ผ่านมา. ***
– คือในช่วง ที่ สมเด็จพระญาณสังวร อดีตสมเด็จพระสังฆราช ทรงประชวร นั้นแหละครับ.
– จริง ๆ เมื่อวานเจตนาการพูดคุยก็แค่ อวยพรกันสังกรานต์ ตามธรรมเนียมประเพณีดีงามของไทยเท่านั้น.
– แต่ผู้ใหญ่ท่านนี้ ท่านอาจเอือมกับพวกมายื่นเรื่องมั่ว ๆ ที่ไม่รู้จักจบจักสิ้นนี้ก็ได้.
***- ท่านก็เลยได้เล่าให้ผมฟัง ถึงเหตุการณ์ในวันที่ พุทธอิสระ เดินทางไปยื่นเรื่อง ที่ สตง.***
– เพื่อให้ สตง. ทำการตรวจสอบเงินอุดหนุนสังฆราช ฯ ปีละ ๒๐ กว่าล้านบาท ในเวลา ๑๓ ปี รวมแล้วกว่า ๓๐๐ ล้านบาท นั่น ก็คือ ในช่วง ที่ สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวร ท่านทรงประชวร ว่า..
“มีการเบิกจ่าย โปร่งใส ถูกต้องหรือไม่”.
———————————–
– เรื่องนี้ มีรายลายเอียดที่ผมได้โพสต์ไปแล้วว่า ….
“เจตนาของพุทธอิสระ และคณะที่หยิบเรื่องนี้มาเดินเกมนั้น
ก็เพื่อกะจะเป็นหมัดเด็ดน๊อคไปที่วัดสระเกศ และวัดปากน้ำ นะแหละ
เพราะเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่พระสังฆราช ฯ ในช่วงนั้น”.
– แต่เผอิญ ต้องใช้คำว่า “กรรมตามทัน”.
– เพราะกลับกลายเป็นว่า “เรื่องร้อน” นี้.
– ดันเป็นไฟพุ่งย้อนมาเผาวัดบวรเสียเอง ดังที่ผมเคยบอกไปในโพสต์ที่แล้ว.
———————————–
– ผมไม่อยากบอก หรือให้เข้าใจว่า ผู้ใหญ่ที่ผมคุยท่านนี้ ก็คือ “อาจจะ” เป็นผู้ที่มารับเรื่องในวันนั้น หรอกนะครับ.
– แต่พุทธอิสระ และทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ในวันนั้น ในขณะนั้น ได้ยินกันชัดเจนทั้งสองหู.
– เรื่อที่ว่านี้ ก็คือ…
***- ผู้ใหญ่ท่านนั้น ท่านพูดออกมาตรง ๆ ในขณะที่ซองเอกสารยังอยู่ที่มือของท่านเลยว่า…
“จะให้ผมตอบตรง ๆ ตอนนี้เลยไหม ว่า ..
“ใครเบิกเงินส่วนนี้ไปใช้ และเอาไปทำอะไร”.
– แค่คำพูดไม่กี่ประโยคนี้ เล่นเอา พุทธอิสระตาเหลือกเลยครับ.
– เมื่อ พุทธอิสระ เจอไม้นี้แบบไม่คาดคิดเช่นนี้…
– ทราบไหมครับว่า…พุทธอิสระแกตอบว่าไง….
– แกตอบว่า “ไม่ต้องการให้ตอบ – ไม่ต้องการให้พูดตอนนี้”.
– จากนั้นก็รีบเดินทางออกจาก สตง. โดยทันที.
————————
– นี้แหละครับอีกพฤติกรรมน่าละอาย ความกระล่อน โง่แล้วอวดฉลาด โง่แล้วขยันของคนที่ “ไม่ใช่ของจริง” .***
– ทั้งก็ ไม่ใช่พญาราชสีห์ห่าเหวอะไรที่มักอวดอ้างหรอกครับ เป็นไดแค่ตัวอะไรก็ไปสรุปกันเอาเอง.
– ก็ทำไมละครับ ถ้าแน่จริง อยากรู้จริง.
***- พอเขาจะตอบให้ฟัง จะ ๆ ดันไปห้ามเขาทำไม.***
– ผมนี่หมดคำพูดเลยครับ กับ ศักดิ์ศรีของคนที่จะมาคิดปฏิรูป มาปรับปรุงคณะสงฆ์.
– สั้น ๆ นะครับ “แอบอ้างทั้งสิ้น”
——————————————
– ยังครับ เรื่องนี้ ยังไม่จบ มีภาคสอง.
– เชิญตามมาดูต่อ.
———————————–
***ข่าวที่ ๒.
– เมื่อพุทธอิสระเดินทางออกจาก สตง. กลับถึงวัด เท่านั้นแหละครับ ฟ้าผ่า ไฟก็ไหม้วัดอ้อน้อยทันที.
– เพราะปรากฎว่ามีสายด่วน เรียกมาจากคนที่เหนือขึ้นไป และเป็นคนแจกหมากให้ขบวนการนี้ไปเดินตลอดมา….. เปิดฉากก็
“ใส่ ๆ ๆ ๆ และก็ใส่ เป็นชุด”
– จนแกหูชา และสายเกือบใหม้.***
————————————
– ผมพูดถึงตรงนี้ ก็ขอให้ทุกท่านไปนั่งนึกหลับตา ถึงสภาพอาการตอนนั้น ของ พุทธอิสระ นะครับ ว่า แกจะเป็นเช่นไร.
– ในแค่วันเดียวเท่านั้น ก็ไปก่อเรื่องใหญ่พลาดถึงสองเรื่องติด ๆ กัน เป็นไปได้เช่นไร ถ้าไม่เรียกว่า “กรรมหนักกำลังให้ผล”.
– ผมคิดว่าสภาพจิตใจ ของแก ช่วงนี้คงจะช้ำน่าดูละครับ แกคงนึกสงสารตัวเองมากแหละว่า ..
“กูก็คน แต่ทำไม เกิดมาแล้ว ต้องให้คนอื่น ๆ มากดขี่ใช้ยิ่งกว่าทาสไปได้
ทั้งที่ ยอมเหนื่อยรับใช้มาตลอด
พลาดแค่นี้ไม่น่าจะถึงขนาดนี้”.
– นี่จะน่าสงสารหรือน่าอะไรแกดีกันครับ.
———————————————
– นี่คือ สาเหตุ ที่ พุธอิสระ และคณะ พยายามหลบเลี่ยง ไม่พูดถึง และตั้งข้อแม้ในการดีเบตว่า
“งดเว้นเรื่องนี้ (เงินอุดหนุนสังฆราช).”
– โดยทำทีแก้เกี้ยวว่า …
“เรื่องนี้ ได้ไปอยู่ในขบวนการยุติธรรมแล้ว”.
– ขบวนการยุติธรรมอะไรครับ ก็เพียงแค่ไปยื่นเรื่อง ซึ่งก็ปกติเหมือนทั่ว ๆ ไป แต่วันแต่ละเดือนก็คงมีมากมายที่จะมายื่น.
– ที่สำคัญ เขาก็จะขอตอบให้ฟังตรงนั้นเลย.
– ก็ยังดันไปห้ามเขาไม่ให้ตอบไปเสียอีก.
– มีไหมในโลกนี้ ไปถามเขา พอเขาจะตอบ บอกไม่ต้องตอบ วัยโจ๋สงกรานต์ “เง็งไหมครับ”.
—————————————————————–
– เป็นไงครับ เรื่องดีเบตที่ตั้งท่ากันจะเอากันให้ตาย สุดท้ายหายหัวกันไปหมด.
– แจ้งจ่างป่างอีกเรื่องแล้วหรือยัง กับพวกลวงโลกพวกนี้.
—————————————————-

– ทั้ง ๒ เรื่อง ข้่างต้น หาก ใครคิดว่าผมแต่งเรื่องขึ้นมาเอง.
– ก็พิสูจน์ไม่ยากครับ.
– แค่ออกมาช่วยกันยุทางสังคมโชเชียล และท้าให้ พุทธอิสระ และคณะ ว่่า…
“ออกมาพูดเรื่องนี้ให้กระจ่างสักที
อย่ามาทำอ้ำอึ้งงึบงำ เงียบเป็นเป่าสาก แกล้งไม่รู้ไม่ชี้อยู่เลย
และให้ชาวพุทธทุกคนช่วยกันไปขอให้ สตง.
เร่งรัดในการตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็ว”.
—————————————————–
เจ้าคุณเบอร์ลิน
12.04.2016
………………………………………………
ทีนี้ลองมาดูคลิปที่พุทธะอิสระไปเจรจายื่นหนังสือกับผู้ว่า สตง.

มาดูกันว่า ผู้ว่า สตง.พูดอย่างที่เจ้าคุณจอมลวงโลกกล่าวมาหรือเปล่า

………………………………………..

***- ผู้ใหญ่ท่านนั้น ท่านพูดออกมาตรง ๆ ในขณะที่ซองเอกสารยังอยู่ที่มือของท่านเลยว่า…
“จะให้ผมตอบตรง ๆ ตอนนี้เลยไหม ว่า ..
“ใครเบิกเงินส่วนนี้ไปใช้ และเอาไปทำอะไร”.
– แค่คำพูดไม่กี่ประโยคนี้ เล่นเอา พุทธอิสระตาเหลือกเลยครับ.
– เมื่อ พุทธอิสระ เจอไม้นี้แบบไม่คาดคิดเช่นนี้…
– ทราบไหมครับว่า…พุทธอิสระแกตอบว่าไง….
– แกตอบว่า “ไม่ต้องการให้ตอบ – ไม่ต้องการให้พูดตอนนี้”.
– จากนั้นก็รีบเดินทางออกจาก สตง. โดยทันที.***
…………………………………………………….
นอกจากมันโกหกแบบหน้าด้านๆ แล้ว
เจ้าคุณเดรัจถีย์ตนนี้ยังบังอาจมโนปัญญาอ่อน โชว์โง่ว่ากูแน่ มีความรู้กว้างไกลข้ามทวีป ถึงขนาดอวดรู้ว่ามีคนโทรมาหาพุทธะอิสระ
ไอ้เลวนี่มันยิ่งกว่าเด็กเลี้ยงแกะอีก
…………………………………………………..
***ข่าวที่ ๒.
– เมื่อพุทธอิสระเดินทางออกจาก สตง. กลับถึงวัด เท่านั้นแหละครับ ฟ้าผ่า ไฟก็ไหม้วัดอ้อน้อยทันที.
– เพราะปรากฎว่ามีสายด่วน เรียกมาจากคนที่เหนือขึ้นไป และเป็นคนแจกหมากให้ขบวนการนี้ไปเดินตลอดมา….. เปิดฉากก็
“ใส่ ๆ ๆ ๆ และก็ใส่ เป็นชุด”
– จนแกหูชา และสายเกือบใหม้.***
……………………………………………………

ทั้งที่โดยความจริง หลังจากฉันเดินทางกลับมาก็ลงสวน เขียนหนังสือ ไม่มีใครโทรมาหา เพราะฉันไม่มีโทรศัพท์

พวกคนติดตามก็บอกว่าไม่มีใครโทรมา
แล้วไอ้ที่อลัชชีตัวนี้ มโนไปว่าพุทธะอิสระทำงานเพราะมีใบสั่งจากคนที่อยู่เหนือพุทธะอิสระ

ฉันไม่รู้ว่าพ่อแม่ไอ้เจ้าคุณเด็กเลี้ยงแกะคนนี้เลี้ยงมันด้วยอะไร มันถึงได้โกหกกระล่อนปลิ้นปล้อนชั่วร้ายได้ขนาดนี้

เตรียมบอกให้ผู้ใหญ่ สตง. ของมึงมาเป็นพยานแก้ต่างให้ในชั้นศาลเถิด

ทีแรกว่าจะฟ้องเพราะสั่งสอน

แต่คิดไปคิดมาไอ้คนๆ นี้มันกล้าโกหกซ้ำซากอย่างไม่ละอายได้ขนาดนี้

ความเป็นพระมันคงไม่เหลือแล้ว

ถ้างั้นก็จัดการให้บทเรียนราคาแพงมันหน่อย

พุทธะอิสระ

======================
ถอดเทป: หลวงปู่พุทธะอิสระ ยื่นหนังสือให้ สตง. ช่วยตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช อันมิชอบ
๒๓ มีนาคม ๒๕๕๙

[เริ่มนาทีที่ ๑:๕๘]
หลวงปู่: ประเด็นก็คือ เรามีเอกสารหลักฐานในระดับหนึ่งที่สามารถจะชี้ช่องให้ผู้ตรวจเงินแผ่นดินได้ไปสืบค้น หาข้อมูลเพิ่มเติม หรือไม่ก็อาจสรุปเพื่อจะส่ง ป.ป.ช. ได้ในระดับหนึ่ง ก็คือการเบิกจ่ายเงินอันมิชอบ นั่นก็คือเงินอุดหนุนตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช เงินอุดหนุนก้อนนี้เนี่ย ปีนึงรัฐบาลส่งให้ ๒๓ ล้านบาท แต่ละปี เราค้นพบในระดับหนึ่งว่า ตั้งแต่ปี ‘๕๖ เป็นต้นมาเนี่ย มีการเบิกจ่ายเงินก้อนนี้ออกมา ทั้งที่สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช ทรงประชวรหนักอยู่ในโรงพยาบาล เราก็อยากจะทราบว่า เงินก้อนนี้ใครเป็นคนเบิกจ่าย แล้วเบิกจ่ายไปทำอะไร แล้วก็โดยอำนาจหน้าที่แล้วใครเป็นผู้มีสิทธิในการเบิกจ่าย ทั้งที่พระองค์ทรงประชวรหนัก ไม่สามารถที่จะใช้เงินก้อนนี้ ซึ่งเป็นจำนวนเงินมากพอสมควร คือ ๒๓ ล้านบาท ต่อปีเนี่ย ซึ่งเราก็มีหลักฐาน แล้วก็ส่งมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ดูแลเรื่องเงินของแผ่นดินได้ตรวจสอบ ซึ่งเราแยกออกมาเป็นประเด็นๆ เอาไว้ประมาณ ๖ ประเด็น

สุดท้ายก็ขอความกระจ่างชัด ในกรณีที่เรามายื่นหนังสือให้ตรวจสอบเงินสนับสนุนการศึกษาของมหาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่ง ซึ่งเรามายื่นไว้นานแล้ว แต่เรายังไม่ได้รับ ไม่ได้รับข้อตอบกลับว่ามันไปถึงไหนอย่างไร เพราะเท่าที่เราทราบมามีการใช้จ่ายเงินผิดประเภท แล้วก็นำเงินไปใช้สุรุ่ยสุร่าย มีการเหมาเครื่องบินออกไปทัศนศึกษา ช้อปปิ้งกันต่างประเทศกันเป็นเรื่องเป็นราว เป็นล่ำเป็นสันกันทุกปี เราก็อยากจะรู้ว่าวิธีใช้เงินของมหาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งนั้น กระทำการอย่างไร มีหลักการอย่างไร

แล้วที่สำคัญก็คือ มีหลักฐานยืนยันว่าสำนักพุทธฯ จะพยายามขอเบิกเงินงวดต่อมา ที่จะสนับสนุนให้กับผู้รักษาการสมเด็จพระสังฆราชได้ใช้จ่ายเงินก้อนนี้ คือ ๒๓ ล้านบาทอีก เราก็เลยอยากรู้ว่าแล้วที่ผ่านมาตั้งแต่ปี ‘๕๔ เนี่ย เอ้ย ‘๕๖ เนี่ย เป็นต้นมา จนถึงปี ‘๕๘ เนี่ย เงินก้อนนี้เนี่ยได้รับการเบิกจ่ายไปแล้ว ใครเป็นคนเบิก เบิกไปใช้อะไร ถูกวัตถุประสงค์หรือไม่ แล้วก็ตรงตามกติกาของสำนักงบประมาณหรือเปล่า แล้วใครกันแน่เป็นผู้มีสิทธิเบิก

อีกทั้งเราก็ขอตรวจสอบเรื่องเงินประจำตำแหน่งรักษาการสมเด็จพระสังฆราช หรือองค์คณะสมเด็จพระสังฆราชว่า มันมีอยู่จริงมั้ย เงินที่อุดหนุนผู้รักษาการสมเด็จพระสังฆราชเนี่ย มันมีอยู่จริงมั้ย แล้วถ้ามี ใครจะเป็นผู้มีอำนาจเบิก แล้วจำนวนยอดเท่าไหร่ แล้วเอาไปใช้กับกรณีใดบ้าง กิจกรรมใดบ้าง เพราะเมื่อไม่นานมานี้สำนักพุทธฯ ออกมาแถลงการณ์ว่าจะขอเบิกเงินก้อนนี้ ได้ยินว่าประมาณ ๒๐ กว่าล้าน เพราะงั้นก็เลย แล้วที่ผ่านมาใครเป็นคนเบิกไปแล้ว เราจึงอยากจะทราบเรื่องเหล่านี้ ซึ่งฉันแยกเอาไว้เป็นประเด็นๆ ทั้งหมด ๖ ประเด็น แล้วก็มีหลักฐานเอกสารอยู่ในนี้พร้อมเสร็จ (ในซองเอกสารที่ยื่น)

ผู้ว่าฯ สตง.: เป็นประเด็นแต่ละประเด็น

หลวงปู่: เป็นแต่ละประเด็น แล้วในนี้ก็มีหลักฐาน เอกสารยืนยันความผิดพลาด หรือความบกพร่องของแต่ละประเด็น แต่ละประเด็น คุณก็ ยังไงก็ลองให้ช่วย

ผู้ว่าฯ สตง.: ให้รับแทนท่านประธานฯ ไปด้วยมั้ยครับ

หลวงปู่: มีประธานด้วย

ผู้ว่าฯ สตง.: ออ กรรมการทุกคน

หลวงปู่: กรรมการทุกคนเลย

ผู้ว่าฯ สตง.: ออ ได้ๆ ครับ

หลวงปู่: คือ คราวที่แล้วให้คุณคนเดียว แล้วฉันยังไม่ได้คำตอบไง เอ้า นี่ฉันก็เลยเอามาให้

ผู้ว่าฯ สตง.: ได้เลยครับ

หลวงปู่: เอามาให้ทุกคนเผื่อจะได้คำตอบ

ผู้ว่าฯ สตง.: ได้ครับ

หลวงปู่: เพราะว่า รู้สึกว่าฉันส่งมาเป็นปีแล้วมั้ง ยังไม่มีเอกสารตอบรับไปเลยว่า มันไปถึงไหน อย่างไร

ผู้ว่าฯ สตง.: ครับ เดี๋ยวผมจะเรียนชี้แจงครับ

หลวงปู่: เออ นะ ถ้าอย่างไรแล้วช่วย ช่วงลงหนังสือรับด้วย แล้วก็ช่วยตอบของเก่าให้ด้วยว่าเรื่องมันไปถึงไหนแล้ว นะ

(หลวงปู่ ส่งมอบเอกสารให้ท่านผู้ว่าฯ สตง.)

คือ ฉันอยากให้คุณตอบเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเราจะได้เอาหลักฐานเนี้ยไปยื่นให้กับ ป.ป.ช. เพราะเรื่องเราส่งไปที่ ป.ป.ช. ในระดับหนึ่งแล้ว

ผู้ว่าฯ สตง.: ครับ ได้ครับ

หลวงปู่: โอเคนะ อันนี้ฝากผ่านท่านช่วยให้กรรมการทุกท่าน เดี๋ยวช่วยลงรับ

มีใครถามอะไรมั้ย

ผู้ว่าฯ สตง.: กราบเรียนนิดหนึ่งครับว่า

หลวงปู่: เชิญนั่ง

ผู้ว่าฯ สตง.: ครับ สำหรับประเด็นที่ ท่านได้เมตตา (หลวงปู่: มายื่นไว้) ได้ข้อชี้แนะต่างๆ ให้ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินนำไปสู่การตรวจสอบนั้น ในขั้นต้นนี้กราบเรียนว่า ประเด็นที่ท่านได้ตั้งประเด็นมาเพื่อประกอบการตรวจสอบนั้น เป็นเรื่องของการใช้จ่ายเงินนะฮะ ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ที่ สตง. ต้องตรวจสอบนะครับ ก็จะรับไว้ไปดำเนินการตรวจสอบ โดยแนวทางก็คือ เราต้องรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงในเรื่องการเบิกจ่าย เพื่อตอบตามประเด็นต่างๆ นะฮะ แล้วก็คงจะสรุปเป็นประเด็นนำเสนอคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินวินิจฉัยชี้ขาดต่อไปนะครับ

อันนี้ก็เป็นประการแรกสำหรับประเด็นที่เพิ่มเติมมาจากแต่เดิมนะครับ ที่เคยมีนะครับ ก็เราก็จะเร่งดำเนินการให้โดยเร็วที่สุดนะครับ ตามกระบวนการตรวจสอบนะครับ ก็ในชั้นนี้ก็อาจจะยังไม่ได้ดูในแง่รายละเอียดหลักฐานข้อเท็จจริงว่ามันพร้อมมูลยังไงนะครับ ก็อาจจะขอเวลาที่จะไปรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริง แล้วก็เร่งดำเนินการนะครับ เพราะว่าเรื่องนี้ท่านก็ได้เมตตากรุณามา (หลวงปู่: ครั้งที่ ๓ แล้วนะ) ยื่นมานะครับ

ทีนี้ส่วนที่ครั้งก่อนนั้นนะครับ ที่เป็นเรื่องของการใช้จ่ายเงินของสถาบันการศึกษาสงฆ์ นะครับ อันนั้นเป็นเรื่องที่เรานำไปประกอบเรื่องการตรวจสอบบัญชีการเงินตามประเด็นที่กำหนดไว้นะฮะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศเนี่ยนะครับ ก็เป็นส่วนหนึ่งของการประกอบการตรวจสอบหลักฐานการเงิน ใบสำคัญต่างๆ นะครับ แล้วก็เป็นเรื่องการประกอบความเห็นกับงบการเงินนะครับ ซึ่งเดี๋ยวผมจะสั่งการให้สรุปที่ตรวจมาได้นั้นแล้วเนี่ย (หลวงปู่: ช่วยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร) กราบเรียนไปให้ทราบด้วยนะครับ ครับๆๆ

ส่วนอันนี้เราก็จะรับไปดำเนินการ นะครับ ครับ ก็ขอเรียนไว้ตามนี้นะครับว่า (หลวงปู่: ขอบคุณมาก) ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจะรับไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้โดยเร็วที่สุดนะครับ

หลวงปู่: ขอบคุณมาก นักข่าวถามอะไรอีกมั้ย ไม่มี

นักข่าว: หลวงปู่ครับ พวกหลักฐานเอกสารที่เตรียมมา มันมีอะไรที่ชี้ให้เห็นครับว่าเราพบความไม่ชอบมาพากล ความไม่โปร่งใสต่างๆ

หลวงปู่: มีแน่ แต่มันอยู่ในหลักฐาน เดี๋ยวเค้าต้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเขาไปตรวจสอบก่อน ด้วยเหตุผลว่ามันเป็นเรื่องของทางราชการ ถ้าเราเปิดเผยไปเดี๋ยวอาจจะมีปัญหาเรื่องการตรวจสอบ เพราะงั้นก็อยู่ในเอกสารที่เรานำมามอบให้ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะไปค้นหาเจอได้ขนาดไหน แบบไหน อย่างไร เดี๋ยวก็ต้องดูวิธีการ เราก็เฝ้าดูการทำงานของผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยเฉพาะเรื่องการเงิน คณะสงฆ์ และสำนักพุทธฯ ซึ่งถ้าคุณต้องการพยานบุคคล ฉันก็พร้อมจะเอาพยานบุคคลมายืนยันให้ อย่างเช่นกรณี สำนักพุทธฯ อนุมัติงบประมาณอุดหนุนวัด ก็มีการไปตามทวง เขาเรียกว่าเงินทอน ตามทวงเงินทอนจากวัด ตัวอย่างเช่น วัดๆ นึงได้ไป ๒๐ ล้าน แต่ตามทวงเงินทอนกลับคืนมาเหลืออยู่ประมาณ ๑๖ ล้าน อย่างนี้เป็นต้น ขอให้ไปตรวจสอบด้วย อันนี้ถือว่าฉันไปชี้เบาะแสให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็ลอง พอได้เบาะแสแล้วก็ต้องไปตามค้นดู ว่าสำนักพุทธฯ ได้งบไปอุดหนุนวัดแต่ละวัดเนี่ย ทำไมมันจะอุดหนุนกันอยู่ประจำวัดเดียววัดนั้น ๑๐ ปี ๒๐ ปี ก็อุดหนุนแต่วัดนั้น วัดในประเทศไทย ๓๕,๐๐๐ วัด กลับไม่ได้รับการดูแล ก็ได้แต่ ได้แต่วัดที่อยู่ส่วนกลาง แล้วก็เป็นญาติ วงศาคณาญาติใกล้ชิดกับมหาเถรฯ ทั้งนั้น นี่คือพฤติกรรมในการใช้เงินอุดหนุนคณะสงฆ์ของสำนักพุทธฯ ซึ่งเราก็มองเห็นว่ามัน มันไม่น่าจะเป็นธรรมในการใช้จ่ายเงินงบประมาณหลวง เหมือนอย่างฉันเคยเอารายละเอียดลงไปในเฟสบุ๊คหลายครั้งมากว่า ปีที่แล้ววัดนี้ ต้นปีได้ ๗ ล้าน กลางปีได้อีก ๒ ล้าน ปลายปีได้อีก ๑๐ ล้าน อย่างเนี้ย แล้ววัดมีอยู่วัดเดียวหรือไงในประเทศไทย

ผู้ว่าฯ สตง.: อันนี้กราบนมัสการเรียนว่า ตั้งแต่ทาง สตง. ได้มีการไปจับสด กรณีเงินอุดหนุนวัด แล้วเรียกร้องเงินทอนกว่า ๘๐% ของเงินอุดหนุนนะฮะ เช่น ๔ ล้าน ก็ทอนซะ ๓.๒ ล้าน แล้วเราก็ไปจับสดได้ที่สงขลา (หลวงปู่: นั่นแหละ) แล้วเราก็มีการขยายผลออกมานะครับ ซึ่งเร็วๆ นี้ก็จะมีเรื่องนำเข้าสู่ที่ประชุมพิจารณาของ คตง. นะครับ ก็เรียนได้ในเบื้องต้นว่า เราได้พบเงินทอนย้อนไปนะฮะ ๒ ปี ปีนึงประมาณ ๓๐ กว่าล้าน อันนี้อาจจะไม่เต็มปีนะครับ แล้วก็อีกปีนึงก็ ๖๐ กว่าล้านที่เป็นเงินทอนนะครับ ซึ่งเหตุการณ์นี้ ที่เราตรวจสอบขยายผลจากที่จับที่สงขลา แล้วก็ขยายผลมาถึงทั่วไปฮะ นอกจากที่ภาคใต้แล้วก็ขยายผลออกมายังส่วนอื่นๆ ด้วยนะครับ

แต่ที่ภาคใต้นั้น ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ เนื่องจากภาคใต้นั้นวัดมักจะประสบความลำบากในเรื่อง (หลวงปู่: มันมีงบประมาณอุดหนุนลงไปมาก) ในเรื่องภูมิประเทศที่อยู่ในเขตที่ ญาติธรรมทั้งหลายเนี่ยลำบากที่จะไปทำบุญนะครับ ก็เลยมีการอุดหนุนเงินลงไป ในขณะที่ลำบากแล้วก็ยังมีการไปเอาเงินทอนกลับมาอีก (หลวงปู่: ใช่) ก็ซ้ำเติมปัญหาอีกนะครับ

เรื่องนี้ทาง สตง. ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะครับ โดยที่ประเด็นที่พระคุณท่านได้ให้มาเนี่ยนะครับ เราก็เอาไปสู่การขยายผลอยู่ครับ

หลวงปู่: แล้วก็อยากให้โฟกัสไปในส่วนกลาง ส่วนกลางที่มีการจ่ายเงินซ้ำซ้อน ต้นปี กลางปี ปลายปี แล้วก็ตามไปเก็บเงินทอน ฉันมีบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์พร้อมจะมาเป็นพยานให้ สตง. ถ้า สตง. ต้องการ (ผู้ว่าฯ สตง.: ครับ) ซึ่งเป็นนักบวชนี่แหละ เป็นเจ้าอาวาสนี่แหละ เขาพร้อมที่จะชี้แจงให้รู้ว่า เงินที่อุดหนุนเขาจริงๆ แล้วมันได้แค่ส่วนเดียว ที่เหลือนอกนั้นก็มีการทอนกันไป มีการมาเรียกรับเก็บไปทีหลัง

ซึ่งในเฉพาะในส่วนกลางที่เบิกซ้ำซ้อนกัน ซ้ำซากกันเนี่ยเป็นการรู้กันระหว่าง นักบวช กับ สำนักพุทธฯ ว่าถ้ามาตรงนี้แล้ว โอเค คุณจะได้กลับคืนไปเท่านี้ แต่ถ้าไปที่อื่นไม่แน่ คุณอาจจะไม่ได้กลับคืน หรือได้กลับคืนไปน้อยกว่าที่เคยได้ อย่างนี้เป็นต้น

ผู้ว่าฯ สตง.: ครับ

หลวงปู่: คือมันมีการตกลงกันระหว่างนักบวช กับ ผู้หาเงิน ผู้อนุมัติงบ นี่คือความเน่าของกระบวนการใช้งบประมาณหลวง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เนี่ย ฉันเคยเขียนลงเฟสบุ๊คไปหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการดูแล แต่เห็นว่า สตง. ไปจับที่ใต้ ฉันก็เห็นเงียบไป แล้วก็ไม่มีการสืบค้นต่อ (ผู้ว่าฯ สตง.: ครับ) ก็ฝากให้ช่วยสืบค้นให้จบ (ผู้ว่าฯ สตง.: ครับ) ให้สิ้นกระบวนการ แล้วก็กำจัดอลัชชีสงฆ์ที่เกาะกินผ้าเหลือง เกาะกินพระธรรมวินัย รวมทั้งร่วมมือกับข้าราชการฉ้อฉล ทุจริตงบประมาณหลวงซะที งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งมันน่าจะไปใช้อย่างอื่นได้มากกว่านี้ ฝากด้วยแล้วกัน

ผู้ว่าฯ สตง.: ครับ ขอน้อมรับครับ
======================

https://www.youtube.com/watch?v=Md8CHX8oOwA&feature=youtu.be